- Details
- Category: บลจ.
- Published: Tuesday, 09 June 2015 00:03
- Hits: 2910
บลจ.กสิกรไทย ทุ่มกว่า 97 ล้านบาท จ่ายปันผลกองทุน ABFTH ผู้ลงทุนเฮรับพร้อมกัน 12 มิ.ย. นี้
บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าจ่ายปันผลกองทุน ABFTH พร้อมเผยกองทุน ETF กองแรกของประเทศ ยังโชว์ฟอร์มแจ่ม ผู้ลงทุนยิ้มรับเงินเข้ากระเป๋า 12 มิ.ย นี้ รวมมูลค่ากว่า 97 ล้านบาท
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 20 บาทต่อหน่วย มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 97.11 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 8.00 น. ของวันที่ 2 มิถุนายน 2558 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 มิถุนายน 2558
สำหรับ กองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการกองทุนพันธบัตรเอเชียระยะที่ 2 หรือ Asian Bond Fund 2 – ABF2 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของธนาคารกลางชาติต่างๆ ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจำนวน 11 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย เพื่อให้เกิดการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักลงทุนตลอดทั้งผู้ออกตราสารในตลาดตราสารหนี้ของประเทศสมาชิก และนับเป็นกองทุน ETF กองทุนแรกของไทยที่มีการลงทุนโดยอ้างอิงกับดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐ โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือออกโดยภาครัฐที่มีรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกัน หรือได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่าระดับ Investment Grade จากสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ
“การจ่ายปันผลของกองทุน ABFTH ในครั้งนี้ มีมูลค่ารวมถึง 97.11 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถรักษามาตรฐานในการบริหารกองทุนให้มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ดีใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง และมีการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอมาตลอดระยะเวลากว่า 9 ปี นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน แม้ว่าบรรยากาศการลงทุนจะมีความผันผวนอยู่ตลอดก็ตาม"นายชัชชัย กล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2558 ที่ผ่านมา สถานการณ์การลงทุนยังคงได้รับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งจากการเผชิญกับแรงกดดันของสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ยังมีการฟื้นตัวที่ล่าช้า ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันถึง 2 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปี จนปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำที่ 1.50% ต่อปี เพื่อพยุงเศรษฐกิจไทย
นอกจากนี้ ยังเผชิญกับปัจจัยภายนอกประเทศ ได้แก่ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลกในภาพรวมที่ยังคงชะลอตัว อาทิ สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่นและจีน ที่ยังมีทิศทางการฟื้นตัวไม่ชัดเจน ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกยังมีการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงกรณีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังคงส่งสัญญาณการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ชัดเจน ส่งผลทำให้เกิดความผันผวนทั้งตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้
จากปัจจัยที่กล่าวมา จึงส่งผลกระทบต่อเนื่องกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรและตราสารหนี้ให้เกิดความผันผวนในช่วงเวลาที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามด้วยจุดเด่นของกองทุน ABFTH ที่มุ่งเน้นลงทุนในพันธบัตรที่มีความมั่นคงสูง และมีผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง ทำให้กองทุนยังรักษาผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 กองทุน ABFTH มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 19 ครั้ง รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 363.36 บาทต่อหน่วย
นายชัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทยยังคงเปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้แบบมีอายุโครงการเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลาง โดยในระหว่างวันที่ 9 - 15 มิถุนายน 2558 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีไอ (KEFF6MBI) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี โดยในเบื้องต้นจะลงทุนในเงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, ตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ VakifBank, ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A. ประเทศบราซิล โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท และกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน ABFTH และกองทุน KEFF6MBI สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ บลจ.กสิกรไทย หรือ KAsset Contact Center 0 2673 3888
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุน ABFTH และกองทุน KEFF6MBI ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุน KEFF6MBI มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินของหลักทรัพย์ที่ลงทุน ทั้งนี้กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน