WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ทิสโก้ เวลธ์ ชี้ 'ตลาดหุ้นไต้หวัน'มีดี แนะจับจังหวะลงทุนเพิ่มเปิดโอกาสรับผลตอบแทน

   ทิสโก้ เวลธ์ ชี้ตลาดหุ้นเอเชียเหนือยังโดดเด่น พร้อมแนะจับจังหวะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวัน ประเทศผู้นำด้านการผลิตสินค้าไอที หลังได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของประเทศพัฒนาหนุนการส่งออก ดันเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ชี้ตลาดหุ้นไต้หวันยังราคาถูก เหมาะลงทุนเพิ่มเปิดโอกาสรับผลตอบแทน

     นายคมศร ประกอบผล นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส ทิสโก้ เวลธ์ (Mr.Komsorn Prakobphol, Senior Strategist, TISCO Wealth)  เปิดเผยว่า ทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) มีมุมมองเป็นบวกและแนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเหนือซึ่งประกอบด้วย จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ อย่างต่อเนื่อง หลังสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งตลาดหุ้นเอเชียเริ่มปรับตัวขึ้นและ Outperform ตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้วในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดีค่า P/E ของตลาดหุ้นในเอเชีย ยังต่ำกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้วอยู่อีกมาก โดยในปัจจุบันดัชนี MSCI EM FarEast (ตลาดหุ้นเอเชีย) ซื้อขายที่ 12M forward P/E ที่ 11.2 เท่า เทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ 15.7เท่า และยุโรปที่ 14.3 เท่า หรือคิดเป็นส่วนลดที่ 30%และ 23% ตามลำดับ ซึ่งยังถือเป็นส่วนลดที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 15% และ 0%

     นอกจากนี้ TISCO Wealht ยังแนะนำกลยุทธ์การลงทุน ด้วยการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน “ตลาดหุ้นไต้หวัน”เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดหุ้นที่มีความน่าสนใจลงทุนมากยิ่งขึ้นในขณะนี้ โดยเศรษฐกิจของไต้หวัน ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ ที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และแนวโน้มการแข็งค่าของเงินดอลลาร์

    โดยตลาดหุ้นไต้หวัน มีสัดส่วนรายได้จากประเทศพัฒนาแล้วสูงถึง50% สูงสุดในกลุ่มประเทศเอเชียทั้งหมด และมีส่วนที่เป็นรายได้จากสหรัฐฯ ถึง25% ของรายรับทั้งหมด อีกทั้ง จากการเป็นผู้นำในการผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีต้นทุนต่อหน่วยต่ำ เนื่องจากใช้เครื่องจักรในการผลิต ดังนั้นหากยอดขายฟื้นตัวได้ดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ ในกลุ่ม Smartphone/Tablet/Wearables เช่น iPhone 6/6s, Apple Watch, Android Wear ก็จะช่วยให้กำไรขยายตัวอย่างก้าวกระโดด 

     นอกจากนี้ ปัจจุบันตลาดหุ้นไต้หวันซื้อขายที่ P/E ราว 13.9 เท่าในปีหน้า ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 15.2 เท่า ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะขยายตัวได้ดี จึงทำให้ตลาดหุ้นไต้หวันมีความน่าสนใจลงทุนเป็นอย่างมาก

 “เศรษฐกิจไต้หวันได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวและได้ผลกระทบที่จำกัดหากธนาคารกลางสหรัฐฯ มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย  นอกจากนี้จากการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ในกลุ่มไอที ยังเป็นส่วนช่วยให้ผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไต้หวันมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย และจากราคาหุ้นที่ปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำ เรามองว่าช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวัน เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้แก่การลงทุน”นายคมศร กล่าว 

           

ดัชนีตลาดหุ้น

อัตราผลตอบแทน

(ย้อนหลัง 6 เดือน)

ดัชนี  HSI  (ฮ่องกง)

12.6%

ดัชนี  H HSCEI (จีน)

17.8%

ดัชนี TWSE (ไต้หวัน)

7.3%

ดัชนี KOSPI (เกาหลีใต้)

5.3%

ตลาดหุ้นเอเชียเหนือ (เฉลี่ย)

10.8%

ดัชนี Nikkei 225 (ญี่ปุ่น)

7.3%

ดัชนี STOXX600 (ยุโรป)

5.0%

ดัชนี S&P500 (สหรัฐอเมริกา)

6.9%

    ที่มา :  ESU  ณ วันที่ 12 ก.ย. 57

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!