- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 04 August 2014 19:50
- Hits: 3442
บลจ.ธนชาต ชวนนักลงทุนไทยสร้างโอกาสจากบริษัทชั้นนำระดับโลก
บลจ.ธนชาต เผยหลังเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน เล็งคลอดกองทุน T-Allstar1 เน้นลงทุนหุ้นระดับโลก หวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุน เริ่ม IPO 5-19 สิงหาคม 2557
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ธนชาต ออกกองทุนใหม่ กองทุนธนชาต All Star Global 1 (T-Allstar1) ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นอายุ 1 ปี เน้นลงทุนในบริษัทระดับชั้นนำของโลก ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินเพียง 1,000 บาท กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจจะซื้อหุ้นต่างประเทศแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เพราะปัญหาอัตราแลกเปลี่ยน และภาษีในต่างประเทศ กองทุนนี้จะช่วยลดความกังวลเนื่องจากมีผู้จัดการกองทุนทำหน้าที่บริหารพอร์ต ตั้งแต่คัดเลือกหุ้นจนถึงการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามความเหมาะสม เริ่ม IPO ระหว่างวันที่ 5-19 สิงหาคม 2557 ขนาดกองทุน 1,000 ล้านบาท
“บลจ.ธนชาต มองเห็นโอกาสที่นักลงทุนจะได้สัมผัสกับการลงทุนระดับโลกอย่างแท้จริง บริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกบางบริษัทมีเงินสดที่ถือในมือมากกว่าเงินสำรองในประเทศของบางประเทศด้วยซ้ำ อีกทั้งบริษัทระดับโลกพวกนี้กระจายอยู่ทุกภูมิภาค ทั้งในแง่การตั้งสาขาและสัดส่วนรายได้ เราจึงอยากให้นักลงทุนได้เปิดมุมมอง ออกจากกรอบเดิมในประเทศ มาลงทุนในสินทรัพย์ระดับโลกมากขึ้น”
นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด ได้ให้ความเห็นว่า หุ้นที่ทาง บลจ.ธนชาต สนใจลงทุนจะเป็นบริษัทที่เป็นที่รู้จักระดับโลกหรือในระดับภูมิภาค มีโอกาสเติบโต และโดดเด่นกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมนั้นๆ พร้อมเผยถึงกลยุทธ์การลงทุนว่าจะสนใจบริษัทที่เติบโตสูงเป็นหลัก แต่จะมีผสมบริษัทที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งเพื่อกระจายความเสี่ยงของกองทุน รวมถึงจะผสมผสานการลงทุนในบริษัทชั้นนำที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวจากปัจจัยลบกดดันในระยะนี้
“บริษัทระดับโลกเหล่านี้ เป็นอีกหนึ่งโอกาส ที่อยากให้ผู้ลงทุนไทยได้สัมผัส หลายๆบริษัทเป็นบริษัทที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี เช่น รถที่เราขับ มือถือที่เราใช้ รวมถึงเทคโนโลยีที่เราเกี่ยวข้องอยู่เป็นประจำ ซึ่งสิ่งสำคัญจุดแข็งของบริษัทเหล่านี้ คือ เป็นบริษัทที่หลายๆคนนึกถึงเป็นบริษัทแรกๆเมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์นั้น แม้จะไม่ได้เป็นบริษัทเดียวในอุตสาหกรรมนั้นๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายากจะมีคู่แข่งที่สามารถทัดเทียมได้ในช่วงเวลาใกล้ๆ นี้ ซึ่งหุ้นที่เราสนใจและคาดว่าจะลงทุน คือ บริษัทรถหรูระดับโลกอย่าง Daimler ร้านกาแฟที่พลิกวัฒนธรรมการดื่มกาแฟอย่าง Starbuck หรือแม้แต่บริษัทยาชั้นนำอย่าง Gilead”
ด้าน Mr.Simon Grose-Hodge Managing Director, Head of Investment Advisory, LGT Bank (Singapore) Ltd. ผู้ให้ข้อมูลการลงทุนจากประเทศสิงคโปร์ ได้สะท้อนมุมมองด้านการลงทุนในหุ้น ว่าปัจจุบันการลงทุนในหุ้นทั่วโลกยังคงน่าสนใจ เพราะด้วยการประเมินมูลค่าหุ้นยังไม่สูงนัก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์มั่นคงที่ผลตอบแทนต่ำเป็นประวัติการณ์ทั่วโลก ทำให้การลงทุนในหุ้นยังคงมีความน่าสนใจกว่าตราสารหนี้ และที่สำคัญเศรษฐกิจโลกก็เริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ย่อมเกื้อหนุนให้บริษัทชั้นนำเหล่านี้มีการขยายตัวของรายได้และผลกำไรได้ต่อเนื่อง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนได้ในวันและเวลาทำการเสนอขายที่ บลจ.ธนชาต โทรศัพท์ 0-2126-8399 กด 0 หรือ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 1770 หรือผู้สนับสนุนการขาย หรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ บลจ.ธนชาต แต่งตั้ง www.thanachartfund.com
คำเตือน
· การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
· กองทุนอาจป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
· หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้
ออกข่าวโดย : กลุ่มสื่อสารองค์กร สายงานสื่อสารและบริหารแบรนด์ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2613-6000 ต่อ 6456
บลจ.ธนชาต ลุ้นดัชนีหุ้นไทยแตะ 1600 จุด ใน 2-3 เดือนนี้ แต่ระหว่างทางจะมีการพักฐานที่แนวรับ 1450-1480 จุด
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ธนชาต คาดว่าภายใน 2-3 เดือนนี้มีโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยแตะที่ระดับ 1,600 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจในการบริหารจัดการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่ทั้งนี้ต้องติดตามดูว่าการปฏิรูปต่างๆ จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน ส.ค. ถึง ก.ย. มองว่าดัชนีฯ จะอยู่ระหว่างพักฐานโดยมีแนวรับ 1,450-1,480 จุด
ทั้งนี้ แนะนำหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุน ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่ล้อไปกับนโยบายของคสช.
"ในช่วงที่ผ่านมากระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติออกไปจากบ้านเราค่อนข้างมาก ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยเริ่มเปลี่ยนเชื่อว่าฝรั่งจะกลับมาอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้คงต้องติดตามการปฏิรูปของคสช. และสนช. ว่าจะเป็นไปตามแผนหรือไม่ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศในเรื่องของการลดปริมาณ QE คงจะต้องติดตามในปีหน้าเป็นหลัก เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะมีการปรับขึ้นในส่วนของดอกเบี้ย ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยง เพราะไม่รู้ว่ากระแสเงินจะกลับข้างไปในทิศทางใด" นายบุญชัย กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย