- Details
-
Category: บลจ.
-
Published: Friday, 23 January 2015 14:59
-
Hits: 2913
JASIF กำหนดช่วงราคาขายหน่วยละ 10-10.50 บ. เปิดขาย 28 ม.ค. - 3 ก.พ. ชูผลตอบแทนปีแรก 8.6-9%
บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ประกาศเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 28 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2558 คาดว่า เงินที่นักลงทุนจะได้รับในปีแรก (ปี2558) ตามที่ปรากฎอยู่ในหนังสือชี้ชวน จะอยู่ที่ประมาณ 8.6%-9.0% โดยแบ่งเป็นเงินปันผล 7.8%-8.2% และการจ่ายลดทุน 0.8% อันเนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินที่เกิดจากค่าเช่ารับล่วงหน้า
ทั้งนี้ JASIF เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตรายแรกในประเทศไทยที่เน้นลงทุนในทรัพย์สินบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเป็นหลัก มีมูลค่ากองทุนประมาณ 55,000-57,750 ล้านบาท โดยจำนวนเงินทุนของโครงการจะขึ้นอยู่กับราคาเสนอขายสุดท้าย ซึ่งอยู่ในช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้น จำนวนหน่วยลงทุน 5,500ล้านหน่วย ช่วงราคาเสนอขายหน่วยลงทุนเบื้องต้นระหว่าง10.00 บาท ถึง10.50 บาท ต่อหน่วย โดยจะดำเนินการเสนอขายและจัดสรรหน่วยลงทุนให้แก่ผู้จองซื้อตามสัดส่วนเบื้องต้นดังต่อไปนี้
(1) เสนอขายต่อผู้ลงทุนในประเทศรวม 3,300,000,000 หน่วย
|
|
-
|
|
เสนอขายต่อผู้จองซื้อทั่วไปในประเทศ
|
|
806,850,000 หน่วย
|
|
|
|
-
|
|
เสนอขายต่อผู้จองซื้อพิเศษในประเทศ
|
|
660,000,000หน่วย
|
|
|
|
-
|
|
เสนอขายต่อผู้สนับสนุน
|
|
1,833,150,000 หน่วย
|
|
|
(2)
|
|
เสนอขายต่อผู้ซื้อหน่วยลงทุนเบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchaser)
|
|
2,200,000,000หน่วย
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ผู้จองซื้อทั่วไปชำระเงินค่าจองซื้อหน่วยลงทุนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่จองซื้อ โดยจะต้องชำระราคาที่ 10.50 บาทต่อหน่วย ณ วันจองซื้อและจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 หน่วย และเพิ่มเป็นจำนวนทวีคูณของ 100 หน่วย ทั้งนี้วิธีการจัดสรรหน่วยลงทุนให้กับผู้จองซื้อทั่วไปคือวิธี Small-Lot First
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ถือเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่จัดตั้งขึ้นเป็นรายแรกในประเทศไทยที่เน้นลงทุนในทรัพย์สินบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนให้เกิดการใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน โดยทรัพย์สินที่กองทุนจะเข้าลงทุนครั้งแรกได้แก่ กรรมสิทธิ์ในเส้นใยแก้วนำแสง 980,000 คอร์กิโลเมตรประกอบด้วย (1) เส้นใยแก้วนำแสง จำนวนรวมประมาณไม่น้อยกว่า 800,000 คอร์กิโลเมตร ที่บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JAS จะส่งมอบให้ JASIF ณ วันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น และ (2) เส้นใยแก้วนำแสง จำนวนรวมประมาณ 180,000 คอร์กิโลเมตร ที่ TTTBB จะทยอยส่งมอบให้ JASIF ภายใน 2 ปี นับจากวันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า “กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ได้รับอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต.แล้วเมื่อวันที่ 20มกราคมที่ผ่านมา โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับประมาณในปีแรก ตามที่ปรากฎอยู่ในหนังสือชี้ชวน ภายใต้สมมุติฐานว่า กองทุนซื้อขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง วันที่ 1 ธันวาคม 2557 เงินที่นักลงทุนจะได้รับอยู่ที่ประมาณ 8.6%-9.0% แบ่งเป็นประมาณการการจ่ายเงินปันผล 7.8%-8.2% และการจ่ายลดทุน 0.8% อันเนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินที่เกิดจากค่าเช่ารับล่วงหน้า โดยคำนวณจากสมมติฐานว่าผลกำไรส่วนใหญ่มาจากรายได้ตามสัญญาเช่าหลักและสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าและหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นเพียงการแสดงประมาณการสำหรับงวด 12 เดือน ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2558 อย่างไรก็ดี คาดว่า กองทุนจะสามารถลงทุนในทรัพย์สินได้ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2558ทั้งนี้ การจ่ายลดทุนจากสภาพคล่องส่วนเกินที่เกิดจากค่าเช่ารับล่วงหน้าจะเกิดเฉพาะ 3 ปีแรกเท่านั้นนอกจากนี้ค่าเช่าที่กองทุนจะได้รับจะเพิ่มขึ้นตามอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปีส่งผลให้เงินที่นักลงทุนได้รับในแต่ละปีจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF)มีจุดเด่นอยู่หลายประการ ซึ่งได้แก่
1. เส้นใยแก้วนำแสงที่กองทุนจะลงทุนมีอายุการใช้งานมาแล้วเฉลี่ยเพียงประมาณ 4 ปี และมีโครงข่ายครอบคลุม 77จังหวัดทั่วประเทศไทย
2. รายได้ค่าเช่าของกองทุนมีแนวโน้มการเติบโต มีโอกาสจ่ายผลตอบแทนที่น่าสนใจให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยรายได้ค่าเช่าของกองทุนจะเป็นไปตามสัญญาเช่าระหว่างกองทุนกับ TTTBB ซึ่งจะปรับขึ้นตามอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี
3. อุตสาหกรรมบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มการเติบโต ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในระดับต่ำเพียงร้อยละ 24.6 ในปี 2556 เทียบกับช่วงร้อยละ 70.3-99.6 ของประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี และสิงคโปร์ คาดว่าอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของไทยจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นร้อยละ 35.4 และร้อยละ 44.0 ในปี 2559 และปี 2562
4. TTTBB ในฐานะผู้เช่าหลักมีผลการดำเนินงานที่เติบโต โดย TTTBB มีรายได้เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในประเทศไทย โดยมีรายได้ในปี 2556 เท่ากับ 9,623 ล้านบาท หรือเติบโตสะสมร้อยละ 22.6 ต่อปี ในระหว่างปี 2554 ถึงปี 2556 และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2556 เท่ากับ 4,610 ล้านบาท หรือเติบโตสะสมร้อยละ 27.2 ต่อปี ในระหว่างปี 2554 ถึงปี 2556
5. JAS จะถือหน่วยลงทุนร้อยละ 33.33 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในปีที่ 1-3 และจะถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 19 ในปีที่ 4-6”
คุณวรารัตน์ ชุติมิต กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าวว่า “ช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นคือ ระหว่าง 10.00 บาทต่อหน่วย ถึง 10.50บาทต่อหน่วย และระยะเวลาการเสนอขายหน่วยลงทุนสำหรับผู้จองซื้อทั่วไปคือระหว่างเวลาเปิดและปิดทำการของสำนักงานใหญ่และสาขาของธนาคารผู้เป็นตัวแทนสนับสนุนการขาย(ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)) หรือบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ วันที่ 3 ก.พ. 2558 ระหว่างเวลาเปิดทำการจนถึงเวลา 12.00 น. ในกรณีการจองซื้อในวันเสาร์และวันอาทิตย์จะเปิดจองซื้อเฉพาะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น
สำหรับ วิธีการจัดสรรหน่วยลงทุนสำหรับผู้จองซื้อทั่วไปนั้นจะใช้วิธี Small-Lot First ในรอบแรกตามจำนวน จองซื้อขั้นต่ำ2,000 หน่วย และในรอบต่อๆ ไปรอบละ 100 หน่วยโดยไม่จำกัดจำนวนหน่วยลงทุนที่จะจองซื้อต่อ 1 ใบจอง กรณีที่มีหน่วยลงทุนไม่เพียงพอต่อการจัดสรรให้ผู้จองซื้อทั่วไปทุกรายในรอบใด จะใช้วิธีสุ่มคัดเลือกรายชื่อผู้จองซื้อทั่วไปที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร (Random) ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยบริษัท เซ็ทเทรด ดอทคอม จำกัด
ทั้งนี้ คาดว่าจะประกาศผลการจัดสรรหน่วยลงทุนได้ภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์2558 โดยสามารถตรวจสอบผลการจัดสรรได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุนในประเทศ และสำนักงานใหญ่และสาขาทั่วประเทศของผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน (ในวันทำการเท่านั้น) หรือทางช่องทางโทรศัพท์และเว็บไซต์ หรือผ่านทางเว็บไซต์ www.settrade.com ทั้งนี้ สามารถขอรับหนังสือชี้ชวน ใบคำขอเปิดบัญชีและจองซื้อหน่วยลงทุนได้ที่สำนักงานของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุนในประเทศ สำนักงานใหญ่และแต่ละสาขาของผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน ตั้งแต่28 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์2558 ในวันและเวลาทำการของสำนักงานของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุนในประเทศ สำนักงานใหญ่และแต่ละสาขาของผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน ทั้งนี้ สำหรับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 ตั้งแต่เวลาเปิดทำการของสำนักงานของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุนในประเทศ สำนักงานใหญ่และแต่ละสาขาของผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุนถึงเวลา 12.00 น. เท่านั้นนอกจากนี้ ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนได้ที่ www.jas-if.comทั้งนี้คาดว่าหน่วยลงทุนจะสามารถเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่16กุมภาพันธ์ 2558”
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวสรุป “กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF)เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโครงข่ายเส้นใยแก้วนำแสงที่ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย นอกจากนั้นแล้วยังจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตของไทยในอนาคตอีกด้วย ”
เพิ่มเติม
- การเปิดจองกองทุนรวมครั้งนี้ เพื่อระดมทุนพัฒนาบรอดแบนด์ อินเตอร์เน็ตเป็นหนัก
- จากเดิม3BB ครอบคลุมประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ หรือประมาณ 3700 กว่าตำบล จากลูกค้า 1.6 ล้านคน ปีนี้ตั้งเป้าครอมคลุม 100 เปอร์เซ็นต์ ทั่วประเทศ
- การเปิดจองครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (ประโยชน์) จัดเป้นงบลงุทนต่อไป- ใช้หนี้-ขยายงานในทิศทางอื่นๆ– รีเทิร์นให้ผู้ถือหุ้นจัสมินฯ
- ปี 58 คาดว่า รายได้จะดีกว่าปี ถึ แน่นอน เพราะลูกค้าเราเติบโตอย่างต่อเนื่อง
- งบลงทุนปีนี้อยู่ที่5000-6000 ล้านบาทและปีนี้จะโฟกัสเรื่องบรอดแบนด์เป็นหลัก ขยายเครือข่าย ไซเบอร์ออฟติค