- Details
- Category: ซุบซิบการลงทุน
- Published: Monday, 05 February 2018 21:28
- Hits: 1380
เด็กแนว 5 PK กำไรสูงสุด ราคาต้อง New high
ผู้เป็นเจ้าของเครื่องทำน้ำแข็งมาหลายยุค จุดเด่นนี้ทำให้กำไรกลับมาแข็งแกร่งสุดๆ ยอดส่งออกไปยังตะวันออกกลางในปีที่ผ่านมาเติบโตแรงมี Backlog ทุบสถิติเฉียด 3,000 ล้านบาท แค่นั้นยังไม่พอ ได้เพิ่มสาย Product ใหม่ๆ เช่น ถังแรงดัน และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับถัง
ขณะที่กำไร 9 เดือนโต 400% คาดทั้งปี 60 ทุบสถิติราว 270 ล้านบาท และปี 61 ยังแรงดีไม่มีตก ราคาปัจจุบันเหลือ Fwd-PE เพียง 9 เท่า เป้าพื้นฐาน 9 บาทใช้ PE คำนวณที่ 14 เท่า จัดเป็นหุ้นที่ถูกมากและให้ปันผลสูงระดับ 5% เมื่อกำไรสูงสุด ราคาก็ควร New high ดังนั้นกราฟที่มีสัญญาณซื้อ รอบนี้เป้าสำคัญ หากผ่าน 7.35 บาทได้ก็ไร้แนวต้านอีกต่อไป มองมุมไหนก็ควรจะวิ่งอ่ะ แนะนำ "ซื้อสะสม"
ผู้เป็นเจ้าของเครื่องทำน้ำแข็งมาหลายยุค จุดเด่นนี้ทำให้กำไรกลับมาแข็งแกร่งสุดๆ ยอดส่งออกไปยังตะวันออกกลางในปีที่ผ่านมาเติบโตแรงมี Backlog ทุบสถิติเฉียด 3,000 ล้านบาท แค่นั้นยังไม่พอ ได้เพิ่มสาย Product ใหม่ๆ เช่น ถังแรงดัน และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับถัง
ขณะที่กำไร 9 เดือนโต 400% คาดทั้งปี 60 ทุบสถิติราว 270 ล้านบาท และปี 61 ยังแรงดีไม่มีตก ราคาปัจจุบันเหลือ Fwd-PE เพียง 9 เท่า เป้าพื้นฐาน 9 บาทใช้ PE คำนวณที่ 14 เท่า จัดเป็นหุ้นที่ถูกมากและให้ปันผลสูงระดับ 5% เมื่อกำไรสูงสุด ราคาก็ควร New high ดังนั้นกราฟที่มีสัญญาณซื้อ รอบนี้เป้าสำคัญ หากผ่าน 7.35 บาทได้ก็ไร้แนวต้านอีกต่อไป มองมุมไหนก็ควรจะวิ่งอ่ะ แนะนำ "ซื้อสะสม"
- ICHI มองเป้า 11.50 บาท
จุดเด่นรอบนี้ของอิชิ คือไตรมาส 4 ที่จะพลิกกำไรแรงกว่าที่เคยมีการมองกันไว้ เพราะยอดขายทั้งในและต่างประเทศแข็งแกร่งเกิ๊น รวมทั้งการคุมค่าใช้จ่ายอย่างดีทำให้อัตรากำไรสูง ส่งผลต่อเนื่องไปยังปี 61 นักวิเคราะห์มองเติบโตกว่า 70% นอกจากนี้การที่รัฐปล่อยราคาน้ำตาลลอยตัว ทำให้ต้นทุนลดลงไปอีก เพราะราคาน้ำตาลต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี นักวิเคราะห์ปรับเป้าเป็น 11 บาท ส่วนกราฟม้วนขึ้นเต็มตัวมีโครงสร้างแบบ U-Curve และมี Divergence เชิงบวกเด็กแนวมองว่าราคาจะต้องขึ้นไปยังระนาบ 10-11.50 บาท อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จุดเด่นรอบนี้ของอิชิ คือไตรมาส 4 ที่จะพลิกกำไรแรงกว่าที่เคยมีการมองกันไว้ เพราะยอดขายทั้งในและต่างประเทศแข็งแกร่งเกิ๊น รวมทั้งการคุมค่าใช้จ่ายอย่างดีทำให้อัตรากำไรสูง ส่งผลต่อเนื่องไปยังปี 61 นักวิเคราะห์มองเติบโตกว่า 70% นอกจากนี้การที่รัฐปล่อยราคาน้ำตาลลอยตัว ทำให้ต้นทุนลดลงไปอีก เพราะราคาน้ำตาลต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี นักวิเคราะห์ปรับเป้าเป็น 11 บาท ส่วนกราฟม้วนขึ้นเต็มตัวมีโครงสร้างแบบ U-Curve และมี Divergence เชิงบวกเด็กแนวมองว่าราคาจะต้องขึ้นไปยังระนาบ 10-11.50 บาท อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บล.เออีซี : Action Strategy
MARKET OUTLOOK
ดัชนี SET ทำแท่งแดงปิดต่ำกว่าแท่งก่อนหน้าโดยปิดที่ระดับดัชนี 1,827.35 ส่งสัญญาณปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยมองกรอบการเทรดของ SET อยู่ในช่วง 1,804 -1840 จุด โดยมีมุมมองฝั่งการพักตัวลงมากกว่าดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน เนื่องจากปัจจัยเชิงลบทางเทคนิคที่ยังคงกดดันการขึ้นต่อไปของดัชนี ทั้งการที่ MACD ตัดเส้น Signal ลง ทั้งเกิดสัญญาณขายในระยะสั้นสำหรับ Modified Stochastics เหล่านี้ทำให้เราให้น้ำหนักว่า SET มีโอกาสจะแกว่งตัวลงทดสอบแนวรับ 1804 ในที่สุด
STRATEGY
ระยะสั้น : การเก็งกำไรสำหรับผู้ที่มีหุ้น ยังคงแนะนำให้แบ่งขาย ถือเงินสดเพิ่มขึ้น รอซื้อกลับบริเวณแนวรับ 1,804
ระยะกลาง : ระมัดระวังการปรับฐานของตลาด เน้นให้นักลงทุนถือเงินสดต่อเพื่อรอซื้อบริเวณแนวรับสำคัญ 1,804
ระยะสั้น : การเก็งกำไรสำหรับผู้ที่มีหุ้น ยังคงแนะนำให้แบ่งขาย ถือเงินสดเพิ่มขึ้น รอซื้อกลับบริเวณแนวรับ 1,804
ระยะกลาง : ระมัดระวังการปรับฐานของตลาด เน้นให้นักลงทุนถือเงินสดต่อเพื่อรอซื้อบริเวณแนวรับสำคัญ 1,804
SECTOR FOCUS
กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์
ถือเป็น SECTOR ที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถปิดด้วยแท่งเทียนสีเขียว บอกสัญญาณการ Outperform ที่สามารถปิดบวกได้ในวันที่ตลาดผันผวน โดยหุ้นที่น่าสนใจ WORK , MONO
ถือเป็น SECTOR ที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถปิดด้วยแท่งเทียนสีเขียว บอกสัญญาณการ Outperform ที่สามารถปิดบวกได้ในวันที่ตลาดผันผวน โดยหุ้นที่น่าสนใจ WORK , MONO
BIG BULL
Point of view การปรับตัวลดลงของ WORK โดยปิดที่ราคา 83.00 นั้นมองเป็นจังหวะที่นักเก็งกำไรสามารถเข้าซื้อแก็งกำไรระยะสั้นได้ เนื่องจากราคาปัจจุบันนั้นสามารถยืนเหนือเส้นแนวโน้มขาลงได้ชั่วคราวแล้ว ประกอบกับยังมีสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิคที่ Modified Stochastic ยังเป็นสัญญาณซื้อในระยะสั้น ทั้งยังมีสัญญาณสัญญาณสนับสนุนการกลับตัวของแนวโน้มอย่าง Bullish Divergence และแท่งเทียน Marubozu จึงทำให้มีมุมมองว่าราคาอาจดีดตัวขึ้นเพื่อวิ่งทดสอบแนวต้านบริเวณ 87.50 ต่อไป
Point of view การปรับตัวลดลงของ WORK โดยปิดที่ราคา 83.00 นั้นมองเป็นจังหวะที่นักเก็งกำไรสามารถเข้าซื้อแก็งกำไรระยะสั้นได้ เนื่องจากราคาปัจจุบันนั้นสามารถยืนเหนือเส้นแนวโน้มขาลงได้ชั่วคราวแล้ว ประกอบกับยังมีสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิคที่ Modified Stochastic ยังเป็นสัญญาณซื้อในระยะสั้น ทั้งยังมีสัญญาณสัญญาณสนับสนุนการกลับตัวของแนวโน้มอย่าง Bullish Divergence และแท่งเทียน Marubozu จึงทำให้มีมุมมองว่าราคาอาจดีดตัวขึ้นเพื่อวิ่งทดสอบแนวต้านบริเวณ 87.50 ต่อไป
small bull
Point of view EPG เริ่มส่งสัญาณการดีดตัวขึ้น จากสัญญาณเชิงบวกอย่าง Bullish Divergence (สัญญาณการกลับตัว) ประกอบกับทั้งสัญญาณทางเทคนิคอย่าง MACD และ Modified Stochastic ยังคงให้สัญญาณซื้ออยู่ จึงมีมุมมองตัวหุ้นตัวนี้ว่าน่าจะสามารถสร้างแรงดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 10.50 และ 10.70 ต่อไป นอกจากนี้เจ้า EPG ยังมีจุดการเข้าซื้อที่ได้เปรียบเนื่องจากมีจุดถอย (Cut Loss) ที่ราคา 9.85 จึงเป็นหุ้นที่นักเก็งกำไรไม่ควรมองข้ามนะครับ
Point of view EPG เริ่มส่งสัญาณการดีดตัวขึ้น จากสัญญาณเชิงบวกอย่าง Bullish Divergence (สัญญาณการกลับตัว) ประกอบกับทั้งสัญญาณทางเทคนิคอย่าง MACD และ Modified Stochastic ยังคงให้สัญญาณซื้ออยู่ จึงมีมุมมองตัวหุ้นตัวนี้ว่าน่าจะสามารถสร้างแรงดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 10.50 และ 10.70 ต่อไป นอกจากนี้เจ้า EPG ยังมีจุดการเข้าซื้อที่ได้เปรียบเนื่องจากมีจุดถอย (Cut Loss) ที่ราคา 9.85 จึงเป็นหุ้นที่นักเก็งกำไรไม่ควรมองข้ามนะครับ
อิศรา เลิศสุดคนึง (เลขทะเบียน 033432) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
จิรภัทร โบสุวรรณ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค)
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดมองดัชนีลง!!!
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50H18 ปิดลบด้วย % มากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.59 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.32 จุด ต่ำกว่า Theory Basis ที่ -4.12 จุด สะท้อนมุมมองเป็นลบในระยะสั้น (2 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ปิดเท่ากับวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.1 จุด ต่ำกว่า Theory Spread ที่ -3.44 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.23x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.77x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.12x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ทั้งฝั่ง Volume และ OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net Long 16,385 สัญญา ใน Index Futures แต่มีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,763 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 390 ล้านบาท
BASIS (S50H18-SET50): เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50H18 ปิดลบด้วย % มากกว่า Spot ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.59 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.32 จุด ต่ำกว่า Theory Basis ที่ -4.12 จุด สะท้อนมุมมองเป็นลบในระยะสั้น (2 เดือน) ของนักลงทุนที่มีต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50M18-S50H18) ปิดเท่ากับวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -5.1 จุด ต่ำกว่า Theory Spread ที่ -3.44 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.23x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.77x ขณะที่ฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.12x เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งขณะนี้ PUT/CALL Ratio ทั้งฝั่ง Volume และ OI ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แสดงให้เห็นถึงการกลัวความเสี่ยงพักฐานขาขึ้นของดัชนี (ดูรายละเอียดจากหน้า 2)
Fund Flow Analysis: เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ Net Long 16,385 สัญญา ใน Index Futures แต่มีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,763 ล้านบาท โดยตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561 นักลงทุนต่างชาติมียอดคงค้างเป็นสถานะขายสุทธิในตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) ราว 390 ล้านบาท
Technical Analysis
มุมมองด้านเทคนิค: ระวังหลุดกรอบล่าง Sideway 1,170 จุด!!!
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50H18 ภาคเช้าทรงตัวในแดนบวก ส่วนภาคบ่ายทรงตัวในแดนลบ จนปิด -4.3 จุด ซึ่งวันนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแรงกดดันจากเมื่อคืนวันศุกร์ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลงหนัก -2.54%DoD เพราะความกังวลด้านเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ราคาปัจจุบันได้ปิดต่ำกว่าค่าเฉลี่ย EMA5วัน และ EMA10วัน บวกกับค่า MACD ตัดค่า Signal ลง จนทำให้แนวโน้มขาขึ้นเสียทรง โดยวันนี้ต้องจับตาแนวรับที่ 1,170 จุด (กรอบล่าง Sideway) หากหลุดจะทำให้เรากลับมุมมองจากเดิมว่าดัชนีจะแกว่งในกรอบ Sidewayเปลี่ยนเป็นแกว่งลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,140 จุด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ S50H18 ภาคเช้าทรงตัวในแดนบวก ส่วนภาคบ่ายทรงตัวในแดนลบ จนปิด -4.3 จุด ซึ่งวันนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแรงกดดันจากเมื่อคืนวันศุกร์ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลงหนัก -2.54%DoD เพราะความกังวลด้านเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ราคาปัจจุบันได้ปิดต่ำกว่าค่าเฉลี่ย EMA5วัน และ EMA10วัน บวกกับค่า MACD ตัดค่า Signal ลง จนทำให้แนวโน้มขาขึ้นเสียทรง โดยวันนี้ต้องจับตาแนวรับที่ 1,170 จุด (กรอบล่าง Sideway) หากหลุดจะทำให้เรากลับมุมมองจากเดิมว่าดัชนีจะแกว่งในกรอบ Sidewayเปลี่ยนเป็นแกว่งลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,140 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: จับตาแนวรับที่ 1,170 จุด (กรอบล่าง Sideway) หากหลุด Trading Short ตาม โดยมีแนวรับที่ 1,140 จุด
Outright Trading: จับตาแนวรับที่ 1,170 จุด (กรอบล่าง Sideway) หากหลุด Trading Short ตาม โดยมีแนวรับที่ 1,140 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432)
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Trading Idea: WORK , EPG
เด็กแนว: PK , ICHI
Connect the World- (P.2)
ความกังวลเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด กดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนัก
ความกังวลเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด กดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนัก
Market Outlook
สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ 1,790 - 1,840 จุด โดยมองดัชนีปรับลงตาม Sentiment เชิงลบของตลาดหุ้นตปท.หลังนักลงทุนกังวลการปรับขึ้นเร็วของบอนด์ยีลด์สหรัฐจะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดและทำให้ Fund Flow ไหลออกจากตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ 1,790 - 1,840 จุด โดยมองดัชนีปรับลงตาม Sentiment เชิงลบของตลาดหุ้นตปท.หลังนักลงทุนกังวลการปรับขึ้นเร็วของบอนด์ยีลด์สหรัฐจะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดและทำให้ Fund Flow ไหลออกจากตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
Market Factors
(-) ดัชนี DJIA ปรับลดงแรงถึง -665.75 จุด หรือปิด-2.54%DoDหลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาแข็งแกร่ง ทำให้บอนด์ยีลด์สหรัฐ10 ปีพุ่งขึ้นเร็วเป็น 2.84% สูงสุดในรอบ 4 ปี (นับตั้งแต่ 6 ม.ค. 57) ซึ่งกดดันให้กังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด-0.5%DoD หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ที่มีการใช้งานปรับขึ้นต่อเป็นสัปดาห์ที่ 2 และยังได้แรงกดดันจากดอลลาร์แข็งค่า
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ สต็อกน้ำมันและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมทั้งดุลการค้า ธ.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการ ม.ค. ของสหรัฐฯ, จีนและยูโรโซน, การประชุมนโยบายการเงินของ BoE
(-) ดัชนี DJIA ปรับลดงแรงถึง -665.75 จุด หรือปิด-2.54%DoDหลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาแข็งแกร่ง ทำให้บอนด์ยีลด์สหรัฐ10 ปีพุ่งขึ้นเร็วเป็น 2.84% สูงสุดในรอบ 4 ปี (นับตั้งแต่ 6 ม.ค. 57) ซึ่งกดดันให้กังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิด-0.5%DoD หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ที่มีการใช้งานปรับขึ้นต่อเป็นสัปดาห์ที่ 2 และยังได้แรงกดดันจากดอลลาร์แข็งค่า
(+/-) วันนี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ สต็อกน้ำมันและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมทั้งดุลการค้า ธ.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการ ม.ค. ของสหรัฐฯ, จีนและยูโรโซน, การประชุมนโยบายการเงินของ BoE
Investment Strategy
แม้เรามองสัปดาห์นี้ดัชนีมีแนวโน้มผันผวนสูง โดยต้นสัปดาห์ทางลงจะเป็นต่อหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นสร้างความกังวลต่อการไหลออกของ Fund Flow ซึ่งคาดจะกดดันต่อแรงขายในหุ้น Big Cap. โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี แต่คาดกลางสัปดาห์ดัชนียังมีโอกาสรีบาวน์ได้ ตราบใดที่ SET Index สามารถปิดยืนเหนือ 1,790 จุด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "ซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีโดยไม่ไล่ราคา เน้นซื้อแนวรับ" ดังนี้
1) หุ้นได้ประโยชน์จากแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเร่งลงทุนEEC ได้แก่ AMATA, WHA, CK, STEC, UNIQ, SEAFCO
2) หุ้น Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จาก ศก.ฟื้น ได้แก่ KBANK, BBL, ROBINS, BJC
3) หุ้น High Div. Yield ซึ่งคาด ก.พ. ปันผลเกิน 4% ได้แก่ SC, MCS, KKP, TISCO
4) หุ้น Mid-Small Cap.ที่คาดกำไร 4Q60 โตดี YoY ได้แก่ ERW, BCH, HARN, JWD
แม้เรามองสัปดาห์นี้ดัชนีมีแนวโน้มผันผวนสูง โดยต้นสัปดาห์ทางลงจะเป็นต่อหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นสร้างความกังวลต่อการไหลออกของ Fund Flow ซึ่งคาดจะกดดันต่อแรงขายในหุ้น Big Cap. โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี แต่คาดกลางสัปดาห์ดัชนียังมีโอกาสรีบาวน์ได้ ตราบใดที่ SET Index สามารถปิดยืนเหนือ 1,790 จุด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "ซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีโดยไม่ไล่ราคา เน้นซื้อแนวรับ" ดังนี้
1) หุ้นได้ประโยชน์จากแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเร่งลงทุนEEC ได้แก่ AMATA, WHA, CK, STEC, UNIQ, SEAFCO
2) หุ้น Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จาก ศก.ฟื้น ได้แก่ KBANK, BBL, ROBINS, BJC
3) หุ้น High Div. Yield ซึ่งคาด ก.พ. ปันผลเกิน 4% ได้แก่ SC, MCS, KKP, TISCO
4) หุ้น Mid-Small Cap.ที่คาดกำไร 4Q60 โตดี YoY ได้แก่ ERW, BCH, HARN, JWD
Market Talk and News
ERW (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรสุทธิยังโตเด่น 45.8%YoY และหนุนปี 60 คาดกำไรโต 43.0%YoY หลังธุรกิจโรงแรมยังสดใสตามภาวะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่แข็งแกร่งต่อเนื่องส่วนปี61คาดกำไรโตต่อ 14.5%YoY หลังคาดได้รับอานิสงส์เพิ่มจากมาตรการท่องเที่ยวเมืองรองและยังมีแผนขยายเครือข่ายต่อเนื่อง + ยังมี Upside 8.1%
HARN ([email protected]): ช่วง4Q60คาดกำไรโตเด่น 154%YoY หนุนด้วยบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และการควบรวมกิจการกับCM และ QIIS ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 59ส่งผลให้ทั้งปี60คาดกำไรโต 199%YoY และโตต่อ 19.4%YoY ในปี 61 จากแผนเพิ่มสินค้าใหม่ๆ และแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ + มีUpside 46.9%จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
ITEL (BUY:Consensus TP@6):ปี 60 คาดกำไรโต54.7%YoY และโตต่อ 58.7%YoY ใน ปี 61 หนุนด้วย Backlog ปัจจุบันที่ 3.1 พัน ลบ. และอยู่ระหว่างเตรียมชิงงานจาก กสทช. มูลค่าราว 1.8 หมื่น ลบ. โดยบริษัทตั้งเป้าได้งาน2.5-3.0 พัน ลบ. + ราคาหุ้นปัจจุบันยังมีUpside 21.0% จึงแนะนำ "ซื้อ"
ERW (BUY:[email protected]): ช่วง 4Q60 คาดกำไรสุทธิยังโตเด่น 45.8%YoY และหนุนปี 60 คาดกำไรโต 43.0%YoY หลังธุรกิจโรงแรมยังสดใสตามภาวะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่แข็งแกร่งต่อเนื่องส่วนปี61คาดกำไรโตต่อ 14.5%YoY หลังคาดได้รับอานิสงส์เพิ่มจากมาตรการท่องเที่ยวเมืองรองและยังมีแผนขยายเครือข่ายต่อเนื่อง + ยังมี Upside 8.1%
HARN ([email protected]): ช่วง4Q60คาดกำไรโตเด่น 154%YoY หนุนด้วยบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และการควบรวมกิจการกับCM และ QIIS ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 59ส่งผลให้ทั้งปี60คาดกำไรโต 199%YoY และโตต่อ 19.4%YoY ในปี 61 จากแผนเพิ่มสินค้าใหม่ๆ และแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ + มีUpside 46.9%จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
ITEL (BUY:Consensus TP@6):ปี 60 คาดกำไรโต54.7%YoY และโตต่อ 58.7%YoY ใน ปี 61 หนุนด้วย Backlog ปัจจุบันที่ 3.1 พัน ลบ. และอยู่ระหว่างเตรียมชิงงานจาก กสทช. มูลค่าราว 1.8 หมื่น ลบ. โดยบริษัทตั้งเป้าได้งาน2.5-3.0 พัน ลบ. + ราคาหุ้นปัจจุบันยังมีUpside 21.0% จึงแนะนำ "ซื้อ"
Quantitative Screening
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BCH , ICHI
หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก BCH , ICHI
AECS - Fundamental and Strategic Team
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO5229
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ Asst. Analyst
จิรภัทร โบสุวรรณ Asst. Analyst
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO5229