WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ตลาดหุ้นผันผวนระยะสั้น เหตุบรรยากาศการเมืองโลกร้อนแรง บลจ.กสิกรไทย ชวนผู้ลงทุนพักเงิน 3-6 เดือน กับกองทุนตราสารหนี้ ที่มีความเสี่ยงต่ำ ชูโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุด 2.70 % ต่อปี เสนอขาย 14-18 ส.ค. นี้

   นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและกลุ่มสนับสนุนรัสเซียในยูเครน ยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลดลงไปแล้ว  5-7% ในเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจทวีความรุนแรงและลุกลามไปสู่การคว่ำบาตรของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา ประกาศโจมตีอิรักทางอากาศ หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในประเทศอิรัก ส่งผลให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกต่างปรับตัวลดลงทันที อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะทำให้ตลาดเกิดความผันผวนในช่วงระยะสั้น โดยมุมมองของบลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของตลาดหุ้นต่างประเทศในระยะยาว จากตัวเลขเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคที่ออกมาดีกว่าที่คาด รวมถึงธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก อาทิ ยุโรป ญี่ปุ่น ต่างดำเนินนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อการโตเติบทางเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งนี้สำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ไม่มาก และต้องการลงทุนในระยะสั้น

    แนะนำให้ชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงดังกล่าว หรือสามารถเลือกพักเงินกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีอายุตั้งแต่ 3-6 เดือน เพื่อล็อคโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจและเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ โดยในระหว่างวันที่ 14-18 สิงหาคม 2557 นี้ บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอจี (KEFF6MAG) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.70% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีพี (KFI3MEP) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่าย กองทุนที่ 2.40% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

    นายนาวิน กล่าวต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุน KEFF6MAG จะลงทุนในเงินฝากของ China Construction Bank Corporation เงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี ร่วมด้วยตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ตราสารหนี้ VakifBank,ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่ค้ำประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท

    อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว บลจ.กสิกรไทย ขอแนะนำกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีพี (KFI3MEP) ซึ่งโดยเบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Bank of China นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

   ผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEFF6MAG และกองทุน KFI3MEP สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com

   การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุน และเอกสารเกี่ยวกับกองทุน KEFF6MAG และกองทุน KFI3MEP ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุน KEFF6MAG และกองทุน KFI3MEP มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินของหลักทรัพย์ที่ลงทุน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!