WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KAsset Vasinบลจ.กสิกรไทย เปิดแผนดำเนินงานปี 2560 สานต่อแนวคิด Simplify Your Investment Life

     บลจ.กสิกรไทย เปิดแผนดำเนินงานปี 2560 สานต่อแนวคิด'Simplify Your Investment Life' มุ่งทำชีวิตการลงทุนให้เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ Fund Navigator

     บลจ.กสิกรไทย เปิดแผนกลยุทธ์ดำเนินงานปี 2560 ยกระดับความเป็นผู้นำธุรกิจกองทุนก้าวต่อไปอีกขั้น ด้วยการต่อยอดพัฒนาแพลตฟอร์มที่ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่าย เตรียมเปิดตัว Fund Navigator เต็มรูปแบบในปีนี้พร้อมตั้งเป้าหมายเป็นบลจ.แห่งแรก ที่นำเสนอพอร์ตการลงทุนสำหรับลูกค้ารายบุคคล

       นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2559 ที่ผ่านมาว่า บริษัทประสบความสำเร็จเป็นก้าวแรกในด้านการยกระดับความเป็นผู้นำในธุรกิจกองทุน ด้วยการพัฒนาด้านบริการหรือเครื่องมือต่างๆ เข้ามาอำนวยความสะดวกทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายแก่ผู้ลงทุน บนพื้นฐานแนวคิด "Simplify Your Investment Life" ซึ่งบลจ.กสิกรไทยเป็นบลจ.แห่งแรกที่มุ่งวางเป้าหมายไปสู่การเป็นผู้วางแผนความสำเร็จให้ชีวิตการลงทุนกับลูกค้ารายบุคคล โดยการแนะนำพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมทั้งในแง่การมีผลิตภัณฑ์กองทุนที่ครบครัน และในแง่การรักษาคุณภาพด้านผลการดำเนินงานให้ดีอย่างต่อเนื่อง จึงพร้อมมุ่งมั่นพัฒนาต่อยอดด้านการสร้างแพลตฟอร์มเข้ามารองรับ เพื่อทำให้การลงทุนในกองทุนเป็นเรื่องง่ายและผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงได้

        "ในปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเปิดตัวบริการ My Port Simulator หรือโปรแกรมสร้างพอร์ตลงทุนจำลอง ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้ลงทุนได้ทดลองจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของตนเองผ่านพอร์ตการลงทุนแนะนำ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจก่อนนำไปลงทุนจริง ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจและกระแสตอบรับจากผู้เข้ามาทดลองใช้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว K-Cyber Invest โฉมใหม่ ที่มีการพัฒนาคุณสมบัติใหม่ๆ ให้รองรับการเป็นเครื่องมือช่วยวางแผนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การแสดงพอร์ตลงทุนของลูกค้าเปรียบเทียบกับพอร์ตลงทุนที่ระบบแนะนำ หรือการเพิ่มเครื่องมือค้นหากองทุนที่ต้องการหรือตรงกับวัตถุประสงค์การลงทุนได้อย่างสะดวก ง่ายดายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในด้านการสร้างผลการดำเนินงานของกองทุน ในปีที่ผ่านมาบริษัทยังรักษามาตรฐานและบริหารผลการดำเนินงานของกองทุนในภาพรวมได้เป็นที่น่าพอใจ พิสูจน์ได้จากจำนวนกองทุนของบลจ.กสิกรไทยซึ่งมี 11 กองทุนที่ได้รับการจัดเรตติ้ง 5 ดาว (Overall Rating) จากมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ 30 ธ.ค. 2559) รวมถึงการสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเป็นอันดับหนึ่ง อาทิ กองทุน K20SLTF ที่มีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีและ 3 ปี เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มกองทุน LTF จากทั้งหมด 57 กองทุน และกองทุน KMSRMF ที่มีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มกองทุน Equity RMF จากทั้งหมด 29 กองทุน พร้อมทั้งยังรับรองความสำเร็จด้วยรางวัลมากมายที่บริษัทได้รับเพิ่มเติมในปี 2559 จากสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ" นายวศินกล่าว

           นายวศิน กล่าวต่อไปว่า สำหรับเป้าหมายและกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทในปี 2560 บลจ.กสิกรไทยยังคงสานต่อแนวคิดเรื่อง "Simplify Your Investment Life" อย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งทำให้ชีวิตการลงทุนของลูกค้าเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นไป พร้อมตอกย้ำให้เห็นว่าการลงทุนเป็นเรื่องใกล้ตัวและการวางแผนการลงทุนให้มีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอีกต่อไป โดยประเด็นหลักคือการมุ่งนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาประยุกต์ใช้กับการวางแผนด้านการลงทุน ซึ่งเทคโนโลยีจะเป็นส่วนเข้ามาช่วยเสริมการให้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงได้ด้วยตนเองมากขึ้น และบทบาทก้าวต่อไปของบลจ.กสิกรไทยคือการวางเป้าหมายเป็น Robo-Advisor หรือการให้คำแนะนำผ่านระบบดิจิตอล เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมกองทุนในอนาคต ซึ่งก้าวแรกสำหรับปีนี้บริษัทจะเปิดตัวบริการ Fund Navigator อย่างเต็มรูปแบบ โดยบริการดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดกลุ่มกองทุนตามเป้าหมายการลงทุนของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟน อาทิ K-My PVD แอพพลิเคชั่นสำหรับลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ K-Mutual Fund แอพพลิเคชั่นสำหรับลูกค้ากองทุนรวม

       นายวศิน กล่าวเสริมว่า สำหรับการจัดกลุ่มกองทุนตาม Fund Navigator จะประกอบไปด้วย 5 กลุ่มตามเป้าหมายการลงทุน ได้แก่ กลุ่ม Liquidity ที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะสั้น และต้องการสภาพคล่องสูง, กลุ่ม Stability ที่ต้องการลงทุนยาวขึ้นเพื่อโอการรรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตารสารหนี้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี, กลุ่ม Income ซึ่งเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอและสามารถรับความผันผวนได้ต่ำ, กลุ่ม Growth ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงจากการขาดทุนได้ในระยะสั้น และกลุ่ม Opportunity ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการแสวงหาโอกาสลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ที่ให้ผลตอบแทนสอดคล้องกับสภาพตลาด นอกจากนี้บลจ.กสิกรไทยยังใช้ Fund Navigator เป็นเครื่องมือในการกำหนดธีมและกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมตามภาวะเศรษฐกิจด้วย

                ด้านมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2560 บลจ.กสิกรไทยมองว่าเศรษฐกิจเอเชียเป็นภูมิภาคที่มีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากการดำเนินนโยบายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการบริโภคภายในประเทศที่ดีขึ้นจากรายได้ภาคเกษตรกรที่ฟื้นตัว ขณะที่เศรษฐกิจจีนและอินเดียมองว่าเริ่มกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้นและยังมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยปัจจัยบวกมาจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐรวมถึงการปฏิรูปประเทศที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ดังนั้น บลจ.กสิกรไทยจึงให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยและเอเชียมากกว่าภูมิภาคอื่นด้วยระดับราคาที่น่าสนใจกว่าในเชิงเปรียบเทียบ และในส่วนหุ้นไทยมองว่ายังมีโอกาสปรับตัวต่อเนื่อง โดยคาดการณ์การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยปีนี้อยู่ที่ประมาณ 10% และมองเป้าหมาย SET Index ปลายปี 2560 อยู่ที่ระดับ 1,690 จุด ส่วนมุมมองการลงทุนในตราสารหนี้ คาดว่าตราสารหนี้เอเชียจะให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าภูมิภาคอื่น เนื่องจากธนาคารกลางในเอเชียมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของไทยมีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2560 ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงการจัดกลุ่มกองทุนตาม Fund Navigator บลจ.กสิกรไทยจึงกำหนดกลยุทธ์และธีมการลงทุนในปีนี้ โดยมองว่าสินทรัพย์ในกลุ่มที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ (Income) สินทรัพย์กลุ่มที่สร้างผลตอบแทนเติบโตสูงในระยะยาว (Growth) และสินทรัพย์กลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสอดคล้องตามสภาพตลาด (Opportunity) เป็นกลุ่มที่มีความน่าสนใจด้วยปัจจัยสนับสนุนด้านมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนตามที่กล่าวมา

       ปัจจุบันบลจ.กสิกรไทยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ 1.24 ล้านล้านบาท โดยแยกเป็นรายธุรกิจในส่วนกองทุนรวมอยู่ที่ 9.86 แสนล้านบาท, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 1.64 แสนล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล 0.9 แสนล้านบาท โดยคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดจำแนกตามธุรกิจอยู่ที่ 21.2%, 16.8% และ12.1% ตามลำดับ (ข้อมูลจาก AIMC 31 ธ.ค.2559)

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!