- Details
- Category: บลจ.
- Published: Tuesday, 03 February 2015 21:57
- Hits: 2069
บลจ.กรุงศรี คาดดัชนีฯปีนี้ผันผวนในกรอบ 1350-1800 จุด ประเมินกำไร บจ.โต 10-15% - ตั้งเป้าเพิ่ม AUM ปีนี้แตะ 3 แสนลบ.
นายประภาส ตันพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการลงทุน บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 58 จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,350-1,800 จุด โดยจะยังคงมีความผันผวนสูงเหมือนในปีที่ผ่านมา เนื่องจากยังมีความเสี่ยงของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และสถานการณ์ในนุโรปและรัสเซียที่ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก รวมไปถึงความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศว่าจะดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน ทำให้ตลาดหุ้นจะมีการปรับตัวขึ้นลงครั้งละหลายจุดเป็นระยะๆ
พร้อมกันนี้ คาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะเติบโต 10-15% จากปีก่อนที่ประเมินว่าจะติดลบ 3-5% เพราะราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรงในไตรมาส 4/57 จะส่งผลให้กำไรของกลุ่มพลังงานลดลงมาก โดยกลุ่มพลังงานมีน้ำหนักทางการประเมินสูง จึงน่าจะฉุดให้ภาพรวมลดลง
"หุ้นไทยปีนี้คงมีความผันผวนต่อไป มองว่ามีแก็ประหว่างขาขึ้นกับขาลงราวๆ 400-450 จุด เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงคอยกดดันทั้งในและต่างประเทศ ส่วนกำไรบจ.ก็จะยังคงเติบโตได้ เพราะส่วนใหญ่ยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง และถ้าคิดจากฐานต่ำในปีก่อนที่เราคาดว่าจะติดลบ 3-5% ก็จะทำให้การเติบโตปีนี้อยู่ที่ 10-15%" นายประภาสกล่าว
ขณะที่มองว่ามาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (QE) ของญี่ปุ่นและยุโรปที่ออกมา ตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะได้รับอานิสงส์ในเชิงบวกมากนัก เนื่องจากปัญหาการเมืองในประเทศที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับนโยบายของภาครัฐในการลงทุนต่างๆ ยังไม่เกิดขึ้นจริง ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังไม่เกิดความเชื่อมั่น
"ยังไม่น่าจะเห็นทิศทางไหลเข้าของ Fund Flow จากเม็ดเงินต่างชาติในตอนนี้แม้ยุโรปและญี่ปุ่นทำ QE ออกมา แต่น่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นประเทศอื่นในภูมิภาคมากกว่า เพราะประเทศเรามีปัญหาการเมืองในปีที่ผ่านมา ทำให้ต่างชาติไม่มั่นใจ เราก็เห็นภาพใน 2 ปีที่ผ่านมา เงินต่างชาติไหลออกชัดเจน ปี 56 ไหลออกไป 6 พันล้านเหรียญ ส่วนปี 57 เงินไหลออก 1 พันล้านเหรียญ ซึ่งกว่าจะเห็นความเชื่อมั่นที่แท้จริงของต้องรอการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อย รวมถึงเศรษฐกิจโตได้ 3.5-4.5% ตามที่มีการคาดการณ์กันไว้"
ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ 1.กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่ในปีนี้จะมีการส่งมอบโครงการทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมจำนวนมาก ประกอบกับยอดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์จะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อน จากปัจจัยอัตราดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำ และกำลังซื้อของผู้บริโภคมีการฟื้นตัวขึ้น 2.กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ยังมีการเติบโตที่ดีตามอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย 3.กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างคาดว่าจะมีการเติบโตได้อย่างดีเช่นกัน หากการเบิกจ่ายภาครัฐในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเกิดขึ้นจริง และ 4.กลุ่มสื่อสารที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี อีกทั้งในปลายปีนี้คาดว่าจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการประมูล 4G
นายประภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) สิ้นปีนี้แตะ 3 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 2.7 แสนล้าน โดยปีนี้จะมีการออกกองทุนใหม่ๆจำนวน 40-50 กอง กระจายในหลากลหายรูปแบบ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย