- Details
- Category: บลจ.
- Published: Monday, 02 February 2015 20:25
- Hits: 2056
บลจ.วรรณ เชียร์ลงทุนหุ้นจีน หลังมองมี Upside gain จากนโยบายทางการและมูลค่าหุ้นที่ยังต่ำ ส่งกองทุนเปิด ONE-CHINA 5/2 สร้างเป้าหมายผลตอบแทน 5% ใน 5 เดือน
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนของจีนในปีนี้ว่า เศรษฐกิจจีนน่าจะมีโอกาสรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ใกล้เคียงกับปีก่อนจากการสานต่อของนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้การลงทุนในหุ้นจีนยังคงมีความน่าสนใจ ประกอบกับมูลค่าหุ้นที่ยังต่ำเมื่อเทียบกับที่ผ่านมาและภูมิภาค รวมทั้งการเชื่อมต่อตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงระหว่างกันจะยิ่งผลักดันให้การลงทุนในตลาดหุ้นจีนดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากนักลงทุนได้มากขึ้นในระยะถัดไป
“ภาพรวมเศรษฐกิจจีนในปีนี้ ผมมองว่ายังมีโอกาสรักษาระดับการเติบโตได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยน่าจะขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 7.3-7.4% ซึ่งจะขยายตัวได้เท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับการสานต่ออย่างต่อเนื่องของนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีนว่าจะสามารถสานต่อได้อย่างต่อเนื่องเพียงใด ซึ่งโดยหลักๆ แล้ว มาตรการของทางการจีนที่ใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะดำเนินผ่าน 3 นโยบายหลักด้วยกัน คือ นโยบายการเงิน โดยการเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจผ่านธนาคารกลางจีน (PBOC) เช่น การปรับลดอัตราส่วนเงินฝากขั้นต่ำที่ธนาคารพาณิชย์ต้องถือเก็บไว้สำรองในรูปของเงินสดหรือฝากไว้ที่ธนาคารกลางหรือ RRR ลงเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์มีปริมาณเงินที่สามารถนำไปปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น / การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ โดยเฉพาะเกษตรกร / การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 14 วัน / การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ฯลฯ เพื่อลดต้นทุนภาระค่าใช้จ่ายของผู้กู้ยืม ซึ่งจะสนับสนุนให้การบริโภคและการลงทุนมากขึ้นและช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้หมุนเวียนมากขึ้น”
“นโยบายที่สอง ได้แก่ นโยบายการคลังซึ่งเป็นแผนการลงทุนระยะยาวในการนำเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างประเทศโดยการอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนการขนส่ง รวมทั้งสนับสนุนการจ้างงานและสร้างรากฐานการพัฒนาประเทศให้ยั่งยืน โดยเชื่อมต่อเส้นทางทั้งในประเทศ เช่น One Belt One Road และระหว่างประเทศผ่านโครงการ Silk Road ซึ่งเม็ดเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และปีนี้ทางการจีนยังมีแผนการลงทุนด้วยมูลค่ากว่า 12,000 ล้านหยวน ทำให้มองว่าเม็ดเงินการใช้จ่ายภาครัฐในส่วนนี้จะเข้ามาช่วยผลักดันจีดีพีประเทศให้เติบโตได้ นอกเหนือจากการปรับลดอัตราภาษีรายได้นิติบุคคลและขยายเพดานฐานภาษีให้กับธุรกิจ SME เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มรายได้ รวมทั้งสร้างแรงจูงใจให้นำเงินไปลงทุนมากขึ้น และนโยบายสุดท้าย ได้แก่ การปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนผ่านการปฏิรูปที่ดิน ปฏิรูปภาษีและปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งนโยบายนี้น่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักหนึ่ง แต่หากทำได้จริงแล้วนั้น ก็น่าจะส่งผลบวกให้กับจีนได้ไม่น้อย” นายวิน กล่าว
“ซึ่งจากเศรษฐกิจจีนที่รักษาการเติบโตได้แล้ว อีกหนึ่งความน่าสนใจของจีนในปีนี้ได้แก่ การประเมินมูลค่าหุ้นจีนในปัจจุบันที่ยังต่ำกว่าระดับที่เหมาะสมทั้งใน A-Share (หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จีน) และ H-Share (หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง) โดยจะเห็นได้จากระดับราคาหุ้นต่อกำไร (PE) ปัจจุบันทั้ง 2 ตลาดยังคงต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาและค่าเฉลี่ยภูมิภาค ขณะที่การเติบโตของรายได้บริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้มองว่าตลาดหุ้นจีนยังคงมีความน่าสนใจและมี Upside gain ที่จะเติบโตต่อไปได้”
“ขณะที่ อีกหนึ่งปัจจัยที่จะผลักดันตลาดหุ้นจีนได้ ได้แก่ การเชื่อมตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงให้สามารถซื้อขายระหว่างกันได้ภายใต้โครงการ A-H Shares inter-connect ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันปริมาณการซื้อขายจะยังไม่มากนักเนื่องจากเริ่มเปิดโครงการ แต่ก็เชื่อว่าด้วยความน่าสนใจของตลาดหุ้นจีนที่กล่าวข้างต้น จะผลักดันให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาในตลาดหุ้นมากขึ้นในอนาคต”
ซึ่งจากความน่าสนใจของตลาดหุ้นจีน ทำให้ บลจ.วรรณ เล็งเห็นโอกาสในการลงทุนในตลาดหุ้นจีนแต่เนื่องจากตลาดหุ้นอาจมีความผันผวนจากกระแสข่าวและการประกาศมาตรการต่างๆ ดังนั้นการลงทุนในลักษณะจับจังหวะการลงทุนในข่วงตลาดขึ้นลงผันผวนจึงควรเป็นการลงทุนระยะสั้นเพื่อสร้างกำไรระหว่างทาง ซึ่งสำหรับ บลจ.วรรณ ได้เสนอขายกองทุนเปิด วรรณ ไชน่า แวลู 5/2 ฟันด์ (ONE-CHINA 5/2) ระหว่างวันที่ 2-10 ก.พ. 58 โดยมีเป้าหมายการสร้างผลตอบแทน 5% ในระยะเวลา 5 เดือน โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุน ETF ประมาณ 60% โดยแบ่งเป็น A-Share ETF 35% และ H-Share ETF 25% และกระจายการลงทุนในลักษณะ Stock Selection ประมาณ 40% เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับกองทุน โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับอานิสงส์ของมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจและศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจจีน เช่น ธนาคารพาณิชย์ โครงสร้างพื้นฐานและประกัน” นายวินกล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ หากนักลงทุนสนใจการลงทุนในตลาดหุ้นจีนสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้าและสนับสนุนธุรกิจที่หมายเลข 02-659-8888 ต่อ 1
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย