- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Friday, 16 February 2018 15:41
- Hits: 1960
เด็กแนว - ICHI ลุ้นแจ้งงบพลิกฟื้นขณะที่เขียนคอลัมน์นี้ ยังไม่เห็นการประกาศผลประกอบการใน Q4 แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่าจะแจ้งกำไรโดดเด่นพลิกจากขาดทุนหนักใน Q459 เป็นกำไรราว 60 ล้านบาท ซึ่งถือว่าก้อนโต ได้รับอานิสงส์จากยอดขายที่กลับมาพลิกฟื้นจาก CLMV การเน้นลดค่าใช้จ่าย บริหารต้นทุนและการตลาดที่แข็งแกร่ง ของทีมงาน ส่งผลให้ Turnaround จากนี้ไป
นอกจากนี้เด็กแนวเคยบอกไปแล้วว่า รัฐปล่อยราคาน้ำตาลลอยตัวยิ่งเป็นปัจจัยเสริมให้กับบริษัทเพราะราคาน้ำตาลดำดิ่งในรอบ 2 ปี ทำให้ต้นทุนน้ำตาลสะท้อนราคาที่แท้จริง ขณะที่การปรับสูตรความหวานไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับบริษัท เนื่องจากมีการปรับต่อเนื่องอยู่แล้ว นักวิเคราะห์ให้เป้า 11 บาทในรอบนี้ ส่วนกราฟมีโครงสร้างยก Low และยก High มองการเด้งตัวตามทรงนี้มีลุ้น 10.50 บาทเลยคร๊าบ เว้นแต่กำไรต่ำกว่าคาดมากอันนี้ต้องเผ่นเหมือนกัลลล
- FVC รักสวย รักงาม
โดยธุรกิจเดิมของ FVC เกี่ยวกับระบบน้ำดื่ม และธุรกิจด้านฟอกไตก็ถือว่ามีทิศทางของรายได้ขยายตัวดีขึ้นผิดหูผิดตาแล้ว โดย 9 เดือนกำไรพุ่ง 100% แต่ด้วยการมองไกลของผู้บริหาร ซึ่งมีพื้นฐานมาจากธุรกิจความงาม จึงไปคว้าวุฒิศักดิ์ มา 25 สาขา คัดแต่เนื้อๆ ที่มีผลตอบแทนดีเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ Q1 นี้ต่อไปเรื่อยๆ
ถ้าเราคิดอย่าง Conservative ให้กำไร 1 ล้านบาทต่อสาขา เท่ากับ FVC จะรับรู้กำไร 25 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นเติบโตกว่า 120% จากธุรกิจเดิมขนาดนั้นเลย ส่วนผลประกอบการ Q4 คาดว่ากำไรน่าจะโตไม่น้อยกว่า 40% และทำให้ทั้งปี 60 ควรจะมีกำไรประมาณ 200% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้ขึ้นไปไหนเลย มองกราฟกำลังตั้งลำแบบ W-shape มีหมายในการวิ่ง 3 บาทไม่ยากเลย เพราะหุ้นส่วนใหญ่ก็ถือในตระกูลอยู่แล้ว เหลือในกระดานประปราย แค่จามก็พุ่งปรี๊ดโดยง่ายเลย หมายเหตุบทวิเคราะห์นี้มิได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการที่ นายอนุโรจน์ เสนียประกรณ์ไกร โดย บ.ล เออีซี ถือหุ้นจำนวน 3.24%
โดยธุรกิจเดิมของ FVC เกี่ยวกับระบบน้ำดื่ม และธุรกิจด้านฟอกไตก็ถือว่ามีทิศทางของรายได้ขยายตัวดีขึ้นผิดหูผิดตาแล้ว โดย 9 เดือนกำไรพุ่ง 100% แต่ด้วยการมองไกลของผู้บริหาร ซึ่งมีพื้นฐานมาจากธุรกิจความงาม จึงไปคว้าวุฒิศักดิ์ มา 25 สาขา คัดแต่เนื้อๆ ที่มีผลตอบแทนดีเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ Q1 นี้ต่อไปเรื่อยๆ
ถ้าเราคิดอย่าง Conservative ให้กำไร 1 ล้านบาทต่อสาขา เท่ากับ FVC จะรับรู้กำไร 25 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นเติบโตกว่า 120% จากธุรกิจเดิมขนาดนั้นเลย ส่วนผลประกอบการ Q4 คาดว่ากำไรน่าจะโตไม่น้อยกว่า 40% และทำให้ทั้งปี 60 ควรจะมีกำไรประมาณ 200% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้ขึ้นไปไหนเลย มองกราฟกำลังตั้งลำแบบ W-shape มีหมายในการวิ่ง 3 บาทไม่ยากเลย เพราะหุ้นส่วนใหญ่ก็ถือในตระกูลอยู่แล้ว เหลือในกระดานประปราย แค่จามก็พุ่งปรี๊ดโดยง่ายเลย หมายเหตุบทวิเคราะห์นี้มิได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการที่ นายอนุโรจน์ เสนียประกรณ์ไกร โดย บ.ล เออีซี ถือหุ้นจำนวน 3.24%
บล.เออีซี : Action Strategy
MARKET OUTLOOK
ดัชนี SET เคลื่อนไหวราคาสวนทางจากที่ประเมินไว้วันก่อนหน้า กลับขึ้นมายืนปิดบวกกว่า 8.77 จุด ปิดสิ้นวันที่ระดับดัชนี 1,800.86 จุด ยืนเหนือเส้นค่า EMA 5 วันได้เป็นวันแรกของสัปดาห์ ทั้งนี้ยังคงต้องจับตามองการขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิม 1,806 จุด หากสามารถทะลุผ่านไปได้ ยังคงมี GAP ที่ 1,824 จุดรออยู่ จากกราฟ 120 นาที แท่งเทียนล่าสุดปิดด้วยรูปแบบแท่งเทียนเชิงบวก ( Bullish Engulfing ) ทำให้จากเดิมที่เรามีมุมมองต่อ SET แกว่งตัวลง เปลี่ยนเป็นการแกว่งตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,806 จุด ทั้งนี้มีสัญญาณทางเทคนิคสนับสนุนดังนี้ 1) Fast Stochastic เกิดสัญญาณซื้อระยะสั้น (%K>%D) 2) MACD โค้งตัวตัดเส้น Signal ขึ้นอีกครั้ง 3)การขึ้นมายืนอยู่บนเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5วันได้เป็นครั้งแรกของสัปดาห์ ทำให้วันนี้เรามีมุมมองต่อการเคลื่อนไหวของ SET แกว่งตัวทดสอบแนวต้าน 1,806 จุด หากผ่านไปได้จะมีแนวต้าน GAP บริเวณ 1,824 จุด รออยู่ อย่างไรก็ดีหากหลุดแนวรับระหว่างวันที่ 1,785 จุด SET จะเพิ่มความผันผวนขึ้น
STRATEGY
นักลงทุนระยะสั้น : ซื้อตามหากดัชนี SET สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1,806 จุดได้ แล้วยกจุด Stop Loss ขึ้นมาที่ 1,795 จุด
นักลงทุนระยะกลาง : คงมุมมองการถือเงินสดเพื่อรอจังหวะซื้อกลับ โดยมองการทะลุผ่านแนวต้าน 1,806 จุด หากยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้เข้าทยอยซื้อสะสม
นักลงทุนระยะสั้น : ซื้อตามหากดัชนี SET สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1,806 จุดได้ แล้วยกจุด Stop Loss ขึ้นมาที่ 1,795 จุด
นักลงทุนระยะกลาง : คงมุมมองการถือเงินสดเพื่อรอจังหวะซื้อกลับ โดยมองการทะลุผ่านแนวต้าน 1,806 จุด หากยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้เข้าทยอยซื้อสะสม
SECTOR FOCUS
SECTOR RECOMMEND ดีดตัวขึ้นจากฐาน สำหรับกลุ่มพลังงาน ในกราฟ 120 นาที แท่งเทียนล่าสุดปิดกลืนแท่งเทียนก่อนหน้า(Bullish Engulfing) ทางเทคนิคบอกสัญญาณกระทิง ประกอบกับรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาเริ่มยกจุดต่ำสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มเริ่มกลับมาน่าสนใจยิ่งขึ้น ด้านเครื่องมือทางเทคนิคอย่าง Fast Stochastic ให้สัญญาณซื้อในระยะสั้น (%k > %d) ทำให้เรามีมุมมองว่าวันนี้กลุ่มพลังงานจะปรับตัวขึ้นต่อได้ โดย TOP PICK วันนี้ เราเลือก BCP และ IRPC
SECTOR RECOMMEND ดีดตัวขึ้นจากฐาน สำหรับกลุ่มพลังงาน ในกราฟ 120 นาที แท่งเทียนล่าสุดปิดกลืนแท่งเทียนก่อนหน้า(Bullish Engulfing) ทางเทคนิคบอกสัญญาณกระทิง ประกอบกับรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาเริ่มยกจุดต่ำสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มเริ่มกลับมาน่าสนใจยิ่งขึ้น ด้านเครื่องมือทางเทคนิคอย่าง Fast Stochastic ให้สัญญาณซื้อในระยะสั้น (%k > %d) ทำให้เรามีมุมมองว่าวันนี้กลุ่มพลังงานจะปรับตัวขึ้นต่อได้ โดย TOP PICK วันนี้ เราเลือก BCP และ IRPC
STOCK HUNTER
Point of view พักตัวเสร็จพร้อมทะลายแนวต้าน หุ้นแนะนำ เลือก GGC ราคาวันนี้ทะยานขึ้นมาอย่างร้อนแรงปิดตัวด้วยแท่งเทียน Big White จ่อเบรกทะลุเส้น Downtrend ทั้งนี้ในกราฟวัน แท่งเทียนเบรกเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง จึงคาดว่าการพักตัวน่าจะเสร็จสิ้นแล้ว เนื่องจากเกิดสัญญาณการกลับตัว Bullish Divergence ประกอบกับสัญญาณเชิงบวกจากแรงส่งของ การเริ่มตัดขึ้นของ MACD เหนือเส้น Signal ประกอบกับสัญญาณซื้อระยสั้นอย่าง Stochastic %K > %D ทำให้เรามองว่าหุ้นจะวิ่งต่อไป แนะนำซื้อ มีแนวต้านแรกที่ 16.10 บ. และถัดไปที่ 17.30 บ.
Point of view พักตัวเสร็จพร้อมทะลายแนวต้าน หุ้นแนะนำ เลือก GGC ราคาวันนี้ทะยานขึ้นมาอย่างร้อนแรงปิดตัวด้วยแท่งเทียน Big White จ่อเบรกทะลุเส้น Downtrend ทั้งนี้ในกราฟวัน แท่งเทียนเบรกเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง จึงคาดว่าการพักตัวน่าจะเสร็จสิ้นแล้ว เนื่องจากเกิดสัญญาณการกลับตัว Bullish Divergence ประกอบกับสัญญาณเชิงบวกจากแรงส่งของ การเริ่มตัดขึ้นของ MACD เหนือเส้น Signal ประกอบกับสัญญาณซื้อระยสั้นอย่าง Stochastic %K > %D ทำให้เรามองว่าหุ้นจะวิ่งต่อไป แนะนำซื้อ มีแนวต้านแรกที่ 16.10 บ. และถัดไปที่ 17.30 บ.
อิศรา เลิศสุดคนึง (เลขทะเบียน 033432) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดลดมุมมองเชิงลบต่อดัชนี!!!
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดบวกด้วย % มากกว่า Spot จน Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 3.92 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.37 จุด กลับมาใกล้เคียง Theory Basis ที่ -2.93 จุด สะท้อนการพลิกมุมมองจากลบเป็นกลางในระยะสั้น (1.5 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ปิดลดลง 0.9 จุด เทียบกับวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.8 จุด คงใกล้เคียง Theory Spread ที่ -5.29 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.02x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.03x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.04x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.02x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net Long 3,776 สัญญา ใน Index Futures แต่มีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้น 939 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 41,317 ล้านบาท
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดบวกด้วย % มากกว่า Spot จน Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 3.92 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -3.37 จุด กลับมาใกล้เคียง Theory Basis ที่ -2.93 จุด สะท้อนการพลิกมุมมองจากลบเป็นกลางในระยะสั้น (1.5 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ปิดลดลง 0.9 จุด เทียบกับวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.8 จุด คงใกล้เคียง Theory Spread ที่ -5.29 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.02x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.03x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.04x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.02x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net Long 3,776 สัญญา ใน Index Futures แต่มีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้น 939 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 41,317 ล้านบาท
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: V Shape ลุ้นปิด Gap 1,178.5!!!
เมื่อวานนี้ S50H18 เปิดบวกทรงตัวในแดนบวกช่วงเช้า แล้วแกว่งขึ้นในช่วงบ่าย จนปิด +12.8 จุด โดยเกือบจะปิด Gap แรกที่ 1,166 จุด ทั้งนี้เราพลิกกลับมามีมุมมองเชิงบวกต่อดัชนีมากขึ้น หลังพบสัญญาณซื้อในกราฟ 120 นาที โดย RSI เข้าสู่เขต Positive Zone หรือมากกว่า 50% และ Modified Stochastic ที่ %K พลิกตัด %D ขึ้น หากวันนี้ดัชนีขึ้นไปทะลุแนวต้าน Gap แรก 1,166 จุด ได้สำเร็จ คาดสัปดาห์หน้าจะมีโอกาสขึ้นต่อเพื่อปิด Gap ที่สอง 1,178.5 จุด
เมื่อวานนี้ S50H18 เปิดบวกทรงตัวในแดนบวกช่วงเช้า แล้วแกว่งขึ้นในช่วงบ่าย จนปิด +12.8 จุด โดยเกือบจะปิด Gap แรกที่ 1,166 จุด ทั้งนี้เราพลิกกลับมามีมุมมองเชิงบวกต่อดัชนีมากขึ้น หลังพบสัญญาณซื้อในกราฟ 120 นาที โดย RSI เข้าสู่เขต Positive Zone หรือมากกว่า 50% และ Modified Stochastic ที่ %K พลิกตัด %D ขึ้น หากวันนี้ดัชนีขึ้นไปทะลุแนวต้าน Gap แรก 1,166 จุด ได้สำเร็จ คาดสัปดาห์หน้าจะมีโอกาสขึ้นต่อเพื่อปิด Gap ที่สอง 1,178.5 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: Hold Long ลุ้นขึ้นต่อ เพราะยังไม่หลุดแนวรับ 1,150 จุด และเพิ่มน้ำหนักฝั่ง Long มากขึ้นหากทะลุแนวต้านที่ 1,166 จุด หวังปิด Gap ที่สอง 1,178.5 จุด พร้อมกับขยับจุด Stop Loss เพิ่มเป็น 1,160 จุด
Outright Trading: Hold Long ลุ้นขึ้นต่อ เพราะยังไม่หลุดแนวรับ 1,150 จุด และเพิ่มน้ำหนักฝั่ง Long มากขึ้นหากทะลุแนวต้านที่ 1,166 จุด หวังปิด Gap ที่สอง 1,178.5 จุด พร้อมกับขยับจุด Stop Loss เพิ่มเป็น 1,160 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Trading Idea: GGC
เด็กแนว: ICHI , FVC
Connect the World- (P.2)
ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศคืนนี้
ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศคืนนี้
Market Outlook
วันนี้เราคาด SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,790 - 1,815 จุด โดยดัชนียังมีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้ หลังมี Sentiment บวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น
วันนี้เราคาด SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,790 - 1,815 จุด โดยดัชนียังมีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้ หลังมี Sentiment บวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น
Market Factors
(+) ดัชนี DJIA ปิด +1.2%DoDหนุนด้วยตัวเลข ศก. สหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงผลประกอบการช่วง 4Q60 ของ บมจ. ที่ออกมาดีกว่าคาด
(+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +1.2%DoD หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ OPEC เตรียมขยายระยะเวลาความร่วมมือลดกำลังการผลิตของกลุ่มไปจนถึงสิ้นปี
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ อาทิ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น ก.พ. รวมทั้งตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างม.ค.
(+) ดัชนี DJIA ปิด +1.2%DoDหนุนด้วยตัวเลข ศก. สหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงผลประกอบการช่วง 4Q60 ของ บมจ. ที่ออกมาดีกว่าคาด
(+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +1.2%DoD หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ OPEC เตรียมขยายระยะเวลาความร่วมมือลดกำลังการผลิตของกลุ่มไปจนถึงสิ้นปี
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ อาทิ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น ก.พ. รวมทั้งตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างม.ค.
