- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 22 August 2016 14:22
- Hits: 2661
บลจ.กสิกรไทย ขานรับประกาศ ก.ล.ต. เปิดเพิ่มอีก 4 กอง RMF รับโอนจาก PVD รวมปัจจุบันมี RMF 7 กอง ครอบคลุมหลากหลายนโยบาย
บลจ.กสิกรไทย เปิดเพิ่มกอง RMF อีก 4 กองรองรับโอนย้าย PVD เพื่อลงทุนต่อเนื่อง
นายเกษตร ชัยวันเพ็ญ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ประกาศกฎเกณฑ์เพิ่มเติม ภายใต้พ.ร.บ.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 ให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) สามารถโอนเงินจากกองทุน PVD ที่สะสมอยู่ไปลงทุนต่อเนื่องในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ได้
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ต่อลูกจ้างบริษัทและเพื่อส่งเสริมการเก็บออมเงินเพื่อวัยเกษียณ จึงได้ขานรับนโยบายดังกล่าว โดยได้เปิดให้โอนย้ายมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 โดยเริ่มต้นให้โอนย้ายเข้ามาในกองทุน RMF ได้ 3 กองทุน และล่าสุดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ได้เปิดให้โอนย้ายเพิ่มได้อีก 4 กองทุน รวมเป็น 7 กองทุน จากที่บลจ.กสิกรไทยมีกองทุน RMF รวมทั้งหมดอยู่ 14 กองทุน
"การเปิดให้โอนย้ายจากกองทุน PVD เข้ามาใน RMF จะเป็นประโยชน์สำหรับลูกจ้าง อาทิ กลุ่มที่ลาออกจากงานก่อนอายุเกษียณ หรือเปลี่ยนงานโดยที่บริษัทใหม่ไม่มีสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและต้องเสียภาระค่าใช้จ่ายปีละ 500 บาทในการคงสมาชิกกองทุนเอาไว้ เนื่องจากยังไม่มีความจำเป็นในการนำเงินออกไปใช้ และไม่ต้องการเสียภาษีเป็นจำนวนมากจากการนำเงินออกจากกองทุน PVD ซึ่งหากลูกค้าโอนย้ายมากองทุน RMF แล้วก็ไม่ต้องเสียค่าคงสถานะดังกล่าว และยังสามารถนับอายุต่อเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อีกด้วย"นายเกษตร กล่าว
นายเกษตร กล่าวว่า นับตั้งแต่ บลจ.กสิกรไทยเปิดให้โอนย้ายเข้า RMF ได้เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถึง ณ วันที่ 18 สิงหาคม มีมูลค่าเงินรับโอนมาแล้วทั้งสิ้นเกือบ 100 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังเป็นตัวเลขที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับมูลค่าเงินทั้งหมดในส่วนที่สมาชิกแจ้งคงสถานะไว้ในกองทุน PVD ของบลจ.กสิกรไทย ที่มีมูลค่ากว่า 3.7 พันล้านบาท และหลังจากนี้ คาดว่าลูกค้าจะทยอยโอนเข้ามาใน RMF มากขึ้น
ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย เปิดให้เลือกโอนเข้ากองทุน RMF ได้ 7 กองทุน ซึ่งครอบคลุมนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ อาทิ หุ้นและตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFIRMF), กองทุนเปิดเค บาลานซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KBLRMF), กองทุนเปิดเค หุ้นทุนบริพัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFLRMF), กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KMSRMF), กองทุนเปิดเค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KEQRMF), กองทุนเปิดเค โกลบอล แอลโลเคชั่น เพื่อการเลี้ยงชีพ (KGARMF) และกองทุนเปิดเค โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KGIFRMF)
โดย 4 กองทุนหลัง ได้เปิดเพิ่มเข้ามาล่าสุดเพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้า PVD ที่มีความเชื่อมั่นต่อการบริหารงานของเราและต้องการลงทุนต่อเนื่องกับกองทุน RMF ของบลจ.กสิกรไทย และไม่ต้องการโอนย้ายไปยังบลจ.อื่นๆ นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทอาจพิจารณาเพิ่มเติมให้สามารถโอนย้ายไปยัง RMF ได้ครบทั้งหมดจำนวน 14 กองทุน
สำหรับคำแนะนำกับลูกค้าที่โอนย้ายมากองทุน RMF ทางบริษัทจะแนะนำให้ลูกค้าสมัครใช้บริการ K-Cyber Invest (บริการลงทุนในกองทุนรวมทางอินเทอร์เน็ตกสิกรไทย) เพื่อสะดวกต่อการไว้ใช้ตรวจสอบดูยอดเงินลงทุน โดยระบบจะแยกบัญชีระหว่างกองทุน RMF ที่รับโอนเงินมาจาก PVD กับกองทุน RMF เดิมที่ลูกค้ามีการลงทุนกับบลจ.กสิกรไทยอยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้เงินในส่วน PVD ที่โอนเข้ามา RMF แล้ว หากลูกค้าต้องการสับเปลี่ยนไปยังกองทุน RMF อื่น ๆ ของบลจ.กสิกรไทยในภายหลัง ก็สามารถทำได้ผ่านบลจ.กสิกรไทยโดยตรง แต่จะยังไม่สามารถทำรายการสับเปลี่ยนผ่านระบบ K-Cyber Invest ได้ ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมพัฒนาระบบและจะเปิดให้สับเปลี่ยนผ่าน K-Cyber Invest ได้ต่อไปในเร็วๆนี้
ส่วนกรณีเรื่องกรมสรรพากรที่ยังไม่มีประกาศออกมาชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขทางภาษีกรณีลูกค้าขายคืนกองทุน RMF ส่วนที่โอนมาจาก PVD นายเกษตร กล่าวว่า ไม่น่ากังวลมากนัก เนื่องจากคาดว่าสรรพากรน่าจะเตรียมมาตรการที่เหมาะสมไว้สำหรับกรณีนี้แล้ว นอกจากนี้สำหรับผู้ลงทุนที่ยังอายุไม่ถึง 55 ปี ก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะยังไม่สามารถขายคืนได้ตามเงื่อนไขทางภาษีอยู่แล้ว เพราะการโอนย้ายจาก PVD มาที่ RMF ก็เพื่อส่งเสริมให้ผู้ลงทุนออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณอายุและเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดทางภาษีด้วย
ส่วนคนที่อายุครบ 55 ปีแล้ว บริษัทก็จะยังไม่แนะนำให้ขายคืนหน่วยลงทุนในระหว่างนี้ เพื่อรอความชัดเจนเรื่องภาษีจากทางสรรพากรก่อน