- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 31 October 2016 18:38
- Hits: 3166
TPRIME ปิดเทรดวันแรก 12.70 บาท พุ่ง 27% โบรกฯให้มูลค่า 12.40-13.13 บาท
TPRIME ปิดเทรดวันแรกที่ 12.70 บาท เพิ่มขึ้น 2.70 บาท (+27.00%) จากราคา IPO หน่วยละ 10.00 บาท โดยเปิดตลาดที่ 14.00 บาท สูงสุด 14.00 บาท ต่ำสุด 12.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,050.29 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่าแม้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ (TPRIME) จะไม่ได้รับการกล่าวขวัญถึงมากเท่าทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (GVREIT) ซึ่งราคาขณะนี้สูงเป็น 14.90 บาท เทียบกับราคาจองที่ 10.00 บาท แต่หากพิจารณาสินทรัพย์ภายใต้การบริหารอาคารสำนักงานคือ เอ็กเชน ทาวเวอร์(ลงทุนทางอ้อมผ่านการถือหุ้น) และเมอร์คิวรี่ ทาวเวอร์ (สิทธิการเช่า) พบว่าดีใกล้เคียงกัน คือ แม้ว่าทั้งมูลค่ากองทรัสต์ฯและพื้นที่เช่าน้อยกว่าเป็น 7.2 พันล้านบาท และ 67,653 ตารางเมตร ตามลำดับ
แต่หากพิจารณาในแง่ทำเลที่ตั้งของอาคารสำนักงานก็อยู่ในทำเลที่ดีมากคือ ใกล้รถไฟฟ้า BTS เหมือนกัน คือ เอ็กเชน อยู่สถานีอโศก และเมอร์คิวรี่ อยู่สถานีชิดลม อีกทั้งอัตราการเข้าเช่าสูงเป็น 98% และ 96% ตามลำดับ ส่วนอายุสัญญาเช่านั้น เอ็กเชน ไม่มีวันหมดอายุ (Free Hold) และเมอร์คิวรี่เหลืออีก 19 ปี ข้อดีคือ เป็นกองทุนผสมคือ มีสินทรัพย์ทั้ง Free Hold จะทำให้มูลค่าเพิ่มตามราคาที่ดิน และสินทรัพย์ส่วนที่เป็นเช่าระยะยาว ก็จะช่วยให้มีกำไรเพิ่ม แม้ในอนาคตอายุน้อยลง จะทำให้มูลค่าลดลง แต่สัดส่วน Free Hold มากกว่าเป็น 66-67% ลูกค้าที่เช่าอาคารมีหลากหลายธุรกิจช่วยกระจายความเสี่ยง ภาวะอุตสาหกรรมเกื้อหนุนคือ อุปสงค์พื้นที่สำนักงานมีมากกว่าอุปทานและคาดว่าปันผลสูง
เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเปิดเผยข้อมูล จึงยังไม่สามารถใช้วิธีส่วนคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ได้ แต่ในเบื้องต้น หากใช้ GVRIET เป็นตัวอ้างอิง ซึ่งปัจจุบันซื้อขายด้วย P/NAV ที่ 1.46 เท่า หากใช้ส่วนลดเพื่อสะท้อนขนาดเงินลงทุนและพื้นที่เช่าที่น้อยกว่าในอัตรา 10-15% จะได้ P/NAV ที่ 1.31-1.24 เท่า ขณะที่ NAV ล่าสุดที่ประเมินเป็น 9.99 บาท จะได้ราคาพื้นฐานในเบื้องต้นที่ 12.40-13.13 บาท คิดเป็นส่วนเพิ่มจากราคาที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 24%-31% ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์น่าสนใจ
อินโฟเควสท์
TPRIME ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอาคารสำนักงานให้เช่า เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 31 ต.ค. นี้
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ (TPRIME) เป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่ลงทุนในอาคารสำนักงานให้เช่าภายในโครงการเอ็กเชน ทาวเวอร์ และโครงการเมอร์คิวรี่ ทาวเวอร์ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 31 ต.ค. นี้ ด้วยมูลค่า 5,475 ล้านบาท
ดร.สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ (TPRIME) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในวันที่ 31 ตุลาคม 2559
TPRIME เสนอขายหน่วยทรัสต์ต่อผู้ลงทุนระหว่างวันที่ 4-7 ตุลาคม 2559 จำนวน 547.50 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 5,475 ล้านบาท โดยมีบริษัท เอสซีซีพี รีทส์ จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เป็นทรัสตี บริษัท แกรนท์ ธอนตัน เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์
TPRIME ลงทุนในกรรมสิทธิโครงการเอ็กเชน ทาวเวอร์ โดยถือหุ้นไม่น้อยกว่า 99.99% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เอ็กเชน ทาวเวอร์ จำกัด และสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารโครงการเมอร์คิวรี่ทาวเวอร์ ระยะเวลา 19 ปี สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2578 ทั้ง 2 โครงการมีพื้นที่ให้เช่าทั้งส่วนของสำนักงานและพื้นที่ร้านค้ารวมทั้งสิ้น 67,653 ตารางเมตร โดยมีผู้เช่าทั้งบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติในหลากหลายธุรกิจ ในอัตราการเช่ามากกว่า 97%
นายสุชาติ เจียรานุสสติ กรรมการบริหาร บริษัท เอสซีซีพี รีทส์ จำกัด เปิดเผยว่า TPRIME มีจุดเด่นคือการผสมผสานระหว่างกองทรัสต์ที่ประกอบด้วย กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ (Freehold) และ สิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (Leasehold) อยู่ในกองเดียวกัน ซึ่งโครงการที่ TPRIME เข้าไปลงทุนทั้ง 2 โครงการ ถือว่าเป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ตั้งอยู่ในเขตศูนย์กลางย่านธุรกิจที่แวดล้อมด้วยสาธารณูปโภคครบครัน เชื่อมต่อแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน จึงทำให้มีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูง และเชื่อว่าด้วยศักยภาพของอาคารและทำเลที่ตั้งที่สะดวกต่อการเดินทาง ผนวกกับความเป็นมืออาชีพในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ จะช่วยเพิ่มมูลค่าของการลงทุน และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์
TPRIME มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี โดยหลัง IPO ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใหญ่ของ TPRIME 3 ลำดับแรก ได้แก่ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยทรัสต์ 21.00% บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยทรัสต์ 9.13% และ
บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยทรัสต์รายละ 7.31%
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของทรัสต์ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของทรัสต์ที่ www.tprimereit.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th
“ทศวรรษที่ 5 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อคนไทยเข้าถึงการลงทุนที่มั่งคั่งยั่งยืน”