- Details
- Category: บลจ.
- Published: Tuesday, 16 September 2014 23:15
- Hits: 2502
ทิสโก้ ออกกองทริกเกอร์ลุยหุ้นไต้หวัน ชี้เศรษฐกิจขยายตัวแกร่ง-กำไรโตสุดในเอเชีย
ทิสโก้ ชวนลงทุนใน'หุ้นไต้หวัน'ผู้นำชิ้นส่วนไอทีรายใหญ่ของโลก มองกำไรหุ้นไต้หวันโตสุดในเอเชีย และเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่งรับอานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้น และสินค้าไอทีรุ่นใหม่เปิดตัว ชี้ตลาดหุ้นยังถูกและUpside สูงกว่า 24% ล่าสุดออกกองทริกเกอร์ฟันด์'ไต้หวัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #1'เป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ใน 8 เดือน ไอพีโอ 16 -23 ก.ย. นี้
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ และผู้นำด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่สามารถตอบโจทย์การลงทุนในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ล่าสุด บลจ.ทิสโก้ ได้เปิดตัวกองทุนใหม่ ได้แก่“กองทุนเปิด ทิสโก้ ไต้หวัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%#1” ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวันเป็นรายแรกในไทย ในรูปแบบกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน จากความโดดเด่นของเศรษฐกิจไต้หวัน ที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐอเมริกา และการขยายตัวของการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นส่วนประกอบของสินค้าไอที อาทิ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก
นอกจากนี้ ปัจจุบันหุ้นไต้หวันยังมีราคาถูก และยังมีอัพไซต์สูงถึง 24% โดยปัจจุบันซื้อขาย P/E อยู่ที่ประมาณ 13.5-14 เท่าในปี 2015 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่มากกว่า 15 เท่า ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะขยายตัวได้ดี ทำให้ตลาดหุ้นไต้หวันมีความน่าสนใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก
“ตั้งแต่ต้นปี ทิสโก้มองว่าภูมิภาคเอเชียเหนือมีความน่าสนใจมาอย่างต่อเนื่อง โดยไต้หวันก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งก็เป็นไปตามที่เราคาด ตอนนี้ตลาดหุ้นไต้หวันเป็นตลาดที่นักลงทุนจับตามองและมีเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยตรง จากการที่ไต้หวันเป็นผู้ผลิตและส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นส่วนประกอบของสินค้าไอทีแบรนด์ชั้นนำที่เป็นที่นิยมของทั่วโลก ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส, แอปเปิลวอชจากแอปเปิล, แอนดรอยด์แวร์จากกูเกิล และอุปกรณ์ไอทีอีกหลายแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก
นอกจากนี้ หุ้นไต้หวันก็ยังมีราคาถูก และอัพไซด์ยังสูงถึง 24% โดยได้รับการปรับประมาณการกำไรสูงสุดในเอเชียจากแนวโน้มยอดขายที่เพิ่มจากอุปกรณ์ไอทีทั่วโลกดังกล่าว ทำให้ช่วงนี้เป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าลงทุนในหุ้นไต้หวัน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี” นายสาห์รัช กล่าว
ทั้งนี้ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไต้หวัน อิควิตี้ ทริกเกอร์8% #1'(TISCO Taiwan Equity Trigger 8% Fund 1) จะเน้นลงทุนลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไต้หวัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI Total Return Net Taiwan ซึ่งมีหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนประกอบหลักในดัชนีดังกล่าว โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตและส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ ให้แก่แบรนด์ไอทีชั้นนำระดับโลก อาทิ แอปเปิล, เดลล์, เอเซอร์,กูเกิล, ไมโครซอฟต์, เอชพี (HP) และโซนี่ เป็นต้น โดยลงทุนผ่านกองทุนหลักคือ db x-trackers MSCI Taiwan Index UCITS ETF ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ในระยะเวลา 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากนั้น
โดยในวันนี้ (16 ก.ย.) ทิสโก้ได้จัดงานสัมมนา 'ลงทุนไต้หวันดีอย่างไร'ให้แก่ลูกค้า โดยมีนักวิเคราะห์จากดอยช์ แอสเซท แอนด์ เวลธ์ แมเนจเมนท์ (Deutsche Asset & Wealth Management) มาให้ภาพรวมเกี่ยวกับเศรษฐกิจและตลาดหุ้นในไต้หวัน โดยนักวิเคราะห์มองว่าเศรษฐกิจไต้หวันเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขับเคลื่อนโดยภาคการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ G2 ได้แก่ สหรัฐอเมริกาและยุโรปที่เศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจน รวมถึงจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้เศรษฐกิจไต้หวันเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขทางเศรษฐกิจ การลงทุน การส่งออก และการบริโภคในประเทศในปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้นตลอดทั้งปี
โดยปัจจุบัน หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน (Taiwan Stock Exchange: TWSE) เกือบ 60% ของมูลค่าตลาดเป็นหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแบรนด์ชั้นนำรายใหญ่ของโลก อาทิ แอปเปิล เลอโนโว หัวเหว่ย โดยการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะยังจะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดหุ้นไต้หวันต่อไปอีกอย่างน้อย 4 ไตรมาส เนื่องจากไต้หวันมีเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง มีคุณภาพ และมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้าได้ โดยในปีนี้ ตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะมีการผลิตรุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสมาร์ทโฟนประเภทlow-end ของจีน ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยการ์ทเนอร์(Gartner) ระบุว่า จากนี้จนถึงปี 2017 ตลาดสมาร์ทโฟนจะมีการเติบโตโดยเฉลี่ยสูงถึงปีละ 15%
นอกจากนี้ การเติบโตของระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ(Industry Automation) เพื่อลดการใช้แรงงานคน, อุปกรณ์ไอทีประเภทสวมใส่ (Wearable) เช่น Smartwatch, Smartglassและอุปกรณ์ประเภท IOT (Internet of Things) ที่เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต ทั้งหมดนี้จะทำให้ไต้หวันซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตเทคโนโลยีของโลกได้รับผลประโยชน์ และผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นไต้หวันมีความน่าสนใจลงทุนมาก
โดย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไต้หวัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #1'มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยจะเสนอขายครั้งแรก16 – 23 ก.ย. 2557 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อขอหนังสือชี้ชวนฯ และจองซื้อได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือธนาคารทิสโก้ ทุกสาขา หรือสอบถามได้ที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
เนื่องจากกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนรอบแรกได้
*ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการกำหนดเป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการเท่านั้นไม่ใช่การประมาณการหรือการรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในอัตราตามตัวเลขที่ระบุไว้ตามระยะเวลาที่กำหนดทั้งนี้หากภาวะตลาดหรือภาวการณ์ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากคาดการณ์ทำให้มูลค่ากองทุนรวมไม่ถึงตัวเลขเป้าหมายในเวลาที่กำหนดกองทุนรวมจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการโดยที่เป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการยังคงดำเนินอยู่ต่อไปทั้งนี้เป้าหมายการเลิกโครงการเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง(ถ้ามี)