- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 28 July 2014 00:07
- Hits: 3004
ทิสโก้ โชว์ผลงานกองทริกเกอร์ต่อเนื่อง หุ้นไทยเข้าเป้า 2 กองรวด แนะลงหุ้นเกาหลีต่อ
ทิสโก้โชว์บริหารกองทริกเกอร์ฟันด์ต่อเนื่อง ล่าสุดกองทริกเกอร์หุ้นไทยเข้าเป้า 2 กองรวด หลัง SET พุ่งไม่หยุด พร้อมมองหุ้นไทยแพงแล้วไม่น่าเข้าลงทุนเพิ่ม แนะลงทุนหุ้นต่างประเทศตอบโจทย์เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน หนุน'เอเชียเหนือ' น่าลงทุนสุด เตรียมเปิดขายกองทริกเกอร์หุ้นเกาหลีต่อเนื่อง
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, First Senior Vice President, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า จากที่ บลจ.ทิสโก้ ได้เสนอขายกองทริกเกอร์หุ้นไทย ที่ลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น ล่าสุด หลังจากที่ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กองทริกเกอร์หุ้นไทยสามารถสร้างผลตอบแทนเข้าเป้าหมายถึง 2 กองในวันดียวกัน ได้แก่ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 11” ที่กำหนดเป้าหมายเลิกโครงการไว้ที่ 8% โดย NAV ณ วันที่ 23 ก.ค. 57 อยู่ที่ 10.8481 บาทต่อหน่วย ซึ่งเข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการ และอีกกองคือ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ไดนามิก ทริกเกอร์ 10% #1” ที่กำหนดเป้าหมายการจ่ายผลตอบแทน 2 ครั้ง เมื่อกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ทุกๆ 5% โดย NAV ณ วันที่ 23 ก.ค. 57 อยู่ที่ 10.5796 บาทต่อหน่วย ซึ่งเข้าเงื่อนไขการจ่ายคืนผลตอบแทนครั้งแรก ซึ่งถือเป็นอีกผลงานที่พิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ของทิสโก้ได้อย่างเป็นอย่างดี
“ช่วงที่เราเสนอขายกองทริกเกอร์หุ้นไทยทั้ง 2 กอง เป็นช่วงที่หุ้นไทยปรับฐานจากความกังวลทางการเมือง หุ้นพื้นฐานดีหลายตัวมีราคาที่ไม่สูงนัก เราจึงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน ซึ่งหลังจากสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย ดัชนีหุ้นไทยก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามที่คาด จนถึงระดับเป้าหมายการเลิกโครงการที่ 8% และการจ่ายผลตอบแทนรอบแรกที่ 5% ของทั้ง 2 กองในที่สุด และจากดัชนีหุ้นไทยที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่หยุดนี้ ทำให้เราเชื่อมั่นว่ากองทริกเกอร์หุ้นไทยของเราที่ยังอยู่ในอายุโครงการ จะทยอยเข้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่องอีกเช่นกัน”
ทั้งนี้ จากการที่ดันชีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นนั้น ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนทิสโก้เวลธ์ จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยยังคงให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายของปีนี้ที่ 1,590 จุด ทำให้ราคาหุ้นถือว่าอยู่ในระดับที่แพงและแทบไม่มีอัพไซด์แล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศที่แนะนำลงทุน คือ'ตลาดหุ้นเอเชียเหนือ'ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน และฮ่องกง ซึ่งยังมีพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ที่เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของเอเชีย นับว่ามีความน่าสนใจมากในเวลานี้
โดยล่าสุด ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BoK) มีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศโดยการปรับเพิ่มวงเงินกู้ให้กับธุรกิจ SMEs อีก 3 ล้านล้านวอน เป็น 15 ล้านล้านวอน และคาดว่า BoK มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps เป็น 2.25% ขณะที่ตลาดเริ่มคาดการณ์การลดดอกเบี้ยนโยบาย โดยค่าเงินวอนอ่อนตัวลงราว 2% และดัชนี KOSPI ปรับตัวขึ้นราว 2% จากต้นเดือน ก.ค. ทำให้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้มีความน่าสนใจลงทุนมากขึ้น
“จากความโดดเด่นของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ บลจ.ทิสโก้ จึงเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์กองใหม่ ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้อีกอย่างต่อเนื่องในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่เสนอขายไปแล้วถึง 3 กอง และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน เนื่องจากสามารถตอบโจทย์การลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม” นายสาห์รัช กล่าว
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากกองทุนต่างประเทศไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการกำหนดเป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการเท่านั้น ไม่ใช่การประมาณการหรือการรับประกันว่า ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในอัตราตามตัวเลขที่ระบุไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้หากภาวะตลาดหรือภาวการณ์ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากคาดการณ์ทำให้มูลค่ากองทุนรวมไม่ถึงตัวเลขเป้าหมายในเวลาที่กำหนด กองทุนรวมจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยซื้อ/ขาย/ สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ทั้งนี้เป้าหมายการเลิกโครงการ เป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี)