WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ACESเด็กแนว - SUN เป้าหมายไกลยิ่งนัก
          จัดเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างหุ้นที่เข้าตลาดวันแรกและราคาผิดคาด โดยเทจนต่ำจอง แต่ในระยะสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมองเห็นความพยายามฮึดสู้อย่างสุดฤทธิ์ ด้วยวอลุ่มแน่น แรงยกมีให้เห็น พร้อมมีข่าวสนับสนุนด้านธุรกิจอย่างเต็มที่ ทั้งการผลิตที่เพิ่มขึ้น การส่งออกที่เติบโตเด่นในญี่ปุ่น และการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เพื่อแตกไลน์การผลิตให้หลากหลาย
เด็กแนวมองว่าอนาคตระยะยาวจัดเป็นบริษัทที่น่ามอง อีกทั้งการเพิ่มตลาดส่งออกไปตะวันออกกลางและขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น จะทำให้รายได้เติบโตอย่างแน่นอน  สิ่งที่ชอบก็คือนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองในระดับใกล้เคียงกันหรือเฉลี่ยราคาเป้าหมายราว 7.50 บาท ซึ่งมี Upside เกิน  35% มากขนาดนี้ราคาหุ้นควรจะวิ่งแล้วนะ ขณะที่กราฟปั้นกันมาจนจะ Break out แล้ว  มาลุ้นข้างหน้า 6 บาท เกินกว่าราคา IPO กันเถอะ ปูทรงกันมาขนาดนี้แล้ว คงไม่หยุดแน่
- AMC โอกาสของหุ้นเหล็ก
          หุ้นเหล็กรอบนี้ยังไม่ได้เล่นอะไรที่รับข่าวบวกอานิสงส์ราคาเหล็กรีดร้อนพุ่งแรงในรอบ 7 ปีเลย  แต่ก็เริ่มเห็นขยับตัวแล้ว ซึ่งเด็กแนวมองว่าจังหวะตรงนี้น่าเล่นอย่างมาก เพราะราคาหุ้นก็ลงมา Bottom สุดๆ หักกลบลบล้างปัจจัยลบหมดสิ้นแล้ว โดยเฉพาะ AMC ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแผ่นรีดร้อน ที่กำไรสต็อก และราคาขายเต็มๆ ตั้งแต่ Q161
          นอกจากนี้ยังรับอานิสงส์ตรงๆ  จากการถือหุ้น Prime Steel 25% ซึ่งเป็นโรงเหล็กที่มีกำไรรุนแรงมาก และเตรียมตัวจะเข้าตลาด   ถือว่า AMC เป็นหุ้นราคาไม่แพง ด้วย PE 9 เท่า และ PBV 0.76 เท่า ของดีราคาถูกเกินไปแล้ว  มาคอยดูกันกับกำไรที่จะก้าวกระโดดในปี 61 แนะนำว่าซื้อสะสมในขณะที่ราคาต่ำ ของแห้งกันเถอะ ส่วนกราฟกำลังม้วนตัวขึ้นแล้ว ส่งสัญญาณไม้ต้น น้ำแรก แนวต้าน 3.60 บาท สะสมกันเถอะ ถูกเกินจริงไปแล้วนะ

บล.เออีซี : Action Strategy
MARKET  OUTLOOK
          ดัชนี SET ล่าสุด ในกราฟ 120นาที สามารถยกจุดสูงเพิ่มขึ้นสร้าง Higher High ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยก Higher Low มาล่วงหน้าแล้ว โดยวิ่งไปทดสอบแนวต้านแรกที่ประเมินไว้ 1,806 จุด ได้สำเร็จ แม้ SET จะเจอแรงขายบริเวณแนวต้านแรกลงมาทำให้ดัชนีปิดสิ้นวันที่ 1,800.03 จุด เรายังคงมุมมองต่อการเคลื่อนไหวของ SET ในลักษณะของการแกว่งตัวขึ้นต่อเพื่อขึ้นทดสอบแนวต้าน GAP ถัดไปในสัปดาห์นี้ที่ระดับดัชนี 1,824 จุด โดยประเมินแนวรับระหว่างวันไว้บริเวณ 1,795 จุด ทั้งนี้ระหว่างไม่ควรวกกลับมาเทรดต่ำกว่า 1,785 จุด เพราะจะทำให้ภาพรวมตลาดระหว่างวันดูแย่ลง หรือทำให้ภาวะกระทิงดูอ่อนกำลังลง  ทั้งนี้ทางเทคนิคในกราฟ 120 นาที ยังพบสัญญาณเชิงบวกทั้งการการตัดขึ้นของ MACD เหนือเส้น Signal และ Modified Stochastic เองยังคงสัญญาณซื้อในระยะสั้นอยู่ ทำให้เราประเมินว่า SET จะแกว่งตัวอยู่บนแนวรับระหว่างวัน 1,795 จุดก่อนจะดีดตัวไปต่อเพื่อทดสอบแนวต้าน GAP ถัดไปที่ระดับดัชนี 1,824 จุด ภายในสัปดาห์นี้ได้ 
STRATEGY
          นักลงทุนระยะสั้น : แนะนำกลยุทธ์ ซื้อรับ-ขายต้าน โดยใช้ดัชนี 1,795 จุดเป็นแนวรับ โดยมีเป้าหมายของการขึ้นรอบนี้ที่ 1,824 จุด ทั้งนี้หากหลุด 1,785 ให้ขายเพื่อปรับแผนการเก็งกำไรใหม่
          นักลงทุนระยะกลาง : คงมุมมองการถือเงินสดเพื่อรอจังหวะยืนยันการกลับสู่ภาวะกระทิงต่อไป การเบรกกรอบพักตัวและยืนเหนือแนวต้าน 1,806 ได้ถือเป็นจุดเริ่มทยอยซื้อรอบนี้
SECTOR  FOCUS
          SECTOR Recommended  เราเลือกกลุ่มวัสดุก่อสร้าง CONMAT  เนื่องจากมองว่าเป็นกลุ่มดัชนีที่ลงลึกพอสมควร แล้วดีดตัวขึ้นมาได้จากโซน Oversold โดยมีสัญญาณการกลับตัวของทิศทางราคาอย่าง Bullish Divergence เป็นแรงส่งในการดีดตัวขึ้นครั้งนี้ แนวโน้มระยะสั้นเรามองว่ายังสามารถรีบาวด์ขึ้นต่อได้ เนื่องจากดัชนีปิดสิ้นวันก่อนเพิ่งเริ่มยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5วัน (EMA5) ได้เป็นวันแรก โดยมีสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิคสนับสนุนอย่าง %K > %D จาก Modified Stochastic เป็นสัญญาณซื้อในระยะสั้น โดยมีหุ้นแนะนำอย่าง SCC และ TPIPL เป็นตัวโปรดของกลุ่มนี้
STOCK  HUNTER
          Point of view  หุ้น MCS ในกราฟวัน แท่งราคาล่าสุดขยับขึ้นมาจากแท่งราคาพักตัว Doji สามวันก่อนหน้าติดต่อกัน โดยปิดสิ้นวันที่ราคา 12.20 บาท ทำให้เรามองว่าหุ้นจะสามารถดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ราคา 12.80 บาท และมองเป้าหมายของการขึ้นรอบนี้ที่ 14.30 บาท หากการฟอร์มตัวของรูปแบบราคา Ascending Triangle สามารถเบรกแนวต้านกรอบบนได้ โดยมีจุดคัทลอสหากหลุด 11.70 บาท ทางเทคนิคเกิดสัญญาณเชิงบวก MACD โค้งตัวตัดเส้น Signal ขึ้นไป และModified Stochastic ยังคงสัญญาณซื้อในระยะสั้น สนับสนุนการไปต่อในรอบนี้
          อิศรา เลิศสุดคนึง (เลขทะเบียน 033432) [email protected]
          ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
          จิรภัทร  โบสุวรรณ   (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
          ตฤณ สิทธิสวัสดิ์    (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)

บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองวันนี้ดัชนีย่อลง!!!
          BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดลบขณะที่ Spot ปิดบวกจน Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 4.44 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -9.05 จุด ต่ำกว่า Theory Basis ที่ -2.61 จุด สะท้อนมุมมองเป็นลบในระยะสั้น (1.5 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ปิดลดลง 0.1 จุด เทียบกับวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.6 จุด เข้าใกล้ Theory Spread ที่ -5.30 จุด
          PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.07x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.21x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.02x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.02x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
          Fund Flow Analysis: แม้เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net Long 9,578 สัญญา ใน Index Futures และมีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,472 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 41,113 ล้านบาท
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: ระวังแรงรีบาวด์เริ่มอ่อนแรง!!!
          เมื่อวานนี้ S50H18 เปิดบวกแล้วแกว่งลง ทำให้แรงรีบาวด์เริ่มอ่อนแรงลง จนกลับมาปิดต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ย 5 วันอีกครั้ง ส่งผลให้เราลดมุมมองเชิงบวกที่คาดว่าสัปดาห์นี้ดัชนีจะขึ้นต่อ นอกจากนี้จากกราฟรายวันเราพบสัญญาณเชิงลบดังนี้ 1) DI- มากกว่า DI+ ขณะที่ ADX มากกว่า 20 และ 2 ) Slope ปัจจุบันของ Bollinger Band เป็นทิศทางลง พร้อมกับ RSI ที่อยู่ใน Negative Zone (ต่ำกว่า 50%) ดังนั้นวันนี้เรามองดัชนีมีโอกาสลงมากกว่า โดยระวังอย่าให้หลุด 1,150 จุด เพราะหากหลุดยิ่งสร้างความผันผวนต่อดัชนี และมีโอกาสที่ดัชนีอาจจะทำ New Low ได้อีก
กลยุทธ์การลงทุน
          Outright Trading: หากหลุดแนวรับ 1,150 จุด ปิด Long (สำหรับคำแนะนำก่อนหน้านี้) และหาจังหวะ Trading Short โดยคาดหวังแนวรับที่ 1,135 จุด (กรอบล่าง Sideway Up)
          นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)

บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
          Trading Idea: MCS
          เด็กแนว: SUN , AMC
Connect the World- (P.2)
          ติดตามข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯเดือนม.ค.ซึ่งจะประกาศในคืนนี้
Market Outlook
          วันนี้คาด SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,785 - 1,810 จุด ระหว่างรอติดตามตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ รวมทั้ผลประกอบการปี 60 ของ บจ. ไทยที่กำลังทยอยประกาศออกมา
Market Factors
          (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.16%DoD หนุนด้วยผลประกอบการช่วง 4Q60 ของ บมจ. ที่ออกมาดี ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังรอจับ CPI สหรัฐฯ ที่จะประกาศคืนวันนี้
          (-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด -0.20%DoD หลัง IEA ระบุในรายงานถึงความกังวลต่อภาวะอุปทานส่วนเกินของน้ำมันดิบ จากกำลังการผลิตของสหรัฐฯ และกลุ่ม OPEC ที่เพิ่มขึ้น
          (+) กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอ ครม. พิจารณาโครงการรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย และรถไฟฟ้าสายสีแดง มูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท คาดเสร็จสิ้นเดือน มี.ค.
          (-) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผลักดันให้เกิดการเก็บภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าที่เก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจากสหรัฐฯ
          (+/-) วันนี้ติดตามผลประชุมนโยบายการเงินของกนง. ซึ่งตลาดคาดยังคงดอกเบี้ยที่ 1.5% รวมทั้งจับตาตัวเลขเงินเฟ้อ ม.ค. 61 ของสหรัฐฯ และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA
Investment Strategy
          แม้เรามองสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยจะเผชิญความผันผวนที่ลดลงและมีโอกาสปรับตัวขึ้น หลังผ่านพ้นช่วงเกิด Panic sell ไปแล้วในสัปดาห์ก่อน แต่คาดดัชนียังอยู่ในช่วงพักตัวระยะสั้น เพื่อรอติดตามอัตราเงินเฟ้อ ม.ค. ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนนี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงยังคงแนะนำ"เน้นซื้อแนวรับ" ในหุ้นกลุ่มเดิมที่น่าสนใจ ดังนี้
          1) หุ้นได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อน(ดอลลาร์แข็ง)ได้แก่ SVI, HANA, KCE, DELTA, CPF, GFPT,TU, SMPC
          2) หุ้น Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จาก ศก.ฟื้น ได้แก่ KBANK, BBL, ROBINS, BJC
          3) หุ้นที่ให้คาดเป็นหลุมหลบภัย (Safe heaven) โดยให้Div. Yieldเกิน 4%ได้แก่ SC, MCS, KKP, TISCO, GLOW, EGCO, RATCH
          4) หุ้น Mid-Small Cap.ที่คาดกำไร 4Q60 โตดี YoY ได้แก่ ERW, BCH, HARN, JWD
Market Talk and News
          SAWAD (BUY:TP@75): ช่วง 4Q60 คาดมีกำไรสุทธิ 659 ลบ. โต 8.4%YoY หนุนปี 60 คาดมีกำไรปกติ 2,499 ลบ. โต 24.7%YoY และยังโตเด่น 47.6%YoY ในปี 61หนุนด้วยฐานสินเชื่อที่ขยายตัวดี จากทั้งดีมานต์เงินด่วนที่มีอยู่มากและแผนเปิดสาขาใหม่ 200-300 สาขา บวกกับ NIM ที่คาดมีพัฒนาการที่ดีขึ้นหลังกลับไปใช้สัญญาเงินกู้ในการปล่อยสินเชื่อผ่าน BFIT + ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 23.5% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
          LPH (BUY:[email protected]): ผลจากการเพิ่มกำลังให้บริการหลังอาคารใหม่ทยอยเปิดบริการตั้งแต่ปลาย ธ.ค. 60และการปรับขึ้นค่าบริการของประกันสังคมคาดทำให้ช่วง 4Q60 กำไรปกติโต 16.7%YoY ส่วนทั้งปี 60 แม้คาดกำไรปกติทรงตัว YoY แต่จะกลับมาโตสดใส15.0%YoY ในปี 61 ทั้งนี้ในประมาณการยังไม่รวมกำไรพิเศษจากขายที่ดินซึ่งจะบันทึกเข้ามาในช่วง 4Q60 และช่วง 1Q61 ราว 48-50 ลบ. + ราคาหุ้นมี Upside 33% แนะนำ "ซื้อ"
          SPA (BUY:Consensus [email protected]): ปี 60 คาดกำไรโต 28.3%YoY และโตต่อ 47.0%YoY ในปี 61 หนุนด้วยแผนขยายสาขาอีก 10 แห่งในประเทศ (จากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 41 แห่ง) นอกจากนี้มีแผนขยายโมเดลรับบริหารสปาในโรงแรมระดับ 4-5 ดาวและแผนขยาย สปาในต่างประเทศได้แก่จีนและ CLMV + ราคาหุ้นยังมี Upside 8.2% จึงแนะนำ "ซื้อ"
Quantitative Screening
          หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก  MONO, BCH
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234)          [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445)        [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)           [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์                        Asst. Analyst
จิรภัทร  โบสุวรรณ                      Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์                 Data Support / Secretary
OO5525

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!