- Details
- Category: บลจ.
- Published: Tuesday, 11 August 2015 09:46
- Hits: 5565
บลจ.วรรณ ประกาศจ่ายปันผล 3 กองทุนอสังหาริมฯ มูลค่ารวมกว่า 130 ล้านบาท
บลจ.วรรณ ประกาศจ่ายปันผล 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 130 ล้านบาท พร้อมแนะลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ป้องกันเสียโอกาสการลงทุน ช่วงรอสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 3M1 (1FIX-3M1)อายุโครงการ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 1.70%ต่อปี
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนมีมติจ่ายเงินปันผล 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวมประมาณกว่า 130 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ (MIPF) จ่ายปันผลประจำงวดวันที่ 1 มกราคม 2558-30 มิถุนายน 2558 ในอัตรา 0.5800 บาทต่อหน่วย มูลค่าประมาณ 110 ล้านบาท
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) จ่ายปันผลประจำงวดวันที่ 1 เมษายน 2558-30 มิถุนายน 2558 ในอัตรา 0.1600 บาทต่อหน่วย มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1(TIF1) จ่ายปันผลประจำงวดวันที่ 1 เมษายน 2558-30 มิถุนายน 2558 ในอัตรา 0.1200 บาทต่อหน่วย มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 กองทุนจะขึ้นเครื่องหมายห้ามซื้อขายในวันที่ 19 สิงหาคม 2558 โดยมีกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 8 กันยายน 2558
กองทุน MIPF ลงทุนที่ดินและในอาคารโครงการมาลีนนท์ ทาวเวอร์ โดยมีบริษัท มาลีนนท์ ทาวเวอร์ จำกัดและบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ สำหรับกองทุน BKKCP ปัจจุบันลงทุนหองชุดสํานักงาน และหองชุดพาณิชยกรรม จํานวน 24 ยูนิต ในอาคารชาญอิสสระทาวเวอร; คิดเปนรอยละ 29.83% ของพื้นที่หองชุดสุทธิที่สามารถซื้อ-ขายหรือ ปลอยใหเชา (Net Lettable Area) และหงชุดสํานักงาน และหองชุดพาณิชยกรรม จํานวน 136 ยูนิต ในอาคารชาญอิสสระทาวเวอร 2 คิดเปน รอยละ 41.72% ของพื้นที่หองชุดสุทธิที่สามารถซื้อ-ขายหรือปลอยให;เชา (Net Lettable Area) โดยผูบริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทุน คือบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท จํากัด (มหาชน) และ กองทุน TIF1 ลงทุนในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในนิคมอุตสาหกรรม เขตสงเสริมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม รวม 6 แห่งได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค, สวนอุตสาหกรรมบางกะดี่, เขตสงเสริมอุตสาหกรรมนวนคร, นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ,นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร และนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี โดยบริษัท ไทยพัฒนา โรงงานอุตสาหกรรมจำกัด(มหาชน) เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์
ดร.วิน กล่าวเสริมว่า ในมุมมองด้านการลงทุนตลาดหุ้นมีความผันผวนและเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจาก ไม่ได้ปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยเสริมความมั่นใจของนักลงทุน ขณะที่งบบริษัทจดทะเบียนต่างๆเริ่มทยอยประกาศออกมาทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มขนาดใหญ่ อย่างเช่น พลังงานและธนาคารพาณิชย์ ซึ่งออกมาค่อนข้างอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้ตลาดยังขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน ในขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ บริษัทประเมินว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยยังมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอดูแนวโน้มช่วงเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งตลาดคาดว่าอาจมีการปรับขึ้นในเดือนกันยายนนี้ เป็นอย่างเร็ว
รวมทั้งมองว่า กนง. ยังมีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนถึงสิ้นปี 58 เพื่อรอดูผลการฟื้นตัวเศรษฐกิจและดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพหลังปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น จึงมองว่าเพื่อป้องกันการเสียโอกาสของการลงทุนในภาวะอัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวหรือปรับลดลง บริษัทจึงแนะนำให้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อรอทิศทางสัญญาณทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งถัดไป
โดยขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดวรรณตราสารหนี้ 3M1 (1FIX-3M1) ถึงวันที่ 14 ส.ค.นี้ โดยรอบการลงทุนนี้ จะพิจารณาลงทุนในเงินฝากต่างประเทศและตั๋วแลกเงินและเงินฝากธนาคารในประเทศ เช่น เงินฝาก PT BANK CIMB Nigag Tbk (CIMB Nigag) เงินฝากธนาคารทิสโก้ จำกัด(มหาชน) เงินฝากธนาคารอาคารสงเคราะห์ ตั๋วแลกเงินบริษัทเอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ตั๋วแลกเงินบริษัท บีเอสแอล ลิสซิ่ง จำกัด ตั๋วแลกเงินบริษัท เอเชียเสริมกิจลิสซิ่ง จำกัด(มหาชน) อายุโครงการประมาณ 3 เดือน โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 1.70% ต่อปี
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย