- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 11 May 2015 21:38
- Hits: 1558
ทิสโก้ แนะหุ้นจีนปรับฐานเป็นจังหวะเข้าลงทุน ส่ง 'ไชน่า ทริกเกอร์ 8%' กองที่ 20 ชี้หลากปัจจัยบวกดันเศรษฐกิจจีนฉลุย - หุ้นยังถูก
ทิสโก้มองหุ้นจีนปรับฐานเป็นจังหวะเข้าลงทุน ส่งกองทริกเกอร์ฟันด์ 'ไชน่า ทริกเกอร์ 8%' กองที่ 20 ลุยตลาดหุ้นจีนต่อเนื่อง เป้าหมายเลิกโครงการ 8% เสนอขายครั้งแรก 8 – 19 พ.ค. นี้ ชี้ตลาดหุ้นจีนยังสดใส รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง เชื่อแผนควบรวมรัฐวิสหากิจดันเศรษฐกิจจีนฉลุย ขณะที่หุ้นยังถูก คาดอัพไซด์ 17%
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) กล่าวว่า แม้ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจีนจะปรับตัวลงแรง จากข่าวการเพิ่มกฏเกณฑ์การปล่อยมาร์จิ้นเพิ่มเติม เพื่อลดการเก็งกำไรในตลาดหุ้นโดยใช้เงินกู้มาร์จิ้น ทำให้นักลงทุนมีความกังวล โดย ณ วันที่ 6 พ.ค. ดัชนี HSCEI หรือ H-Shares ปรับลดลงถึง -4.5% ในรอบ 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ทิสโก้มองว่าเป็นเพียงการปรับฐานในระยะสั้นเท่านั้น และเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุน โดยมองว่าโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นจีนในปีนี้จะยังไปได้ดี หลังจากธนาคารกลางจีน (PBoC) ได้ปรับลดอัตราสำรองตามกฎหมายของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 1% สู่ระดับ 18.5% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และคาดว่ารัฐบาลจีนจะยังดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกสำคัญ จากการที่รัฐบาลจีนผลักดันให้มีการควบรวมกิจการ (M&A) รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่เข้าด้วยกันเพื่อให้ลดจำนวนลง อาทิ ธุรกิจรถไฟ (บริษัท CSR และบริษัท CNR) ธุรกิจพลังงาน (บริษัท PetroChina และ Sinopec) รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างโทรคมนาคม สายการบิน และขนส่ง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจีน ขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้นจีนยังถูกที่สุดในเอเชีย โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ประเมิน Upside ของตลาดหุ้นจีนไว้ที่ 17% จากเป้าหมายดัชนีในปี 2558 ที่ระดับ 16,500 จุด ทำให้การลงทุนในหุ้นจีนตอนนี้ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก
ล่าสุด บลจ. ทิสโก้ จึงเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% #20” ซึ่งเป็นกองทริกเกอร์ฟันด์ในซีรีย์หุ้นจีน ที่ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในตลาดหุ้นจีนผ่านกองทุน Hang Seng H-Share Index ETF เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี HSCEI หรือ H-Sharesโดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายใน 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ซื้อขายสับเปลี่ยนได้ทุกวันทำการ โดยจะเสนอขายครั้งแรก 8 – 19 พ.ค. 58 นี้
“เรามองว่าตลาดหุ้นจีนเป็นหนึ่งใน Top Pick ที่แนะนำให้ลงทุน ทิสโก้เป็นรายแรกๆ ที่เล็งเห็นว่าตลาดหุ้นจีนน่าสนใจ และแนะนำนักลงทุนให้เพิ่มสัดส่วนพอร์ตลงทุนหุ้นจีนมาโดยตลอด และเป็นหนึ่งในไม่กี่รายที่ยืนยันในคำแนะนำนี้ ขณะที่ในตลาดอาจจะยังมีความกังวลว่าตลาดหุ้นจีนจะฟื้นจริงหรือไม่ ซึ่งในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา (31 ต.ค. 57 – 30 เม.ย. 58) ดัชนี HSCEI มีผลตอบแทนสูงถึง 34.20% ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ามุมมองของเราถูกต้อง ตลาดหุ้นจีนสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างน่าพอใจ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนปรับตัวดีขึ้นอย่างโดดเด่นจากผลการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ด้วยมุมมองที่แม่นยำ เราจึงมั่นใจว่ากองทริกเกอร์หุ้นจีนกองล่าสุดจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นเคย” นายสาห์รัช กล่าว
ทั้งนี้ บลจ. ทิสโก้ เสนอขายกองทุนทริกเกอร์หุ้นจีนในซีรีย์ “ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์” มาแล้วทั้งสิ้น 19 กองทุน โดยเข้าเป้าหมาย 14 กองทุน เลิกโครงการเมื่อครบกำหนด 3 กองทุน อยู่ระหว่างการลงทุน 1 กองทุน และอยู่ระหว่างการเสนอขายครั้งแรก 1 กองทุน
กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 20 มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท เสนอขายครั้งแรก 8 – 19 พ.ค. 58 นี้ ผู้สนใจสามาถติดต่อ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
___________________________________________
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
เนื่องจากกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
การกำหนดมูลค่าหน่วยลงทุนที่เป็นเป้าหมายเป็นเพียงเหตุให้มีการเลิกกองทุนหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายนั้น การกำหนดเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่ประมาณการหรือการรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามมูลค่าที่กำหนดเมื่อเลิกกองทุนหรือเมื่อมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ทั้งนี้หากภาวะตลาดหรือภาวการณ์ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์ กองทุนรวมอาจไม่ดำเนินการเลิกกองทุนหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติก็ได้ หรือหากหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ลงทุนสามารถซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ โดยที่เป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ซึ่งเป้าหมายเลิกโครงการเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี)
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 633 6000 กด 4
บลจ.ทิสโก้ ส่งกองทริกเกอร์หุ้นจีนเป้า 8%ใน 8 เดือน เชื่อตลาดยังสดใส
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า ทิสโก้ เปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% #20" ซึ่งเป็นกองทริกเกอร์ฟันด์ในซีรีย์หุ้นจีน ที่ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในตลาดหุ้นจีนผ่านกองทุน Hang Seng H-Share Index ETF เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี HSCEI หรือ H-Sharesโดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายใน 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ซื้อขายสับเปลี่ยนได้ทุกวันทำการ โดยจะเสนอขายครั้งแรก 8-19 พ.ค. 58 นี้
แม้ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจีนจะปรับตัวลงแรง จากข่าวการเพิ่มกฏเกณฑ์การปล่อยมาร์จิ้นเพิ่มเติม เพื่อลดการเก็งกำไรในตลาดหุ้นโดยใช้เงินกู้มาร์จิ้น ทำให้นักลงทุนมีความกังวล โดย ณ วันที่ 6 พ.ค. ดัชนี HSCEI หรือ H-Shares ปรับลดลงถึง -4.5% ในรอบ 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ทิสโก้มองว่าเป็นเพียงการปรับฐานในระยะสั้นเท่านั้น และเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุน โดยมองว่าโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นจีนในปีนี้จะยังไปได้ดี หลังจากธนาคารกลางจีน (PBoC) ได้ปรับลดอัตราสำรองตามกฎหมายของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 1% สู่ระดับ 18.5% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และคาดว่ารัฐบาลจีนจะยังดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกสำคัญ จากการที่รัฐบาลจีนผลักดันให้มีการควบรวมกิจการ (M&A) รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่เข้าด้วยกันเพื่อให้ลดจำนวนลง อาทิ ธุรกิจรถไฟ (บริษัท CSR และบริษัท CNR) ธุรกิจพลังงาน (บริษัท PetroChina และ Sinopec) รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างโทรคมนาคม สายการบิน และขนส่ง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจีน ขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้นจีนยังถูกที่สุดในเอเชีย โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ประเมิน Upside ของตลาดหุ้นจีนไว้ที่ 17% จากเป้าหมายดัชนีในปี 58 ที่ระดับ 16,500 จุด ทำให้การลงทุนในหุ้นจีนตอนนี้ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก
“เรามองว่าตลาดหุ้นจีนเป็นหนึ่งใน Top Pick ที่แนะนำให้ลงทุน ทิสโก้เป็นรายแรกๆ ที่เล็งเห็นว่าตลาดหุ้นจีนน่าสนใจ และแนะนำนักลงทุนให้เพิ่มสัดส่วนพอร์ตลงทุนหุ้นจีนมาโดยตลอด และเป็นหนึ่งในไม่กี่รายที่ยืนยันในคำแนะนำนี้ ขณะที่ในตลาดอาจจะยังมีความกังวลว่าตลาดหุ้นจีนจะฟื้นจริงหรือไม่ ซึ่งในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา (31 ต.ค. 57 – 30 เม.ย. 58) ดัชนี HSCEI มีผลตอบแทนสูงถึง 34.20% ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ามุมมองของเราถูกต้อง ตลาดหุ้นจีนสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างน่าพอใจ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนปรับตัวดีขึ้นอย่างโดดเด่นจากผลการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ด้วยมุมมองที่แม่นยำ เราจึงมั่นใจว่ากองทริกเกอร์หุ้นจีนกองล่าสุดจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นเคย" นายสาห์รัช กล่าว
ทั้งนี้ บลจ. ทิสโก้ เสนอขายกองทุนทริกเกอร์หุ้นจีนในซีรีย์ “ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์" มาแล้วทั้งสิ้น 19 กองทุน โดยเข้าเป้าหมาย 14 กองทุน เลิกโครงการเมื่อครบกำหนด 3 กองทุน อยู่ระหว่างการลงทุน 1 กองทุน และอยู่ระหว่างการเสนอขายครั้งแรก 1 กองทุน
กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 20 มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท