- Details
- Category: บลจ.
- Published: Tuesday, 26 December 2017 21:55
- Hits: 8697
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบต่ออายุได้เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่า สตราทีจิก ฮอสพิทอลลิตี้ (SHREIT) ทรัสต์กองแรกที่ลงทุนในโรงแรมชั้นนำในต่างประเทศ เริ่มซื้อขาย 27 ธ.ค. นี้
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบต่ออายุได้เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่าสตราทีจิก ฮอสพิทอลลิตี้ หรือ SHREIT ลงทุนด้วยการถือหุ้นในบริษัทโฮลดิ้งซึ่งลงทุนในบริษัทต่างประเทศที่มีกรรมสิทธิ์และ/หรือสิทธิการเช่าของทรัพย์สิน โดยการลงทุนครั้งแรก ประกอบด้วยโรงแรม 3 แห่งในอาเซียน ถือเป็นทรัสต์ที่ลงทุนในต่างประเทศกองแรกของประเทศไทย พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 27 ธ.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,528 ล้านบาท
ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบต่ออายุได้เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่าสตราทีจิก ฮอสพิทอลลิตี้ ซึ่งเป็นทรัสต์กองแรกที่ลงทุนในต่างประเทศ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "SHREIT" ในวันที่ 27 ธันวาคม 2560 นี้
SHREIT เสนอขายหน่วยทรัสต์ให้แก่ผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ และประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคม 2560 และเสนอขายพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้จัดการกองทรัสต์และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้จัดการกองทรัสต์ นักลงทุนสถาบัน และผู้ซื้อหน่วยทรัสต์เบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchaser) ระหว่างวันที่ 18-19 ธันวาคม 2560รวมจำนวน 352.8 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาทรวมมูลค่าเสนอขาย 3,528.37 ล้านบาท โดยมี บจก. สตราทีจิก พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสท์เตอร์ส เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ บลจ. กรุงไทย เป็นทรัสตี และ บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหน่วยทรัสต์
SHREIT เป็น REIT กองแรกที่ลงทุนในโรงแรมชั้นนำในต่างประเทศ ซึ่งมีเจ้าของทรัพย์สินเดิมเป็นชาวต่างชาติ และมีการบริหารโดยผู้จัดการกองทรัสต์มืออาชีพที่เป็นอิสระจากเจ้าของทรัพย์สินเดิม มีประสบการณ์ตรงในธุรกิจ ซึ่งทำให้มีความคล่องตัวในการกำหนดนโยบายลงทุนเพื่อให้เกิดผลตอบแทนสูงสุด
นายเจมส์ เทิค เบง ลิม กรรมการบริหาร บริษัท สตราทีจิก พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสท์เตอร์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะเข้าลงทุนในทรัพย์สินหลักที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนในครั้งแรก ซึ่งเป็นการลงทุนในหุ้นในสัดส่วน 100% ของบริษัท Strategic Hospitality Holding Limited (BVI) โดยจะทำการลงทุนทางอ้อมผ่านทางบริษัทโฮลดิ้งต่างประเทศด้วยการถือหุ้นสัดส่วน 100% ในบริษัทที่เป็นผู้ให้เช่าหลัก ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และ/หรือสิทธิการเช่าของทรัพย์สินโครงการประเภทโรงแรม รวมทั้งหมด 3 แห่ง ตั้งอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย (โรงแรม Pullman Jakarta Central Park) และ ประเทศเวียดนาม (โรงแรม Capri by Fraser และโรงแรม IBIS Saigon South) ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 3-5 ดาว มีห้องพักที่เปิดให้บริการแล้วรวมกันทั้งสิ้น 632 ห้อง ทั้งนี้ โรงแรมทั้ง 3 แห่ง มีการบริหารงานโดยมืออาชีพ มีโอกาสเติบโตที่ดีจากปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ได้อย่างมีศักยภาพ
SHREIT มีนโยบายการจ่ายปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี โดยหลัง IPO ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใหญ่ของ SHREIT 3 ลำดับแรก ได้แก่ 1) Macquarie Capital Securities (Singapore) Pte Ltd 41.27% 2) PT Agung Podomoro Land Tbk 18.12% และ 3) บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 8.50%
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของทรัสต์ที่ www.sh-reit.com และ www.set.or.th