- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 07 March 2016 18:41
- Hits: 2743
บลจ.วรรณ เปิดขายกองโฮสพีทอล 7-17 มี.ค.คาด SET Index สิ้นปีนี้ 1,450-1,500 จุด EPS โต 7-12%
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า บลจ.ววรณ ได้เปิดขายกองทุนเปิด วรรณ โฮสพีทอล (ONE-HOSPITAL) ระหว่างวันที่ 7-17 มี.ค.59 โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยกองทุนดังกล่าวสามารถลงทุนในตราสารหนี้ได้ตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในการบริหารการลงทุน สามารถกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศในกลุ่มโรงพยาบาล โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของกองทุนข้างต้น จะขึ้นอยู่กับการเติบโตของหุ้นโรงพยาบาลนั้นๆ ซึ่งจะเห็นได้รายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนไทยในปีนี้ น่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท โดยเป็นการเติบโตจากตลาดคนไข้ชาวต่างชาติ ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนรายได้เพียง 25% ของรายได้โรงพยาบาลเอกชนไทยทั้งหมด
ขณะนายวิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย(SET)ขณะนี้มีการฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยคาดดัชนี SET สิ้นปี 59 อยู่ที่ 1,450-1,500 จุด และคาดการณ์ EPS (กำไรต่อหุ้น) ของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตราว 7-12% จากปีก่อนที่เติบโต 5-7% เป็นไปตามการฟื้นตวของเศรษฐกิจ ประกอบกับมีแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขณะเดียวกันมองนักลงทุนต่างชาติมีโอกาสกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งหลังธนาคารกลางหลายประเทศดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะญี่ปุ่นและยุโรป รวมทั้งมูลค่าหุ้นไทยยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับ TIP Market
ขณะที่ปัจจัยที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือในเรื่องของราคาน้ำมันที่ผันผวน และภาวะศรษฐกิจโลก โดยเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ ,การปรับขึ้นอัตรดอกเบี้ยของ FED ,โอกาสการปรับลด EPS และ ปัญหาภัยแล้งในประเทศไทย
"จะเห็นว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาดัชนีมีการปรับตัวขึ้นเกือบแตะระดับ 1,400 จุด ซึ่งน่าจะเกิดจาก Sentiment ที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องติดตามในเรื่องของราคาน้ำมัน ซึ่งหากยืนอยู่ระดับ 40 เหรียญ/บาร์เรล ได้ ก็น่าจะส่งผลให้ดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อ รวมถึงการดำเนินโยบาย QE ที่จะเป็นตัวสนับสนุนดัชนีปรับขึ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีความเป็นได้ที่เฟดอาจไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหลายๆตัวออกมาดี" นายวิน กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทคาดการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ 3-3.8% จากปีก่อน GDP อยู่ราว 2.8% โดยมีปัจจัยสนับนุนหลักมาจากการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนภาคเอกชนมากขึ้น และส่งผลดีต่อการบริโภคภายในประเทศที่จะฟื้นตัวดีขึ้น ที่สำคัญการส่งออกจะค่อยๆฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก และราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวตามอุปสงค์ รวมถึงภาคการท่องเที่ยว ที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติก็แนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดตัวเลขดังกล่าวในปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 32.5-34.0 ล้านคน
สำหรับ หุ้นที่ บลจ.วรรณ แนะนำลงทุนในปีนี้เป็นหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่ดี มีผลตอบแทบที่สูง เช่น หุ้นกลุ่มสื่อสาร, การท่องเที่ยวและบริโภค, ธนาคารพาณิชย์, โรงพยาบาล เป็นต้น
อินโฟเควสท์
บลจ.วรรณ มองดัชนีหุ้นไทยปีนี้ 1,450-1,500 จุด อิง P/E 14 เท่า -กำไร บจ.โต 7-12% ชูกลุ่มท่องเที่ยว-บริโภคเด่น
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด แถลงข่าว เสนอทางเลือกสะสมลงทุนหุ้นโรงพยาบาล พร้อมเปิดเสนอขายกองทุน วรรณ (โฮสพิทอล) (ONE-HOSPITAL) โดยมี ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นผู้ให้ข้อมูล โดยมีสาระสำคัญดังนี้
มองดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,450-1,500 จุด ระดับ P/E 14 เท่า กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งไม่รวมกับหุ้นในกลุ่มพลังงานเติบโต 7-12 % หรือ 102 บาทต่อหุ้น
มองจีดีพีไทยปีนี้จะเติบโต 3-3.8% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตในปี 58 ที่เติบโต 2.8% โดยมีปัจจัยหลักที่สนับสนุนเศรษฐกิจไทย คือการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าในปี 59 ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยจะสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 32.5-34 ล้านคน นอกจากนี้ ยังได้รับผลบวกจากทางการคลังผ่านการใช้จ่ายของภาครัฐ
หุ้นที่แนะนำลงทุน เป็นหุ้นในกลุ่มการท่องเที่ยวและการบริโภคที่จะได้รับประโยชน์จากการที่ภาครัฐกระตุ้น และเลือกหุ้นที่มีกระแสเงินสดดี และจ่ายเงินปันผลสูง อาทิ หุ้นกลุ่มสื่อสาร
บลจ.วรรณ ประเมินว่าในปีนี้เฟดอาจจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น
ล่าสุด ได้เปิดขายกองทุนเปิดวรรณ (โฮสพิทอล) (ONE-HOSPITAL) ซึ่งจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลและการแพทย์ โดยจะเสนอขายตั้งแต่วันที่ 7-17 มี.ค. 59 ซึ่งลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูง อีกทั้งกองทุนดังกล่าวสามารถลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้ได้ตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในการบริหารการลงทุน อีกทั้งยังสามารถกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย