- Details
- Category: บลจ.
- Published: Saturday, 02 July 2022 22:26
- Hits: 3732
บลจ. ยูโอบี เปิดตัวกองทุน UBOT ETF เพื่อโอกาสการลงทุนในธุรกิจ Robotics&AI
บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) นำเสนอ กองทุน Thematic ETF กองทุนที่สอง ของบลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) สามารถลงทุนได้ทั้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ และผ่านตัวแทนจำหน่าย คือ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โรโบติกส์ & อาร์ติฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อีทีเอฟ (UBOT) ที่มาพร้อมโอกาสการลงทุนในธุรกิจในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ (Robotics&AI) เริ่มเปิดเสนอขายครั้งแรก 4-8 กรกฎาคม 2565 และจะซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ได้วันที่ 21 กรกฎาคม 2565
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ในช่วงหลายปีที่มาภาพรวมของอุตสาหกรรม Robotics&AI ได้รับความสนใจจากธุรกิจเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่มีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ค่าแรงที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมาก่อให้เกิดการหยุดชะงักของการผลิต ทำให้การประยุกต์ใช้ Robotics&AI ได้เข้ามามีบทบาทในหลายธุรกิจสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาสนใจและยอมรับการใช้ระบบอัติโนมัติมากขึ้น”
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้มีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกในปี 2565 จากเดิมที่ได้ประมาณการเติบโต GDP ที่ 4.4% ในเดือนมกราคม 2565 และในเดือนเมษายน 2565 ได้ปรับลดเป็น 3.6% ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เริ่มนโยบายการเงินอย่างจริงจังเพื่อลดแรงกดดันจากสถานการณ์เงินเฟ้อสูง ทาง บลจ.ยูโอบี คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงสุดในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ และน่าจะค่อยๆ กลับสู่ระดับปกติที่ 2% - 3% ในสิ้นปี 2023 จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
ท่ามกลางความผันผวนของตลาด ตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสในการลงทุนเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องแนวโน้มเติบโตในระยะยาว (Secular Growth Trends) อย่างธีม Robotics&AI ที่เริ่มได้รับการยอมรับและใช้งานอย่างแพร่หลาย ด้วยสถานการณ์ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น การปรับขึ้นค่าแรง การระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการหยุดชะงักของภาคการผลิตทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานคน รวมไปถึงจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ธุรกิจต่างมองหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน ทำให้เกิดการนำวิทยาการด้าน Robotics&AI ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้มากขึ้น เพื่อเป็นการลดต้นทุนและง่ายต่อการใช้งาน ปัจจุบันมีธุรกิจที่ใช้ Robotics&AI เฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 126 ต่อพนักงาน 10,000 คน (ที่มา: International Federation of Robotics (IRF) Press room 2021) และสัดส่วนดังกล่าวยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตอีกด้วย แสดงให้เห็นโอกาสของการลงทุนใน Robotics&AI ที่จะเข้ามาแทนที่ในหลายๆ อุตสาหกรรมในอนาคต
ลักษณะการประยุกต์ใช้ Robotics & AI ในสายงานการผลิตนั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าในปี 2022-2024 จะเติบโตในอัตรา 7.8% ต่อปี ในระหว่างปี 2022 – 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาที่ยังมีอัตราการใช้ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอยู่หรือในทางการแพทย์ได้มีการประยุกต์ใช้หุ่นยนต์สำหรับการช่วยผ่าตัดมาโดยตลาดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงแรกมีอุปสรรคสำคัญคือเรื่องของต้นทุนที่สูง ทำให้การใช้งานจะกระจุกตัวอยู่กับโรงเรียนแพทย์หรือโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่เท่านั้น อย่างไรก็ดีในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาบริษัทผู้พัฒนาหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดได้มีการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจเป็นในลักษณะการเช่า เช่าซื้อ หรือคิดค่าใช้จ่ายตามใช้งานจริง ทำให้โรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์ที่มีต้นทุนจำกัดสามารถเข้าถึงการใช้หุ่นยนต์สำหรับการช่วยผ่าตัดได้มากขึ้น นอกจากนี้ บลจ.ยูโอบี ยังเห็นถึงโอกาสในการประยุกต์ใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจออนไลน์ (E-Commerce), กลุ่มธนาคารและการเงิน, กลุ่มเทคโนโลยีจดจำใบหน้า และการตลาด ซึ่งจะมีแนวโน้มประยุกต์ใช้การอย่างแพร่หลายในอนาคต
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า “บลจ.ยูโอบี ได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการผลักดันนำเสนอกองทุน Thematic ETF มาอย่างต่อเนื่อง กองทุนแรกที่ได้เสนอขายนักลงทุนไปตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา คือ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ฮีโร่ อีทีเอฟ (UHERO) และ บลจ.ยูโอบี มีความตั้งใจในการคัดสรรผลิตภัณฑ์การลงทุนประเภท Thematic ETF อย่างต่อเนื่อง ด้วยเชี่ยวชาญของทีมการลงทุนที่มีประสบการณ์ทั้งในประเทศและกลุ่มยูโอบีในภูมิภาคเอเชีย และความแข็งแกร่งของพันธมิตรการลงทุนที่เรามีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ด้วยมุ่งหวังให้กองทุน UBOT เป็นอีกหนึ่งทางเลือกลงทุนที่นักลงทุนจะสามารถนำไปใช้ปรับพอร์ตการลงทุนและทำให้นักลงทุนไทยได้มีโอกาสเข้าถึง ETF โดยไม่จำเป็นต้องนำเงินไปซื้อกองทุนในต่างประเทศโดยตรง และมีการจัดการความเสี่ยงเรื่องค่าเงินจากการลงทุนผ่านนโยบายของกองทุน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนจากกระแสการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวในกลุ่มธุรกิจ Robotics&AI ได้ (Secular Growth Trend)”
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โรโบติกส์ & อาร์ติฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อีทีเอฟ (UBOT) ระดับความเสี่ยง 6 เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ Global X Robotics & Artificial Intelligence ETF (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักเป็นกองทุนรวมประเภท ETF (Exchange Traded Fund) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมี Global X Management Company LLC เป็นผู้บริหารจัดการกองทุนหลัก ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักจะเน้นลงทุนในบริษัทที่อาจได้รับประโยชน์จากการปรับใช้และใช้ประโยชน์จากหุ่นยนต์และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ, หุ่นยนต์ที่ไม่ใช่อุตสาหกรรม และยานยนต์อัตโนมัติ กองทุนหลักสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (ธันวาคม 2016) ได้ 13.58% ต่อปี* (ข้อมูล ณ 31 มีนาคม 2022)
*อัตราผลตอบแทนของ Global X Robotics & Artificial Intelligence ETF (กองทุนหลัก)
ท่านสามารถติดต่อรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับหนังสือชี้ชวน รวมถึงลงทุน UBOT ได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่ช่องทางการซื้อกองทุนรวม และสำหรับนักลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายหุ้นอยู่แล้ว ท่านจะสามารถลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกด้วย นักลงทุนที่สนใจสามารถปรึกษาการลงทุนและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ตัวแทนจำหน่ายที่ บลจ.แต่งตั้ง หรือ บัญชีซื้อขายหุ้นจองผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ที่บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2786-2222 หรือเลือกทำรายการผ่านบริการออนไลน์ Premier Online หรือ UOBAM Invest (mobile application)
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะกองทุน นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุนนี้ลงทุนในต่างประเทศ จึงมีความเสี่ยงที่ทางการของต่างประเทศอาจออกมาตรการในภาวะที่เกิดวิกฤตการณ์ที่ไม่ปกติ ทำให้กองทุนไม่สามารถนำเงินกลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับคืนเงินตามระยะเวลาที่กำหนด กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศ ถึงแม้ว่ากองทุนอาจป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนรวมมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม Recreational Products, Internet Software/Services และ Packaged Software
A7099