- Details
- Category: บลจ.
- Published: Friday, 12 June 2020 21:35
- Hits: 5765
ทีเอ็มบีและธนชาต เจาะกลยุทธ์การลงทุนในยุค New Normal
จัดทัพกองทุนเด่น กลุ่มสุขภาพ-เทคโนโลยี-ตราสารหนี้ เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน
จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ตลาดการเงินและการลงทุนผันผวนอย่างหนัก แต่ทั้งนี้คาดว่าจะเป็นผลกระทบเพียงชั่วคราวเท่านั้น ธนาคารทีเอ็มบีและธนชาต ผู้นำแนวคิด Make REAL Change ชวนนักลงทุนเตรียมความพร้อมสร้างโอกาสในการลงทุนเชิงรุกเพื่อเพิ่มผลตอบแทนในงาน TMB | Thanachart Investment Talk LIVE “เจาะกลยุทธ์การลงทุนในยุค New Normal” โดยคุณศรายุทธ แก้วเกษ เจ้าหน้าที่บริหาร บริหารความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน ผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ทีเอ็มบี และวิทยากรรับเชิญ คุณบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์กองทุน TMBAM Eastspring มาร่วมสะท้อนมุมมองสถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุน พร้อมแนะนำกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น
โดยมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ทุกประเทศล้วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ส่วนใหญ่เติบโตแบบติดลบ ก่อนที่จะขยายตัวช้าๆ ในปีหน้า ทั้งนี้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เนื่องจากประเมินว่ามาตรการทั้งการเงินและการคลังทั่วโลกจะช่วยพยุงและผลักดันเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะปกติได้ในที่สุด ซึ่งไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลก (GDP) จะติดลบประมาณ -3% ขณะที่ประเทศจีนจะมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้เร็วโดดเด่นกว่าประเทศอื่น คาดการณ์ว่า GDP ของจีนในปีนี้จะอยู่ที่ 1.2% และในปีหน้าประเมินว่าจะเติบโต 9% ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจปีนี้คาดว่าเติบโตติดลบอยู่ที่เกือบ -6% และปีหน้าคาดว่าจะฟื้นตัวอยู่ที่ 4.7%
ขณะที่สถานการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นยังมีความผันผวน แต่มองว่าตลาดผ่านจุดต่ำสุดไปในไตรมาสที่ 2 ของปี สะท้อนจากดัชนีความผันผวนของตลาดหุ้น (Vix index) ซึ่งดัชนีเริ่มปรับตัวลงจากระดับในช่วงก่อนหน้า จึงถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะทยอยเข้าไปเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและราคาเหมาะสม ส่วนตลาดตราสารหนี้นั้น นักลงทุนเริ่มคลายความตื่นตระหนกชะลอการเทขายลงแต่ยังคงมีความผันผวน และแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำอีกนาน แต่ตราสารหนี้ประเภทพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่เป็นอินเวสเมนท์ เกรด ยังเป็นสินทรัพย์น่าลงทุน โดยต้องระมัดระวังเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทขนาดเล็ก
ทั้งนี้ ความปกติในรูปแบบใหม่ หรือ New Normal ยังอยู่กับเราไปอีกระยะ ส่งผลให้คนต้องปรับพฤติกรรมจากออฟไลน์เป็นออนไลน์ เทคโนโลยีจะมีบทบาทมากขึ้น คนดูแลใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น เทรนด์การลงทุนที่น่าสนใจจะเป็นหุ้นเทคโนโลยีและหุ้นเฮลธ์แคร์ ซึ่งมีความโดดเด่นมาตั้งแต่ต้นปี มีการฟื้นตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับดัชนีหุ้นโลก จะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาได้รับอิทธิพลจากหุ้นทั้งสองกลุ่มนี้ช่วยประคองดัชนีเอสแอนด์พี 500 ไม่ให้ลงลึกไปมากนัก และอัตรากำไรต่อหุ้นยังเติบโตเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่น อีกทั้งผลประกอบการออกมาเติบโตกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนอีกกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนคือ หุ้นจีน เพราะจีนเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยการลงทุนยังคงมีความผันผวน ธีมการลงทุนต่อจากนี้ควรให้น้ำหนักในตราสารหนี้มากกว่าหุ้น เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง ลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน แม้แนวโน้มดอกเบี้ยทั่วโลกจะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำอีกนาน
ทีเอ็มบีมีความพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการทางการเงินที่คุ้มค่าในที่เดียว ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าลงทุนเชิงรุกในทุกสถานการณ์ เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยทีเอ็มบีได้คัดสรร 3 กองทุนโดดเด่นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในยุค New Normal เหมาะกับนักลงทุนที่มีความสามารถในการรับความเสี่ยง และเน้นการถือลงทุนในระยะยาวเพื่อผลตอบแทนที่ดี ได้แก่
1. กองทุน Global Quality Growth (TMBGQG) ที่กระจายการลงทุนไปทั่วโลก มีการบริหารจัดการที่ดีในเรื่องการซื้อขายหุ้นให้เข้ากับภาวะตลาด เน้นซื้อหุ้นที่น่าสนใจประเภทประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเทรนด์มาแรงในเรื่องของการรักษาสุขภาพ โดยเลือกหุ้นจากผลลัพธ์ของคุณภาพ (Quality), การเติบโต (Growth), การประเมิน valuation และ ผลตอบแทนการลงทุน (capital return) ซึ่งมีการแบ่งเฉลี่ยในอัตราส่วน 25% เท่าๆ กัน แต่ปัจจุบันภาวะตลาดค่อนข้างผันผวนต้องระมัดระวังมากขึ้น จึงมีการปรับค่าเฉลี่ยเพื่อให้เข้ากับภาวะตลาดโลก ซึ่งหุ้นที่กองทุนเข้าไปลงทุน เช่น Microsoft Corp, Apple Inc, Amazon, Nestle SA etc. เป็นต้น
2. กองทุน China Opportunity Fund (TMBCOF) เน้นเลือกหุ้นที่เป็นบริษัทอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรมจากประเทศจีน เช่น ติวเตอร์ออนไลน์เบอร์ต้น Tal Education Group, Alibaba Group ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน, Tencent Holdings บริษัทผลิตเกมชื่อดังอย่าง League of Legends, PUBG, ROV, Clash of Clans และ Honor of Kings ซึ่งเป็นสองบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเอเชีย รวมถึงวีแชทเพย์ (WeChat Pay) แชทออนไลน์ที่กำลังมาแรงประชากรชาวจีนนิยมใช้กว่า 90% รวมถึง Ping An Insurance group กลุ่มธุรกิจประกันภัย ธนาคาร และด้านการเงินในประเทศจีนที่เป็นบริษัทที่เป็นเบอร์ 1 ของจีน เป็นเบอร์ 2 ของโลก
3. กองทุน TMB Global Bond สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกพากันอัดฉีดเม็ดเงินต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งมีโอกาสดอกเบี้ยจะปรับลดลงอีกระลอก จะส่งผลดีต่อการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ประเภทอินเวสเมนท์ เกรด จึงทำให้ตราสารหนี้เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่น่าลงทุน
ขณะนี้ตลาดหุ้นเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวบ้างแล้ว เชื่อว่านักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ถือเงินสดไว้ในมือ รอจังหวะกลับเข้ามาสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน ทีเอ็มบีจึงได้ออกมาตรการช่วยแบ่งเบาภาระให้นักลงทุน โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนลงทุนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า (front ended) หรือสับเปลี่ยน (switching in) ในกองทุนที่ร่วมรายการในระยะเวลาที่กำหนด จึงเป็นโอกาสในการปรับพอร์ต หรือถัวเฉลี่ยต้นทุน และใช้จังหวะนี้ในการปรับมุมมองสู่การลงทุนเชิงรุกแบบสบายกระเป๋า ด้วยความเข้าใจและความระมัดระวัง เพื่อหวังผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นต่อไป
#TMB #Thanachartbank #MakeREALChange
AO6239
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web