Investment Strategy
แม้เรามองสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยเผชิญความผันผวนที่ลดลงและมีโอกาสปรับตัวขึ้น หลังผ่านพ้นช่วงเกิด Panic sell ไปแล้วในสัปดาห์ก่อน แต่คาดดัชนียังอยู่ในช่วงพักตัวระยะสั้นดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงยังคงแนะนำ"เน้นซื้อแนวรับ" ในหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจดังนี้
1) หุ้นได้อานิสงส์จากแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเร่งลงทุน EEC ได้แก่ AMATA, WHA, CK, STEC
2) หุ้น Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จาก ศก.ฟื้น ได้แก่ KBANK, BBL, ROBINS, BJC
3) หุ้นที่ให้คาดเป็นหลุมหลบภัย (Safe heaven) โดยให้Div. Yieldเกิน 4% ได้แก่ SC, MCS, KKP, TISCO, GLOW, EGCO, RATCH
4) หุ้น Mid-Small Cap.ที่คาดกำไร 4Q60 โตดี YoY ได้แก่ ERW, BCH, HARN, JWD
แม้เรามองสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยเผชิญความผันผวนที่ลดลงและมีโอกาสปรับตัวขึ้น หลังผ่านพ้นช่วงเกิด Panic sell ไปแล้วในสัปดาห์ก่อน แต่คาดดัชนียังอยู่ในช่วงพักตัวระยะสั้นดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงยังคงแนะนำ"เน้นซื้อแนวรับ" ในหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจดังนี้
1) หุ้นได้อานิสงส์จากแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเร่งลงทุน EEC ได้แก่ AMATA, WHA, CK, STEC
2) หุ้น Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จาก ศก.ฟื้น ได้แก่ KBANK, BBL, ROBINS, BJC
3) หุ้นที่ให้คาดเป็นหลุมหลบภัย (Safe heaven) โดยให้Div. Yieldเกิน 4% ได้แก่ SC, MCS, KKP, TISCO, GLOW, EGCO, RATCH
4) หุ้น Mid-Small Cap.ที่คาดกำไร 4Q60 โตดี YoY ได้แก่ ERW, BCH, HARN, JWD
Fundamental Reports
ROBINS (BUY:TP@79): ช่วง 4Q60 กำไรปกติโต 18.2%YoY และทั้งปี 60 โต 9.7%YoY ดีกว่าคาดหลังรายได้จากลงทุนโตสดใสตามพื้นที่เช่าที่มีเพิ่มขึ้น ส่วนปี 61 คาดโต 10.3%YoY หลังมองยอดขายสาขาเดิมพลิกโต YoY ตาม ศก. ที่ฟื้นและอานิสงส์มาตรการเที่ยวเมืองรอง (มีสาขา21แห่งตั้งในเมืองรอง) อีกทั้งจะรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่เปิดปีละ 3แห่ง + Upside 10.9% และมีเงินปันผลจ่าย 1.25 บาท (XD 5 มี.ค.) จึงแนะนำ "ซื้อ"
NYT (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 กำไรเติบโต19.2%YoY จากปริมาณส่งออกรถยนต์เริ่มดีขึ้นส่งผลให้ทั้งปี60 กำไรหดตัวเพียง0.3%YoY ส่วนปี61-62 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 2.1% จากออเดอร์ส่งออกรถยนต์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังราคาน้ำมันพลิกกลับมาเป็นขาขึ้น + มีUpside 3.9% พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี60 ที่0.30 บาท/หุ้นคิดเป็น Div. Yield 4.7% (XD 7 พ.ค. และจ่ายปันผล 24 พ.ค. นี้) จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"
ROBINS (BUY:TP@79): ช่วง 4Q60 กำไรปกติโต 18.2%YoY และทั้งปี 60 โต 9.7%YoY ดีกว่าคาดหลังรายได้จากลงทุนโตสดใสตามพื้นที่เช่าที่มีเพิ่มขึ้น ส่วนปี 61 คาดโต 10.3%YoY หลังมองยอดขายสาขาเดิมพลิกโต YoY ตาม ศก. ที่ฟื้นและอานิสงส์มาตรการเที่ยวเมืองรอง (มีสาขา21แห่งตั้งในเมืองรอง) อีกทั้งจะรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่เปิดปีละ 3แห่ง + Upside 10.9% และมีเงินปันผลจ่าย 1.25 บาท (XD 5 มี.ค.) จึงแนะนำ "ซื้อ"
NYT (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 กำไรเติบโต19.2%YoY จากปริมาณส่งออกรถยนต์เริ่มดีขึ้นส่งผลให้ทั้งปี60 กำไรหดตัวเพียง0.3%YoY ส่วนปี61-62 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 2.1% จากออเดอร์ส่งออกรถยนต์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังราคาน้ำมันพลิกกลับมาเป็นขาขึ้น + มีUpside 3.9% พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี60 ที่0.30 บาท/หุ้นคิดเป็น Div. Yield 4.7% (XD 7 พ.ค. และจ่ายปันผล 24 พ.ค. นี้) จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"
Market Talk and News
HARN ([email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตเด่น 154%YoY หนุนด้วยบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และการควบรวมกิจการกับ CM และ QIIS ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.59ส่งผลให้ทั้งปี 60 คาดกำไรโต 199%YoY และโตต่อ 19.4%YoY ในปี 61 จากแผนเพิ่มสินค้าใหม่ๆและแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ + มี Upside 49%จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
HARN ([email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโตเด่น 154%YoY หนุนด้วยบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และการควบรวมกิจการกับ CM และ QIIS ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.59ส่งผลให้ทั้งปี 60 คาดกำไรโต 199%YoY และโตต่อ 19.4%YoY ในปี 61 จากแผนเพิ่มสินค้าใหม่ๆและแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ + มี Upside 49%จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BANPU, ORI
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BANPU, ORI
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO5631
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO5631
