- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Tuesday, 06 February 2018 17:09
- Hits: 1631
เด็กแนว - ECL น่าซื้อตรงนี้เลย
ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมาจนได้ที่ เด็กแนวว่านี่คือโอกาสน่าสนใจในการเข้าสะสม ผลประกอบการของ ECL แค่ 9 เดือนที่ผ่านมาก็ทุบสถิติกำไรแล้ว ถ้าหากประเมิน Q4 เข้าไปอีกจะมีกำไรสูงสุดถึง 140 ล้านบาท และปี 61 จะดีกว่านี้มาก เพราะสินเชื่อตั้งเป้าขยายตัวแรงไม่น้อยกว่า 5 พันล้านบาท และตั้งเป้าระดับหมื่นล้านในไม่กี่ปีข้างหน้า มีทั้งรถมือสอง รถบิ๊กไบค์ ประกันภัย ศูนย์ซ่อมรถ ครบวงจรในที่เดียว ราคาหุ้นตรงนี้ลงมาให้รับ เก็งเรื่องผลประกอบการที่จะออกมาขยายเท่าตัว มองกราฟแนวต้าน 3.76 บาท ถ้าผ่านได้ไปเจอกัน 4 บาท ราคาถูกอย่างนี้เด็กแนวว่าเข้าเลยไม่ต้องรอ
ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมาจนได้ที่ เด็กแนวว่านี่คือโอกาสน่าสนใจในการเข้าสะสม ผลประกอบการของ ECL แค่ 9 เดือนที่ผ่านมาก็ทุบสถิติกำไรแล้ว ถ้าหากประเมิน Q4 เข้าไปอีกจะมีกำไรสูงสุดถึง 140 ล้านบาท และปี 61 จะดีกว่านี้มาก เพราะสินเชื่อตั้งเป้าขยายตัวแรงไม่น้อยกว่า 5 พันล้านบาท และตั้งเป้าระดับหมื่นล้านในไม่กี่ปีข้างหน้า มีทั้งรถมือสอง รถบิ๊กไบค์ ประกันภัย ศูนย์ซ่อมรถ ครบวงจรในที่เดียว ราคาหุ้นตรงนี้ลงมาให้รับ เก็งเรื่องผลประกอบการที่จะออกมาขยายเท่าตัว มองกราฟแนวต้าน 3.76 บาท ถ้าผ่านได้ไปเจอกัน 4 บาท ราคาถูกอย่างนี้เด็กแนวว่าเข้าเลยไม่ต้องรอ
- TFG บาทอ่อนให้ช้อนฟู๊ด
จัดเป็นหุ้นผลิตเนื้อสัตว์ที่มาแรงสุดๆ ในปี 60 ด้วยผลประกอบการที่ขยายตัวแรงเป็นพิเศษ ยอดส่งออกก้าวกระโดดและยอดขายในประเทศเดินหน้าทุบสถิติ และส่งสัญญาณว่ากำไรจะดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่งผลให้ราคาหุ้นวิ่งสุดกู่ จาก 1.5 บาททะยานไป 7.5 บาท ตอนนี้ย่อตัวแล้วมารับหุ้นกันเถอะบาทเริ่มอ่อน โอกาสมาถึง
สิ่งที่น่าจับตามากก็คือ แนวโน้ม Q4 น่าจะโชว์กำไรราว 1,100 % yoy ซึ่งราคาหุ้นตรงนี้เทียบกับเป้าโบรกเกอร์ที่ให้แถว 8 บาท จึงเป็นราคาหุ้นที่ไม่ควรพลาดโอกาสอย่างมาก อย่าไปไล่ซื้อในที่สูงแล้วพากันไปติดดอย เข้าสะสมตรงนี้คือจังหวะของถูก ขณะที่กราฟ Oversold ตรงนี้เด้งแรงทุกครั้ง แนะนำเข้าซื้อแนวต้านแรก 5.70 บาท เมื่อผ่านได้ วิ่งแรงแน่นอน
จัดเป็นหุ้นผลิตเนื้อสัตว์ที่มาแรงสุดๆ ในปี 60 ด้วยผลประกอบการที่ขยายตัวแรงเป็นพิเศษ ยอดส่งออกก้าวกระโดดและยอดขายในประเทศเดินหน้าทุบสถิติ และส่งสัญญาณว่ากำไรจะดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่งผลให้ราคาหุ้นวิ่งสุดกู่ จาก 1.5 บาททะยานไป 7.5 บาท ตอนนี้ย่อตัวแล้วมารับหุ้นกันเถอะบาทเริ่มอ่อน โอกาสมาถึง
สิ่งที่น่าจับตามากก็คือ แนวโน้ม Q4 น่าจะโชว์กำไรราว 1,100 % yoy ซึ่งราคาหุ้นตรงนี้เทียบกับเป้าโบรกเกอร์ที่ให้แถว 8 บาท จึงเป็นราคาหุ้นที่ไม่ควรพลาดโอกาสอย่างมาก อย่าไปไล่ซื้อในที่สูงแล้วพากันไปติดดอย เข้าสะสมตรงนี้คือจังหวะของถูก ขณะที่กราฟ Oversold ตรงนี้เด้งแรงทุกครั้ง แนะนำเข้าซื้อแนวต้านแรก 5.70 บาท เมื่อผ่านได้ วิ่งแรงแน่นอน
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ฝรั่งกดขายทั้ง 2 ตลาด!!!
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดลบด้วย % น้อยกว่า Spot ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 2.36 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -2.96 จุด เข้าใกล้ Theory Basis ที่ -2.99 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางในระยะสั้น (2 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ปิดเพิ่มขึ้น 0.9 จุด เทียบกับวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -4.2 จุด เข้าใกล้ Theory Spread ที่ -4.52 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.02x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.21x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.09x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.03x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net Short 16,205 สัญญา ใน Index Futures และมีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้น 5,137 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 9,337 ล้านบาท
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวานนี้ S50H18 ปิดลบด้วย % น้อยกว่า Spot ส่งผลให้ Basis เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 2.36 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -2.96 จุด เข้าใกล้ Theory Basis ที่ -2.99 จุด สะท้อนมุมมองเป็นกลางในระยะสั้น (2 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ปิดเพิ่มขึ้น 0.9 จุด เทียบกับวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -4.2 จุด เข้าใกล้ Theory Spread ที่ -4.52 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.02x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.21x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.09x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.03x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ฝั่ง OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net Short 16,205 สัญญา ใน Index Futures และมีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้น 5,137 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 9,337 ล้านบาท
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: หลุดรับแล้ว Short ตาม!!!
เมื่อวานนี้ S50H18 เปิด Gap ลง แล้วทรงตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน จนปิด -10.3 จุด ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สองคาดตลาดหุ้นทั่วโลกมีแรงกดดันจากเมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐฯ (DowJones) ที่ปรับตัวลงหนัก -4.6%DoD เพราะความกังวลด้านเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ราคาปัจจุบันได้ปิดต่ำกว่าค่าเฉลี่ย EMA5วัน EMA10วัน และ EMA15วัน บวกกับค่า MACD ตัดค่า Signal ลง จนทำให้แนวโน้มเหมือนจะลงต่อ โดยวันนี้ต้องจับตาแนวรับที่ 1,170 จุด (กรอบล่าง Sideway) หากหลุดจะทำให้เรากลับมุมมองจากเดิมว่าดัชนีจะแกว่งในกรอบ Sidewayเปลี่ยนเป็นแกว่งลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,140 จุด
เมื่อวานนี้ S50H18 เปิด Gap ลง แล้วทรงตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน จนปิด -10.3 จุด ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สองคาดตลาดหุ้นทั่วโลกมีแรงกดดันจากเมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐฯ (DowJones) ที่ปรับตัวลงหนัก -4.6%DoD เพราะความกังวลด้านเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ราคาปัจจุบันได้ปิดต่ำกว่าค่าเฉลี่ย EMA5วัน EMA10วัน และ EMA15วัน บวกกับค่า MACD ตัดค่า Signal ลง จนทำให้แนวโน้มเหมือนจะลงต่อ โดยวันนี้ต้องจับตาแนวรับที่ 1,170 จุด (กรอบล่าง Sideway) หากหลุดจะทำให้เรากลับมุมมองจากเดิมว่าดัชนีจะแกว่งในกรอบ Sidewayเปลี่ยนเป็นแกว่งลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,140 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: จับตาแนวรับที่ 1,170 จุด (กรอบล่าง Sideway) หากหลุด Trading Short ตาม โดยมีแนวรับที่ 1,140 จุด
Outright Trading: จับตาแนวรับที่ 1,170 จุด (กรอบล่าง Sideway) หากหลุด Trading Short ตาม โดยมีแนวรับที่ 1,140 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Action Strategy
MARKET OUTLOOK
ดัชนี SET ล่าสุดทำช็อกกระโดดลงกว่าสามสิบจุดในช่วงเช้า ก่อนจะเริ่มดีดตัวขึ้นมาในภาคบ่ายโดยปิดสิ้นวันที่ระดับดัชนี 1,810.32 หลุดแนวรับของกรอบพักด้านบนลงมาวันแรกด้วยการทำ Gap Down ทำภาพรวมตลาดเริ่มดูแย่ลง นอกจากนี้สัญญาณทางเทคนิคอย่าง Modified Stochastic (%K และ %D ต่ำลงต่อเนื่อง) กับ MACD (ค่า MACD และ Signal ต่ำลงต่อเนื่อง) ล้วนส่งสัญญาณขาย จึงยิ่งเพิ่มน้ำหนักมุมมองถึงการอ่อนตัวของ SET จะยังคงมีต่อเนื่อง และเนื่องจากเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (Dowjones) ปรับตัวลงลึกราว 4.6%DoD คาดวันนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับตัวลงตาม Sentiment เชิงลบดังกล่าว สำหรับแนวรับของการลงรอบนี้เรามองแนวรับในระยะสั้นที่บริเวณ 1,789 จุด และมีแนวรับถัดไปแนวรับระยะกลางที่บริเวณ 1,753 จุด
MARKET OUTLOOK
ดัชนี SET ล่าสุดทำช็อกกระโดดลงกว่าสามสิบจุดในช่วงเช้า ก่อนจะเริ่มดีดตัวขึ้นมาในภาคบ่ายโดยปิดสิ้นวันที่ระดับดัชนี 1,810.32 หลุดแนวรับของกรอบพักด้านบนลงมาวันแรกด้วยการทำ Gap Down ทำภาพรวมตลาดเริ่มดูแย่ลง นอกจากนี้สัญญาณทางเทคนิคอย่าง Modified Stochastic (%K และ %D ต่ำลงต่อเนื่อง) กับ MACD (ค่า MACD และ Signal ต่ำลงต่อเนื่อง) ล้วนส่งสัญญาณขาย จึงยิ่งเพิ่มน้ำหนักมุมมองถึงการอ่อนตัวของ SET จะยังคงมีต่อเนื่อง และเนื่องจากเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (Dowjones) ปรับตัวลงลึกราว 4.6%DoD คาดวันนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับตัวลงตาม Sentiment เชิงลบดังกล่าว สำหรับแนวรับของการลงรอบนี้เรามองแนวรับในระยะสั้นที่บริเวณ 1,789 จุด และมีแนวรับถัดไปแนวรับระยะกลางที่บริเวณ 1,753 จุด
STRATEGY
ระยะสั้น : การเก็งกำไรสำหรับผู้ที่มีหุ้น เน้นขายเพื่อถือเงินสด รอซื้อกลับพร้อมกับนักเก็งกำไรที่ยังไม่มีหุ้นบริเวณแนวรับ 1,753 จุด
ระยะกลาง : ระมัดระวังการปรับฐานต่อเนื่องของตลาด เน้นให้นักลงทุนถือเงินสดต่อเพื่อรอซื้อบริเวณแนวรับสำคัญในระยะกลาง 1,753 จุด
ระยะสั้น : การเก็งกำไรสำหรับผู้ที่มีหุ้น เน้นขายเพื่อถือเงินสด รอซื้อกลับพร้อมกับนักเก็งกำไรที่ยังไม่มีหุ้นบริเวณแนวรับ 1,753 จุด
ระยะกลาง : ระมัดระวังการปรับฐานต่อเนื่องของตลาด เน้นให้นักลงทุนถือเงินสดต่อเพื่อรอซื้อบริเวณแนวรับสำคัญในระยะกลาง 1,753 จุด
SECTOR FOCUS
SECTOR Recommend INSUR หรือกลุ่มธุรกิจประกันถือเป็น SECTOR ที่แข็งกว่าตลาด สามารถปิดสิ้นวันด้วยแท่งเทียน Bullish Engulfing (สัญญาณภาวะกระทิง) ได้ในวันที่ SET มีความผันผวนอย่างมาก ทั้งนี้เกิดสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิคสนับสนุนการไปต่อได้อย่างเช่น MACD ตัดเส้น Signal ขึ้นถือเป็นสัญญาณเข้าซื้อ โดยหุ้นที่น่าสนใจ BLA, THREL, AYUD
SECTOR Recommend INSUR หรือกลุ่มธุรกิจประกันถือเป็น SECTOR ที่แข็งกว่าตลาด สามารถปิดสิ้นวันด้วยแท่งเทียน Bullish Engulfing (สัญญาณภาวะกระทิง) ได้ในวันที่ SET มีความผันผวนอย่างมาก ทั้งนี้เกิดสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิคสนับสนุนการไปต่อได้อย่างเช่น MACD ตัดเส้น Signal ขึ้นถือเป็นสัญญาณเข้าซื้อ โดยหุ้นที่น่าสนใจ BLA, THREL, AYUD
STOCK HUNTER
Point of view สำหรับ TTW เป็นหุ้นที่ต้องเหลียวมองซะแล้ว เนื่องจากวันที่ตลาดลงแรง และแดงหนัก แต่ TTW กลับสามารถปิดบวกสิ้นวันได้ที่ 13.80 โดยปรับตัวขึ้นกว่า 2.99% ด้วยแท่งเทียนสัญญาณกระทิงอย่าง Big White เบรกกรอบสะสมราคาขึ้นมาได้อย่างสวยงาม ทั้งยังฟอร์มตัวด้วยกรอบ Uptrend Channel ยกจุดต่ำสูงขึ้น แล้วทำจุดสูงใหม่ ยิ่งส่งสัญญาณเชิงบวกต่อหุ้นตัวนี้เหลือเกิน ยังไงฝากหุ้น TTW ไว้พิจารณาด้วยนะคร้าบ
Point of view สำหรับ TTW เป็นหุ้นที่ต้องเหลียวมองซะแล้ว เนื่องจากวันที่ตลาดลงแรง และแดงหนัก แต่ TTW กลับสามารถปิดบวกสิ้นวันได้ที่ 13.80 โดยปรับตัวขึ้นกว่า 2.99% ด้วยแท่งเทียนสัญญาณกระทิงอย่าง Big White เบรกกรอบสะสมราคาขึ้นมาได้อย่างสวยงาม ทั้งยังฟอร์มตัวด้วยกรอบ Uptrend Channel ยกจุดต่ำสูงขึ้น แล้วทำจุดสูงใหม่ ยิ่งส่งสัญญาณเชิงบวกต่อหุ้นตัวนี้เหลือเกิน ยังไงฝากหุ้น TTW ไว้พิจารณาด้วยนะคร้าบ
อิศรา เลิศสุดคนึง (เลขทะเบียน 033432) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Trading Idea: TTW
เด็กแนว: ECL , TFG
AECS Daily Focus
Trading Idea: TTW
เด็กแนว: ECL , TFG
Connect the World- (P.2)
ตลาดหุ้นต่างประเทศร่วงหนัก จากความกังวลขึ้นดอกเบี้ยเฟดที่เร็วกว่าคาด
ตลาดหุ้นต่างประเทศร่วงหนัก จากความกังวลขึ้นดอกเบี้ยเฟดที่เร็วกว่าคาด
Market Outlook
วันนี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ 1,780 - 1,815 จุด โดยดัชนีปรับลงต่อตาม Sentiment เชิงลบของตลาดหุ้น ตปท.หลังกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
วันนี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ 1,780 - 1,815 จุด โดยดัชนีปรับลงต่อตาม Sentiment เชิงลบของตลาดหุ้น ตปท.หลังกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
Market Factors
(-) ดัชนี DJIA ปรับลดงแรงเป็นประวัติการณ์ถึง -1,175.21จุดหรือ-4.60%DoD หลัง นักลงทุนวิตกเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดและปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด -2.0%DoD หลังวิตกสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันเพิ่มและดอลลาร์แข็งค่า
(+) ม. หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย ม.ค. 61 อยู่ที่ 80.0 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่6 และเป็นระดับสูงสุดรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 58
(-) ดัชนี DJIA ปรับลดงแรงเป็นประวัติการณ์ถึง -1,175.21จุดหรือ-4.60%DoD หลัง นักลงทุนวิตกเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดและปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด -2.0%DoD หลังวิตกสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันเพิ่มและดอลลาร์แข็งค่า
(+) ม. หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย ม.ค. 61 อยู่ที่ 80.0 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่6 และเป็นระดับสูงสุดรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 58
Investment Strategy
จากข้อมูลด้าน ศก.สหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง จนวิตกเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดและมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น กดดันให้ Bond Yield สหรัฐฯ ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2.84% (สูงสุดรอบ 4 ปี) ซึ่งYield ที่สูงขึ้นจะทำให้ความน่าลงทุนทั้งในตราสารหนี้และสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกลดลง เกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่รวมถึง SET (Earning Yield Gap ต่ำ) ส่งผลให้ช่วงสั้นนี้คาดจะเห็นการปรับฐานในตลาดหุ้นทั่วโลก
ภายใต้ภาวะตลาดหุ้นไทยที่คงต้องเผชิญกับความผันผวนระยะสั้น โดยคาด Fund Flow ที่มีแนวโน้มไหลออกจะกดดันให้เกิดแรงขายหุ้น Big Cap. โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "เน้นซื้อแนวรับ ไม่ไล่ราคา" ในหุ้นที่น่าสนใจ ดังนี้
1) หุ้นได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนตัว (ดอลลาร์แข็งค่า)ได้แก่ SVI, HANA, KCE, DELTA, CPF, GFPT,TU, SMPC
2) หุ้น Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จาก ศก.ฟื้น ได้แก่ KBANK, BBL, ROBINS, BJC
3) หุ้นที่ให้คาดเป็นหลุมหลบภัย (Safe heaven) โดยให้ Div. Yield เกิน 4% ได้แก่ SC, MCS, KKP, TISCO, GLOW, EGCO, RATCH
4) หุ้น Mid-Small Cap.ที่คาดกำไร 4Q60 โตดี YoY ได้แก่ ERW, BCH, HARN, JWD
จากข้อมูลด้าน ศก.สหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง จนวิตกเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดและมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น กดดันให้ Bond Yield สหรัฐฯ ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2.84% (สูงสุดรอบ 4 ปี) ซึ่งYield ที่สูงขึ้นจะทำให้ความน่าลงทุนทั้งในตราสารหนี้และสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกลดลง เกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่รวมถึง SET (Earning Yield Gap ต่ำ) ส่งผลให้ช่วงสั้นนี้คาดจะเห็นการปรับฐานในตลาดหุ้นทั่วโลก
ภายใต้ภาวะตลาดหุ้นไทยที่คงต้องเผชิญกับความผันผวนระยะสั้น โดยคาด Fund Flow ที่มีแนวโน้มไหลออกจะกดดันให้เกิดแรงขายหุ้น Big Cap. โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "เน้นซื้อแนวรับ ไม่ไล่ราคา" ในหุ้นที่น่าสนใจ ดังนี้
1) หุ้นได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนตัว (ดอลลาร์แข็งค่า)ได้แก่ SVI, HANA, KCE, DELTA, CPF, GFPT,TU, SMPC
2) หุ้น Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จาก ศก.ฟื้น ได้แก่ KBANK, BBL, ROBINS, BJC
3) หุ้นที่ให้คาดเป็นหลุมหลบภัย (Safe heaven) โดยให้ Div. Yield เกิน 4% ได้แก่ SC, MCS, KKP, TISCO, GLOW, EGCO, RATCH
4) หุ้น Mid-Small Cap.ที่คาดกำไร 4Q60 โตดี YoY ได้แก่ ERW, BCH, HARN, JWD
Fundamental Report
SEAFCO (HOLD:TP@10): ช่วง 4Q60 คาดกำไรเติบโต 4.1%YoY ส่วนปี 60 คาดโต28.3%YoY และโตต่อ 34.6%YoY ในปี 61 หลังทยอยรับรู้ Backlog ในมือ 3 พัน ลบ. โดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าสายสีส้มชมพูเหลืองที่จะทยอยก่อสร้างถึงกลางปี 62 อีกทั้งมีโอกาสได้งานภาคเอกชน เช่น One Bangkok แต่ราคาหุ้นสะท้อนพื้นฐานแล้ว จึงลดคำแนะนำ "ถือ"
SEAFCO (HOLD:TP@10): ช่วง 4Q60 คาดกำไรเติบโต 4.1%YoY ส่วนปี 60 คาดโต28.3%YoY และโตต่อ 34.6%YoY ในปี 61 หลังทยอยรับรู้ Backlog ในมือ 3 พัน ลบ. โดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าสายสีส้มชมพูเหลืองที่จะทยอยก่อสร้างถึงกลางปี 62 อีกทั้งมีโอกาสได้งานภาคเอกชน เช่น One Bangkok แต่ราคาหุ้นสะท้อนพื้นฐานแล้ว จึงลดคำแนะนำ "ถือ"
Market Talk and News
ADVANC (BUY: Consensus TP 208): ช่วง 4Q60 กำไรโต 19%YoY ส่วนทั้งปี 60 หดตัว1.9%YoY แต่คาดจะพลิกโต 6.1%YoY ในปี 61 จากการเพิ่มขึ้นลูกค้าระบบรายเดือนและการใช้งานด้าน Data ที่เพิ่มขึ้นขณะที่ความรุนแรงด้านการแข่งขันเริ่มลดลง + Upside 6.9% พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลช่วง 2H60 หุ้นละ 3.57 บาท คิดเป็น Div.Yield 1.8%
SMPC ([email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโต 17.7%YoY เพราะอุปสงค์ถังแก๊สเอเชียและแอฟริกาสดใสส่งผลให้ทั้งปี 60 คาดกำไรหดตัวเพียง 3.7%YoY แต่จะพลิกโต 22.8%YoY ในปี 61 จากแนวโน้มราคาขายที่เพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นราคาเหล็ก + มี Upside 17.3%พร้อมกับคาดให้ Div.Yield จากผลดำเนินงานช่วง 2H60 ราว 2.4% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
ADVANC (BUY: Consensus TP 208): ช่วง 4Q60 กำไรโต 19%YoY ส่วนทั้งปี 60 หดตัว1.9%YoY แต่คาดจะพลิกโต 6.1%YoY ในปี 61 จากการเพิ่มขึ้นลูกค้าระบบรายเดือนและการใช้งานด้าน Data ที่เพิ่มขึ้นขณะที่ความรุนแรงด้านการแข่งขันเริ่มลดลง + Upside 6.9% พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลช่วง 2H60 หุ้นละ 3.57 บาท คิดเป็น Div.Yield 1.8%
SMPC ([email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรโต 17.7%YoY เพราะอุปสงค์ถังแก๊สเอเชียและแอฟริกาสดใสส่งผลให้ทั้งปี 60 คาดกำไรหดตัวเพียง 3.7%YoY แต่จะพลิกโต 22.8%YoY ในปี 61 จากแนวโน้มราคาขายที่เพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นราคาเหล็ก + มี Upside 17.3%พร้อมกับคาดให้ Div.Yield จากผลดำเนินงานช่วง 2H60 ราว 2.4% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BCH , GOLD
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BCH , GOLD
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO5285