- Details
- Category: บลจ.
- Published: Wednesday, 24 September 2014 22:55
- Hits: 2444
บลจ.ยูโอบี มองดัชนีฯปีนี้ 1,630-1,650 จุด ปีหน้าแตะ 1,700 จุด - ชี้กำไร บจ.ยังโตตามการฟื้นตัวของ ศก.
บลจ.ยูโอบี มองดัชนีฯปีนี้ 1,630-1,650 จุด ปีหน้าแตะ 1,700 จุด - ชี้กำไร บจ.ยังโตตามการฟื้นตัวของ ศก. แนะเก็บหุ้นกลุ่มที่อิงนโยบายรัฐ ทั้งรับเหมาฯ- ท่องเที่ยว -โรงแรม รวมถึงกระจายน้ำหนักการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มองดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้แตะ 1,630-1,650 จุด ตามการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยหลังจากที่ คสช.เข้ามาทำให้เกิดนโยบายต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและภาคบริโภคที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ จากคาดการณ์การลงทุนของภาครัฐและมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย จึงส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คาดการณ์จีดีพีปีนี้จะเติบโต 1.5% และในปีหน้าคาดจีดีพีจะเติบโตได้ 5% จึงประเมินว่าในปีหน้าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะแตะ 1,700 จุด
โดยส่วนหนึ่งคาดว่า จะเติบโตจากผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยที่จะเติบโตเพิ่มขึ้น 12-15% ในปีหน้า จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 10-12%
"เศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น อ้างอิงจากธปท.ที่มีตัวเลขออกมาว่าจีดีพีจะโต 1.5% และปีหน้าจะโต 5.5% และมองว่าตัวเลขเงินเฟ้อของไทยอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล โดยอยู่ที่ 2-2.5% แต่ตัวเลขที่ยังไม่ฟื้นคือตัวเลขการส่งออก ทั้งนี้ สิ่งที่สนับสนุนการเติบโตคือดัชนีความเชื่อมั่นของภาคบริโภคและภาคธุรกิจที่จะเป็นขาขึ้น ซึ่งจะชี้นำภาวะเศรษฐกิจได้ดีว่าเราอยู่ในช่วงขาขึ้น ตัวผลักดันหลักๆ คือการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งจะส่งสะท้อนไปยังดัชนีตลาดหุ้นให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้" นายวนา กล่าว
ขณะที่คาดว่า ดอกเบี้ยนโยบายปีหน้าจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 0.50-0.75% จากปัจจุบันที่ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.00% ซึ่งจะปรับขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)
"อัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทยคาดว่าจะปรับขึ้นในครึ่งปีหลังราวๆไตรมาส 3 ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นจากแรงกดดันของเฟดที่จะลดอัตราดอกเบี้ยจึงทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยตาม"นายวนา กล่าว
นายวนา กล่าวว่า บลจ.ยูโอบี แนะนำการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ถึงปีหน้า โดยเน้นลงทุนนำหุ้นในกลุ่มที่อิงนโยบายภาครัฐ เช่นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มโรงแรม นอกจากนี้ ยังแนะให้กระจายน้ำหนักการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยจะลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดกลางและเล็กในประเทศญี่ปุ่นที่มีอัตรา P/E 16 เท่า ซึ่งต่ำกว่าดัชนีนิกเกอิของประเทศญี่ปุ่นที่มี P/E 17.5 เท่า
นอกจากนี้ บลจ.ยูโอบี แนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มธุรกิจบริการด้านสุขภาพ (Health Care) เนื่องจากธุรกิจนี้ยังคงขยายตัวต่อเนื่องและสอดคล้องกับแนวโน้มในอนาคตที่คนจะมีอายุยืนขึ้นและมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพสูงขึ้น จึงมองว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
พร้อมกับ คาดมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ของบริษัทฯ ในปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้น 20%แตะ 2.65 แสนล้านบาท จากปีที่แล้วมี AUM 2.17 แสนล้านบาท โดยปัจจุบันสามารถทำ AUM ได้แล้ว 2.64 แสนล้านบาท ซึ่งการเพิ่มขึ้นของ AUM จะมาจากทั้งการออกกองทุนใหม่ๆเพิ่มขึ้น และกองทุนเดิมขยายขนาด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย