- Details
- Category: บลจ.
- Published: Thursday, 26 September 2019 23:43
- Hits: 4501
บลจ.ทิสโก้ปลื้ม นักลงทุนสนใจ ‘ทิสโก้ อินคัม พลัส’
สั่งเพิ่มทุนอีก 2,000 ล้านบาท รองรับความต้องการของลูกค้า
บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส จาก 5,000 ล้านบาท เป็น 7,000 ล้านบาท ตอบรับกระแสนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนจำนวนมาก หลังเศรษฐกิจเริ่มชะลอ อัตราดอกเบี้ยขาลง และหุ้นผันผวน หวังให้มืออาชีพช่วยจัดพอร์ต - กระจายสินทรัพย์ลงทุน เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทำให้นักวิเคราะห์ทยอยปรับลดอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นทั่วโลกยังคงผันผวน ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยก็ยังอยู่ในระดับต่ำ การลงทุนในตราสารหนี้เพียงอย่างเดียวจึงอาจได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดีนัก และในระยะยาวอาจได้ผลตอบแทนไม่เพียงพอกับเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดังนั้น นักลงทุนที่ไม่มีเวลาในการศึกษาการลงทุนจึงยังให้ความสนใจลงทุนในกองทุนรวมผสมอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพช่วยจัดพอร์ต และยังสามารถกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลายจากการลงทุนเพียงครั้งเดียว ซึ่งการกระจายสินทรัพย์การลงทุนที่ดีจะช่วยให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนผันผวนน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้เองทำให้กองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส (TINC) ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมจึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อตอบรับความต้องการ และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า บลจ.ทิสโก้จึงได้ขยายมูลค่าโครงการจากเดิม 5,000 ล้านบาทเป็น 7,000 ล้านบาท โดยนักลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุน กองทุน TINC ได้ในทุกวันทำการ มูลค่าลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท
“ในปี 2562 เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างชัดเจน ผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ทำให้ทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกเปลี่ยนทิศกลับมาเป็นเป็นขาลง นำร่องโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วถึง 2 ครั้ง สู่ระดับ 1.75-2.00% จากที่ระดับ 2.25-2.50% ยุโรปก็ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายมาสู่ระดับติดลบ 0.50% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเองก็ได้ปรับลดดอกเบี้ยเช่นเดียวกันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสู่ระดับ 1.50% ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนสูง สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ในขณะเดียวกันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำก็ให้ผลตอบแทนน้อยลงตามทิศทางดอกเบี้ย ทำให้ผู้ลงทุนหันมาสนใจกองทุนผสมที่ลงทุนหลากหลายสินทรัพย์มากขึ้น เพราะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ไม่สูงมาก และมีความเสี่ยงหรือมีความผันผวนไม่สูงเท่ากองทุนที่มีสัดส่วนลงทุนในหุ้น 100% แต่สามารถคาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว” นายสาห์รัชกล่าว
สำหรับสาเหตุที่นักลงทุนให้การตอบรับกองทุนเปิด TINC นั้น นอกจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในหลากสินทรัพย์การลงทุนแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เปิดเสนอขายให้นักลงทุน กองทุนเปิด TINC สามารถสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น จนได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว จาก Morning Stars (ข้อมูลเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 62) เป็นเครื่องยืนยันผลงาน อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิใช่สิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
กองทุนเปิด TINC ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) เป็นกองทุนที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น ตราสารหนี้ ตราสารทุน เงินฝาก รวมไปถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศ กองทุนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยนักลงทุนจัดพอร์ตรับความผันผวน เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี กองทุนเปิด TINC อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
AO09493
Click Donate Support Web