Tweet

0

Details

Category: บลจ.

Published: Wednesday, 24 September 2014 16:18

Hits: 2890

ทิสโก้ เปิดตัวบทวิเคราะห์ตลาดหุ้น-อีทีเอฟเด่นทั่วโลก เดินหน้าตอบโจทย์'ผู้นำการลงทุนต่างประเทศ'

            ทิสโก้ มุ่งเดินหน้าตอบโจทย์'ผู้นำการลงทุนต่างประเทศ'เปิดตัวบทวิเคราะห์ 'TISCO Global Trade: Investment Outlook' โดยกูรูทิสโก้ เจาะลึกภาวะการลงทุนในตลาดหุ้น และแนะนำอีทีเอฟชั้นนำทั่วโลก ตัวช่วยการลงทุนลูกค้าเทรดหุ้นต่างประเทศ ครบครันทั้งมุมมองเชิงเทคนิคและแนวโน้มการลงทุนทั่วโลก พร้อมนำเสนออัตราพิเศษค่าธรรมเนียมเทรดหุ้นต่างประเทศเพียง 25% ถึงสิ้นปี

                นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด (บล.ทิสโก้) ( Mr. Tharatporn Techakitkachorn, Managing Director, TISCO Securities Company Limited) เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ของ

                ทิสโก้ ในการเป็นผู้นำการลงทุนต่างประเทศที่ครอบคลุมทั่วโลก (Global Wealth Advisory)  เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศ บล.ทิสโก้ได้เปิดตัวบริการ TISCO Global Trade บริการซื้อขายหุนต่างประเทศไปเมื่อเร็วๆ นี้ และล่าสุด บล.ทิสโก้ ได้จัดทำบทวิเคราะห์ “TISCO Global Trade: Investment Outlook” (ทิสโก้ โกลบอล เทรด: อินเวสเมนท์ เอาท์ลุค) บทวิเคราะห์สภาวะตลาดหุ้นและแนะนำกองทุนอีทีเอฟ (ETF) ชั้นนำทุกภูมิภาค ราย 2 สัปดาห์ เพื่อให้คำแนะนำในการลงทุน มุมมองการลงทุนทางเทคนิค พร้อมแนวโน้มการลงทุนในระยะ 3 เดือนในตลาดหุ้นชั้นนำทั่วโลก โดยกูรูผู้เชี่ยวชาญจากทิสโก้ ได้แก่ นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ ผสานกับข้อมูลเจาะลึกด้านเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกจาก “ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้” (TISCO Economic Strategy Unit) สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชี TISCO Global Tradeบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และกองทุน ETF ต่างประเทศของ บล.ทิสโก้  และสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ต้องการหาโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นชั้นนำของโลก

     โดยบทวิเคราะห์ TISCO Global Trade: Investment Outlook จะรวบรวมสภาวะตลาด มุมมองการลงทุนทางเทคนิค และการคาดการณ์แนวโน้มในระยะ 3 เดือนของตลาดหุ้นชั้นนำของโลก อาทิเช่น ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐอเมริกา, ดัชนี Euro STOXX50 ของกลุ่มประเทศยูโรโซน, ดัชนี DAX ของประเทศเยอรมัน, ดัชนี MSCI Asia Pacific ex. Japan ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น, ดัชนี NIKKEI 225 ของญี่ปุ่น, ดัชนี HSCEI (H-Shares) ของจีนในฮ่องกง, ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง, ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ และดัชนี TSE (Taiwan Stock Exchange) ของไต้หวัน ตลอดจนแนะนำกองทุน ETF รายตัวที่น่าลงทุนในระยะ 3 เดือน ซึ่งบทวิเคราะห์ดังกล่าวจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในการลงทุน ให้แก่นักลงทุนบุคคลที่ต้องการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ

    “ทิสโก้เชื่อว่ามีนักลงทุนไทยอีกมากที่แสวงหาโอกาสลงทุนนอกเหนือจากตลาดหุ้นไทย แต่ยังขาดข้อมูลและความรู้ด้านตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่ บทวิเคราะห์ TISCO Global Trade: Investment Outlook นี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีให้กับผู้ที่ต้องการในการลงทุนในตลาดหุ้นชั้นนำทุกภูมิภาค และจะเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีได้” นายธรัฐพรกล่าว

    นอกจากนี้ บล.ทิสโก้ ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่เปิดบัญชี TISCO Global Trade บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และ ETF ต่างประเทศ โดยนำเสนออัตราค่าธรรมเนียมพิเศษเพียง 0.25% หรือขั้นต่ำเพียง 50 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินออกต่างประเทศและการโอนเงินกลับไทย โดยมอบสิทธิพิเศษดังกล่าวจนถึง 31 ธ.ค. 57

   สำหรับ นักลงทุนและผู้ที่สนใจบทวิเคราะห์ TISCO Global Trade Investment Outlook และบริการ TISCO Global Trade ซื้อขายหุ้นและ ETF ต่างประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 633 6555 หรือ [email protected]

TISCO Global Trade: Investment Outlook

บทวิเคราะห์สภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ และแนะนำอีทีเอฟต่างประเทศ

ประจำวันที่ 16 – 30 ก.ย. 57

HEADLINES

    รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่ง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ย. 84.6 สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2013 นักลงทุนรอถ้อยแถลงของ FED ในการประชุม FOMC 17 ก.ย. นี้ ว่าจะส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย FED FUND Rate ครั้งแรกเมื่อใด ล่าสุดจาก Bloomberg Consensus ยังคงคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยราวกลางปี 2015                                                                                       

    อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องโลกยังสูงหลัง ECB ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.10% เป็น 0.05% ต่ำสุดของ ECB นอกจากนี้ ประธาน ECB ยืนยันพร้อมเข้าซื้อตราสารหนี้และพันธบัตรจากตลาดตราสารหนี้  โดยส่งสัญญาณวงเงิน 7.0 แสนล้านยูโร ด้วยการขยายงบดุลของ ECB เป็น 2.7 ล้านล้านยูโร เท่ากับช่วงต้นปี 2555 จากปัจจุบันที่ 2.0 ล้านล้านยูโร และนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของ ECB เพื่อเร่งเงินเฟ้อให้กลับมา โดยกดดอกเบี้ยต่ำพร้อมขยายปริมาณเงินในระบบ ส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดหุ้นในยุโรป รวมถึงเกิดการทำ EU – Carry Trade ทำให้เงินทุนมีการไหลเข้ามาในตลาด Emerging Market ได้ในไตรมาส 4 เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นเอเชีย  

LOOKING AHEAD

          คาดตลาดหุ้นเอเชียเหนือจะ Outperform จาก Valuation ที่ถูกกว่า และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว จะทำให้เงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ใช้โอกาสที่ตลาดหุ้นโลกลงปรับฐานปลายเดือนนี้ซื้อสะสม ETF ดังต่อไปนี้ Tracker Fund of Hong Kong, DB x-trackers MSCI Korea TRN Index, Nomura NIKKEI 225 และ iShares MSCI Germany

*Technical Target Price (Source: Bloomberg as of 12 September 2014