WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTAMชวนดาตลาดหุ้นผันผวนจับกลุ่มนักลงทุนพักเงิน KTAM ขาย 2 กองทุนตราสารหนี้ชูยิลด์ 1.95%      

      นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน  กรุงไทย  จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า ในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นผันผวน นักลงทุนบางกลุ่มต้องการพักเงิน บริษัทจึงเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ  ให้เป็นทางเลือก ได้แก่  กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 27 ( KTFFE27 )  อายุโครงการ 6 เดือน  และ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 28 ( KTFFE28 ) อายุโครงการ 3 เดือน เสนอขายวันที่ 5-11 สิงหาคม 2558  ผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย ทั่วประเทศ

    โดยกองทุน KTFFE27 เน้นลงทุนใน MTN ที่ออกโดย Banco Santander (Brasil ) S.A., ออกโดย  Banco  Latinoamericano de  Comercio  Exterior S.A., ออกโดย  Turkiye  Vakiflar Bankasi  TAO ,  เงินฝากประจำ  PT Bank Rakyat Indonesia  ( PERSERO) Tbk  และเงินฝากประจำ  Yapi ve Kredi Bankasi  A.S. ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 20 %  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ผลตอบแทนประมาณ 1.95 %  ต่อปี

  ส่วนกองทุน KTFFE28 เน้นลงทุนใน MTN ที่ออกโดย Banco Santander (Brasil) S.A., ออกโดย  Turkiye Vakiflar Bankasi TAO     ,  เงินฝากประจำ  Bank of China  ( Macau )  และเงินฝากประจำ  Yapi  ve  Kredi  Bankasi   A.S.  ในสัดส่วน 85%  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินของบมจ. บัตรกรุงไทย  ผลตอบแทนประมาณ 1.75%  ต่อปี  โดยทั้ง2กองทุน บุคคลธรรมดา ผลตอบแทนไม่เสียภาษี

     สำหรับ ผลตอบแทนตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวขึ้น ลงในช่วงแคบๆ จากการที่ตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ โดยตราสารหนี้ระยะสั้นกว่า 1 ปี อัตราผลตอบแทนมีการปรับตัวลดลงตามความคาดหวัง ว่า อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกรอบ ในขณะที่ตราสารหนี้อายุมากกว่า 1 ปี อัตราผลตอบแทนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนในประเทศที่มองว่าอัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับต่ำเกินไปและนักลงทุนต่างประเทศที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการที่เงินบาทมีการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วและหากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกรอบก็อาจทำให้เงินบาทยิ่งอ่อนค่าลงไปอีก  สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคม ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเคลื่อนไหวของตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ 

      ทางด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา อายุน้อยกว่า 1 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ( Fed )   ระบุว่า  Fed พร้อมที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย  ภายในปีนี้เมื่อตลาดแรงงานและเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสม ในขณะที่พันธบัตรอายุคงเหลือตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไปอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของราคาหุ้น ประกอบกับการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้ออาจชะลอตัวหลังตัวเลขดัชนีราคาค่าจ้างแรงงาน ( Employment Cost Index ) ไตรมาส 2 ออกมาต่ำกว่าคาดและต่ำสุดในรอบ 33 ปี โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง -3 bps. มาอยู่ที่ 0.67% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง -10 bps. มาอยู่ที่ 1.54% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง -7 bps.มาอยู่ที่ 2.20% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็น ตัวเลขการจ้างงาน และทิศทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาดและต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ / สำนักประชาสัมพันธ์

คุณแสงสิริ  เนตรอัมพร / คุณธันย์ชนก อนุศาสตร์  โทรศัพท์  0-2686-6206-7  / 082-082-2121

คุณสงกรานต์  กันแก้ว   ที่ปรึกษาด้านงานประชาสัมพันธ์ บริษัท คิธ แอนด์ คิน คอมมิวนิเคชั่น แอนด์  คอนซัลแตนท์  จำกัด

โทรศัพท์  081-455-2111

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!