- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 23 February 2015 17:26
- Hits: 1999
MFC จี้ รัฐเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนปี 58 หวังดันดัชนีหุ้นไทยเข้าเป้า 1716 จุด พร้อม ตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิปี 58 แตะ 4.38 แสนลบ.โต 5%
MFC จี้ รัฐเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนปี 58 หวังหนุน ศก.ครึ่งหลังปีนี้ ดันดัชนีหุ้นไทยเข้าเป้า 1716 จุด พร้อมเดินหน้าลุยออกกองทุน หลังมองแนวโน้ม ศก.โลกฟื้นตัว -ตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิปี 58 แตะ 4.38 แสนลบ.โต 5% จากปี 57 พร้อมรักษาระดับรายได้ที่ 1 พันลบ.
นายชาคริต พืชพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายบริหารกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซีจำกัด(มหาชน) MFC เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในปี2558 มีแนวโน้มผันผวนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีทั้งปัจจัยบวกและลบกดดันบรรยากาศการลงทุนโดยปัจจัยบวกอาทิเรื่องของธนาคารกลางยุโรปเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินในการทำ QE ความชัดเจนในการแก้ปัญหาหนี้ในกรีซ อย่างไรก็ตาม ปัญหาระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และแนวโน้มในช่วงครึ่งปีที่หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายยังกดดันตลาดหุ้นไทย รวมทั้งปัจจัยในประเทศหลังจากนี้ คือปัญหาทางการเมืองเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ประกอบกับขณะนี้ภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ บริษัทฯประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี2558ที่ระดับ 1716 จุด อัตราการเติบโตของจีดีพีที่ 3.5-4.5% ภายใต้สมมติฐานการเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนของภาครัฐจำนวน 4 แสนล้านบาทในปีนี้ ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 75-80% หลังจาก ในการช่วงไตรมาสแรกปีงบ58การเบิกจ่ายงบลงทุนถือว่าล่าช้ามาก ขณะที่ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักอย่างภาคการส่งออกในปีนี้มองว่าไม่ใช่ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศแล้ว
"ประเทศไทยยังมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีทั้งในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำสภาพคล่องในประเทศยังสูงรวมทั้งในช่วงมี.ค. จะมีเม็ดเงินจากต่างประเทศจากการทำQEของยุโรป ซึ่งก็ต้องดูว่าจะไหลเข้ามายังตลาดหุ้นไทยมากน้อยแค่ไหน แต่เหนือสิ่งอื่นใดการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนของภาครัฐถือว่าจำเป็นมาก"นายชาคริตกล่าว
ด้านนางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) MFC กล่าวถึงกรณี การคุ้มครองเงินฝากของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.)ที่ นับตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.58 จะลดลงเหลือ 25 ล้านบาท จากปัจจุบัน 50 ล้านบาท และตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.59 วงเงินคุ้มครองเงินฝากจะเหลือเพียง 1 ล้านบาท ว่า จะส่งผลดีต่อบริษัทฯ เพราะจะส่งผลให้ประชาชนมาพักเงินในกองทุนมากขึ้น ดังนั้น บริษัทฯจะเร่งออกกองทุนแบบผสมผสานทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดขณะนี้ ทั้งนี้มองว่า ในปี 2558 อุตสาหกรรมกองทุนในภาพรวมจะมีความโดดเด่นมาก ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เปิดสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มเติมที่จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ต เพื่อให้บริการด้านการวางแผนการลงทุนสำหรับกลุ่มผู้สนใจลงทุนในภาคเหนือและภาคใต้ และเอ็มเอฟซียังเปิดให้บริการข้อมูลกองทุนรวมผ่านโทรศัพท์มือถือ MFC Smart App. เพื่อเผยแพร่กองทุนให้เป็นที่รู้จักทั่วไป และคาดว่าจะเริ่มให้บริการซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านมือถือ MFC Smart App. นี้ได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ถือหน่วยลงทุนอีกด้วย นอกจากนี้ เอ็มเอฟซียังได้จัดทำ Fund Gift Card เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมอบเป็นของขวัญแด่คนพิเศษในวาระช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้ผู้รับเกิดความสนใจเรื่องการลงทุนในกองทุนรวมอีกด้วย โดย Fund Gift Card มีมูลค่าอ้างอิงกับมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีพันธบัตรตลาดเงิน หรือ MM-GOV ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน
นางสาวประภา เปิดเผยด้วยว่า ในปี 2558 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเป็น 438,000 ล้านบาทหรือร้อยละ 5 และรักษาระดับรายได้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นกลยุทธ์หลักคือ การขยายสาขาไปต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า สร้างรายได้ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเอ็มเอฟซี อีกทั้งการหา Strategic Partners เพื่อพัฒนาธุรกิจ พัฒนากองทุนรูปแบบใหม่ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าจากผลงานการบริหารกองทุนและผลตอบแทนทุกประเภทกองทุน เพื่อให้เกิดความสะดวกและเป็นที่ประทับใจแก่ลูกค้า
สำหรับ ในปี 2557 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทภายใต้การจัดการของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2556 คิดเป็นร้อยละ 24.7 กล่าวคือ จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิปี 2556 จำนวน 333,905 ล้านบาท เป็น 416,633 ล้านบาทในปี 2557 โดยกองทุนรวมเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในปี 2556 จำนวน 197,407 ล้านบาท เป็น 235,520 ล้านบาทในปี 2557 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 39 จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในปี 2556 จำนวน 102,152 ล้านบาท เป็น 142,247 ล้านบาทในปี 2557 และกองทุนส่วนบุคคลเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในปี 2556 จำนวน 34,346 ล้านบาท เป็น 38,866 ล้านบาทในปี 2557
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เสนอขายกองทุนใหม่ในปีที่แล้ว 16 กองทุน เป็นกองทุนรวม 15 กองทุน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 1 กองทุน รวมมูลค่ากว่า 7,417 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดของกองทุนรวมตราสารทุน เป็นอันดับ 2 คิดเป็นร้อยละ 18.26 (ข้อมูลจาก สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ 30 ธันวาคม 2557) ด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้มีการจัดตั้งกองทุนใหม่ 6 กองทุน มูลค่ารวม 40,772 ล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคลมีการจัดตั้งกองทุนใหม่ 19 กองทุน มูลค่ารวม 3,708 ล้านบาท
ขณะที่ ในปีที่ผ่านมา เอ็มเอฟซีได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวม 34 กองทุน เป็นเงินกว่า 2,697.54 ล้านบาท โดยกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไฮ-ดิวิเดนด์ ฟันด์ (HI-DIV) จ่ายเงินปันผลรวมสูงสุดกว่า 1,265.38 ล้านบาท และกองทุนเปิดสินภิญโญสี่ (SF4) จ่ายเงินปันผลต่อหน่วยสูงสุด 2.53 บาท (หมายเหตุประกอบด้านล่าง)
อนึ่ง เอ็มเอฟซีได้รางวัลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่นปี 2557 ประเภท Pooled Fund รับโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นครั้งที่สองในรอบสามปี จัดโดยสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และเอ็มเอฟซียังได้รับรางวัลจากงาน SET Awards 2014 จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและวารสารการเงินธนาคาร จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ BEST Company Performance Awards ประเภทบริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 2,000-10,000 ล้านบาท Out Standing CEO Awards ประเภท CEO ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ Out Standing Asset Management Company Awards นอกจากนี้ ได้รับรางวัลของ The Asset Benchmark Survey จาก The Asset Magazine Research
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย