WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บลจ.กสิกรไทยเตรียมเสิร์ฟกองบอนด์ ตปท. ต่อเนื่อง ชูโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุด 3.00% ต่อปี พร้อมเปิดเสนอขาย 7-13 ตุลาคม นี้

      บลจ.กสิกรไทย พร้อมเสิร์ฟกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุโครงการ 3 เดือน - 1ปี เอาใจนักลงทุนต่อเนื่อง ชูโอกาสรับผลตอบแทน 2.25%-3.00% ต่อปี เสนอขายวันที่ 7-13 ตุลาคมนี้ พร้อมรับโอกาสเพิ่มเติมกับการพักเงินที่ขายคืนอัตโนมัติหลังครบกำหนดอายุกองทุน เข้ากลุ่มกองทุนรวมตลาดเงิน และตราสารหนี้ ของ บลจ.กสิกรไทย

    นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 7-13 ตุลาคม 2557 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี เอเอ (KEFF1YAA) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอโอ (KEFF6MAO) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.75% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีดับบลิว (KFI3MEW) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.25% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มเติมให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย  ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ของบลจ.กสิกรไทย กองทุนใดกองทุนหนึ่ง เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

      นายนาวิน กล่าวต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้กองทุน KEFF1YAA จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบ ด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล, ตราสารหนี้ Isbank, ประเทศตุรกี  และตราสารหนี้ Standard Bank of South Africa, ประเทศแอฟริกาใต้  ด้านกองทุน  KEFF6MAO  จะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง, เงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ Agricultural Bank of China, สาขาฮ่องกง, ตราสารหนี้ Garanti Bank, ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ Isbank ประเทศตุรกี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท

    อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว บลจ.กสิกรไทย ขอแนะนำกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีดับบลิว(KFI3MEW) ซึ่งจะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, ตราสารหนี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย, ตราสารหนี้ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย และตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

     สำหรับ ผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEFF1YAA กองทุน KEFF6MAO และกองทุน KFI3MEW สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.combegin_of_the_skype_highlightinend_of_the_skype_highlighting

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!