เด็กแนว มิติหุ้น : PK: กราฟกำลัง Break out สร้าง New high - HARN: พร้อมแล้วสำหรับกำไรหรู - NDT : Newsdataonline : ข่าวการลงทุน หุ้น สังคม ธุรกิจ หุ้น ดารา กีฬา อัพเดท!ทุกวัน..ทันเหตุการณ์

Details: Category: ซุบซิบการลงทุน; Published: Thursday, 22 February 2018 16:55; Hits: 3912

เด็กแนว มิติหุ้น : PK: กราฟกำลัง Break out สร้าง New high - HARN: พร้อมแล้วสำหรับกำไรหรู

PK: กราฟกำลัง Break out สร้าง New high

HARN: พร้อมแล้วสำหรับกำไรหรู

 PK จะแจ้งกำไรแรงฟ้าผ่า

กำไร 9 เดือนที่แจ้งไปแล้วพุ่ง 400 % เด็กแนวเคยบอกแล้วว่าผลจากการขายเครื่องจักรเติบโตมาก โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำแข็ง และตอนนี้ขยายไปตะวันออกกลาง อินโดนิเซีย และ CLMV เต็มตัว และขอบอกอีกว่า Q4 นี้จะแจ้งงบทุบสถิติกำไรเลย

เตรียมแจ้งกำไร new high เป้ากราฟ 9 บาท

ผลงานทั้งปีควรจะมีกำไรระดับ 270 ล้านบาท ดีสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งหากคิดมูลค่าที่ PE 15 เท่าจะได้เป้า 9.80 บาท และน่าจะจ่ายปันผลเฉียด 4% คุ้มค่ากับการเข้าเก็งกำไรรับงบอีกรอบส่วนกราฟกำลัง Break out สร้าง New high มองเป้ารอบนี้ 9 บาทได้เห็นกัน

HARN ของดีแต่ราคาถูกไป

พี่หารเป็นอีกบริษัทที่กำไรพุ่งขึ้นเท่าตัวหลังจากซื้อกิจการชิลแมท เข้ามารวมกัน โดย 9 เดือนกำไรพุ่ง 220% และทำท่าว่า Q4 นี้จะกำไรสูงสุดอีกแล้วครับท่าน และคอยจับตาการเข้าเทกโอเว่อร์ธุรกิจเพิ่มเติมงานนี้กำไรจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเช่นกัน

ในปี 61 อัตรากำไรจะดีขึ้นไปอีก เพราะหลังจากสร้างคลังสินค้าเสร็จจะลดต้นทุนไปมาก และรองรับคำสั่งซื้อเพียบ อีกทั้งบริษัทได้ผลบวกค่าบาทแข็งแนเนื่องจากนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ จึงทำให้ Q1 นี้ ยังโดดเด่น นักวิเคราะห์ให้เป้า 4.70 บาท ส่วนกราฟราคาต่ำมาก แนวทดสอบ 3.60 บาท ไปเจอกันคร๊าบบ

บล.เออีซี : Action Strategy

MARKET OUTLOOK

ดัชนี SET วานนี้ช่วงเช้าเปิดโดด บวกกว่า 11จุด ก่อนดัชนีขึ้นทำพีคในภาคเช้าที่ระดับดัชนี 1,814.83 จุด ก่อนถูกแรงขายตลอดช่วงบ่ายทำให้ดัชนีไหลกลับลงไปปิดที่ 1,801.16 จุดบวกเพิ่มขึ้นเพียง 0.14 จุด ทั้งนี้การยืนทรงตัวของ SET ในแนวบวก เป็นผลมาจากการปรับตัวขึ้นแรงของหุ้น PTT เป็นหลัก ด้วยการขยับขึ้นกว่า 32 บาทหรือกว่า 6.53% หากเทียบกับดัชนี SET แล้วการขึ้นของหุ้น PTT ตัวเดียวมีผลต่อดัชนีถึง 9.15 จุด อย่างไรก็ดีภาพรวมของตลาดยังถือได้ว่ายังมีความผันผวนไม่มาก การย่อตัวเป็นลักษณะของการย่อสลับขึ้น โดยเราคงมุมมองเดิมต่อการเคลื่อนไหวดัชนี SET จะสามารถเคลื่อนตัวเพื่อทดสอบแนวต้าน Gap 1,824 จุด ระหว่างวันหากดัชนีย่อตัวลงทดสอบแนวรับ 1,795 จุด ถือเป็นจังหวะการซื้อกลับ เพื่อหวังการรีบาวด์ขึ้นปิด Gap ดังกล่าวข้างต้น โดยมีจุด Stop loss ของรอบนี้ที่ 1,785 จุด ทั้งนี้ กราฟ 60 นาที เกิดสัญญาญทางเทคนิคอย่าง ADX เริ่มเชิดขึ้น จึงสนับสนุนมุมมองที่ว่าการย่อตัวของ SET ก็เป็นการย่อตัวเพื่อไปต่อ

STRATEGY

นักลงทุนระยะสั้น : ซื้อหากดัชนี SET เคลื่อนไหวลงมาบริเวณแนวรับ 1,795 จุด หวังรีบาวด์ โดยมี Stop Loss ขึ้นมาที่ 1,785 จุด

นักลงทุนระยะกลาง : ซื้อเพิ่มหากดัชนีเคลื่อนตัวทดสอบแนวรับ 1,795 จุด โดยมีเป้าหมายระยะกลางที่ Gap 1,824 จุด ทั้งนี้หากหลุด 1,785 จุด ขายก่อนเพื่อป้องกันความผันผวนที่สูงขึ้น

SECTOR FOCUS

SECTOR RECOMMEND สำหรับกลุ่ม MEDIA สื่อและสิ่งพิมพ์ ดีดตัวขึ้นกลับมาช่วงท้ายตลาดวันก่อน ปิดดัชนีที่ 65.34 จุด กราฟ 120 นาที การเคลื่อนไหวราคาอยู่ในกรอบของ Sideway ทั้งนี้ดัชนีได้ลงมาทดสอบแนวรับกรอบล่างแล้วเริ่มดีดตัวสู้ ทำให้คาดว่าวันนี้กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์จะรีบาวด์ต่อเนื่อง ประกอบกับเกิดสัญญาณซื้อระยะสั้นที่ Fast Stochastic (%K>%D) ทำให้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการดีดตัวขึ้นต่อ โดยเลือกหุ้น PLANB, TKS เป็น TOP PICK ของกลุ่มนี้

STOCK HUNTER

Point of view Double Bottom !!! วันนี้ Stock hunter เลือกหุ้น III เป็นตัวที่จะเคลื่อนไหวขึ้นหาแนวต้านจากการฟอร์มตัวด้วยรูปแบบราคาแบบ Double Bottom โดยมีแนวต้านแรกที่ 9.80 บาท ขณะที่คาดหวังราคาเป้าหมาย 11.50 บาท โดยมีแนวรับ 8.30 บาท และจุดตัดขาดทุน 8.00 บาท สนับสนุนมุมมองข้างต้นด้วยสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิคที่ MACD ยังคงตัดเหนือเส้น Signal ขณะที่ Modified Stochastic ยังคงสัญญาณซื้ออยู่ (%K>%D) เราเชื่อว่าท้ายที่สุด หุ้น III จะมาสามารถฟอร์มตัวต่อภาพของ Price Pattern แบบ Double Bottom ได้อย่างครบถ้วน

บล.เออีซี : Derivatives Signals

SET50 Index Futures

มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองวันนี้ขึ้นต่อ!!!

BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดบวกด้วย % มากกว่า Spot จน Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 2.65 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.85 จุด สูงกว่า Theory Basis ที่ -5.62 จุด สะท้อนมุมมองเป็นบวกในระยะสั้น (1.5 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.5 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -6.4 จุด ต่ำกว่า Theory Spread ที่ -5.46 จุด

PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.27x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.44x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.14x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.03x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ทั้งฝั่ง Volume และ OI อยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)

Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Net Long 8,248 สัญญา ใน Index Futures พร้อมกับซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 869 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 39,482 ล้านบาท

Technical Analysis

มุมมองด้านเทคนิค: Trading Long หวังปิด Gap!!!

เมื่อวานนี้ S50H18 เปิดบวกแล้วแกว่งในแดนบวกตลอดทั้งวัน จนปิด +7.3 จุด โดยเราเริ่มเห็นสัญญาณซื้อในกราฟ 120 นาที ไม่ว่าจะเป็นการพลิกกลับมายืนเหนือแนวรับ Uptrend Line ที่ 1,168 จุด หรือ Indicator ระยะสั้น เช่น RSI ปรับตัวจากเขต Negative Zone เป็น Positive Zone บวกกับ Modified Stochastic ที่ %K พลิกมากกว่า %D ซึ่งเรามองช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ดัชนีมีโอกาสขึ้นต่อ เพื่อปิด Gap ที่ 1,178.5 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

Outright Trading: Trading Long ลุ้นขึ้นต่อ หวังปิด Gap ที่ 1,178.5 จุด พร้อมกับตั้งจุด Stop Loss ที่ 1,165 จุด

บล.เออีซี : Daily Focus

AECS Daily Focus

Trading Idea: III

Connect the World- (P.2)

สหรัฐฯปิดในแดนลบหลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

Market Outlook

วันนี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์ 1,790 - 1,810จุด ระหว่างติดตามงบ บจ. ที่ทยอยประกาศ

Market Factors

(-)ตลาดหุ้น DJIA ปิด -0.67%DoD หลังรายงานประชุมเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

(-) ตลาดน้ำมัน WTI ปิด -0.2%DoD หลังดอลลาร์แข็งและรอติดตามสต็อกน้ำมันดิบวันนี้

(+) ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ม.ค.61 โต 2.46%YoY มาที่ 82,067 คัน

(+) ส.อ.ท. เผยความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ม.ค. 61 อยู่ที่ 91.0 สูงสุดในรอบ 36 เดือน

(+) รมว.พาณิชย์เผยยอดส่งออก ม.ค. 61 โต 17.6%YoY สูงสุดรอบกว่า 5 ปี

(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูลศก.ต่างประเทศ อาทิ สต็อกน้ำมันดิบจาก EIA และจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ, GDP 4Q60 ของอังกฤษ

Investment Strategy

ช่วงสั้นนี้มองตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวสร้างฐาน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้

1) หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมายืนเหนือ 60เหรียญฯ/บาร์เรล ได้แก่ PTT, PTTEP, PTTGC

2) หุ้น Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จาก ศก. ส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง ได้แก่ กลุ่ม ธพ. (KBANK, BBL) และกลุ่มค้าปลีก (ROBINS, BJC)

3) หุ้นที่คาดให้ Div. Yield>3% และ Upside> 10% ได้แก่ AP,SC, TISCO, RATCH

4) หุ้นที่คาดงบ 4Q60 โตดี YoY ได้แก่ ERW, BCH, LPH,HARN, JWD

Fundamental Reports

CBG (BUY@80.75): ช่วง 4Q60 กำไรหดตัว 25.7%YoY เพราะต้นทุนและ SG&Aเพิ่มขึ้นกดดันปี 60 กำไรหดตัว 16.4%YoY แต่คาดจะพลิกโตเด่น 61.3%YoY ในปี 61 จากโมเดลธุรกิจ Cash Van และการรุกต่างประเทศทั้ง CLMV จีนและอังกฤษ + มีUpside 16.2% พร้อมจ่ายปันผลจากกำไรปี 60 ที่ 0.50 บาท (XD 7 มี.ค.) จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ"

RS (BUY:TP@34): ช่วง 4Q60 มีกำไร 110 ลบ. พลิกจากขาดทุน 63 ลบ. ในช่วง 4Q59 และทั้งปี60พลิกมีกำไร 333 ลบ. จากขาดทุน 102 ลบ. ในปี 59 ส่วนปี 61 คาดกำไรโตเด่น185.7%YoY หนุนด้วยยอดขายธุรกิจสุขภาพและความงามที่คาดยังโตดีจากแผนเพิ่ม Call Center รองรับการทำ Out-Bound Call มากขึ้นบวกกับธุรกิจทีวีที่คาดฟื้นตัวหลังปรับเพิ่มค่าโฆษณาให้สอดคล้องกับ Rating ที่สูงขึ้น + Upside 7.9% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"

PIMO (SELL:TP@1.74): ช่วง 4Q60 กำไรหดตัว 85.8%YoY ทำให้ปี 60 มีกำไร 23 ลบ. หดตัว 41.8%YoY ส่วนปี 61 แม้คาดกำไรฟื้นตัว 56.8%YoY ตามกำลังซื้อในประเทศที่ดีขึ้นและค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาลดลงแต่ด้วยความล่าช้าของโครงการVSM และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นกดดันศักยภาพทำกำไรให้ไม่สดใสเหมือนก่อนทำให้ช่วงสั้นยังไม่น่าสนใจลงทุน

Market Talk and News

III (BUY@9.8): ปี 61 คาดกำไรโต 17.1%YoY จากอานิสงส์ไทยถูกปลดธงแดงจาก ICAO ส่งผลให้สายการบินไทยแอร์เอเชียและไทยแอร์เอชียเอ็กซ์ (พันธมิตรหลัก) ขยายเส้นทางการบินเพิ่มขึ้นอีกทั้งปีนี้มีแผนขยายธุรกิจใหม่ทั้งแอร์คาร์โกและสายการเดินเรือใหม่ + มีUpside 12.0% พร้อมจ่ายปันผลจากกำไรปี 60 ที่ 0.11 บาท (XD 6 มี.ค. นี้) แนะนำ "ซื้อ"