WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

นโยบายการเงินธนาคารกลางสำคัญกดดัชนีเชื่อมั่นทองก.ย.เผยช่วง 7 ปีนโยบายการเงินสหรัฐฯทำทองผันผวน

   กรุงเทพฯ-ศูนย์วิจัยทองคำเผยดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือน ก.ย. หดตัวลง 13.47 จุดจากเดือนส.ค. มาอยู่ที่ระดับ 42.61 จุด สวนทางตลาดทุน การใช้นโยบายการเงินควบคุมเศรษฐกิจ เหตุวิตกค่าเงินดอลลาร์แข็งหลัง ECB ผ่อนคลายนโยบายการเงิน และปัจจัยการสู้รบผ่อนคลายลง ชี้ยังมีค่าเงินบาทผันผวนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ด้านผู้ค้ารายใหญ่เชื่อทองทรงตัวเดือนกันยายน ราคาระหว่างเดือนน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 18,900-20,200 บาทต่อบาททองคำ เผยนโยบายการเงินสหรัฐฯ ในช่วง 7 ปี ทำตลาดทองผันผวนหนัก

    นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนกันยายน 2557 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำปรับตัวลดลงจากเดือนสิงหาคมมาอยู่ที่ระดับ 42.61 จุด หรือลดลง 13.47 จุด ต่ำกว่าระดับ 50 จุด สะท้อนทัศนคติในเชิงลบต่อราคาทองคำระหว่างเดือน โดยมุมมองดังกล่าวสอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ลงทุนทองคำและกลุ่มผู้ค้าทองคำ ซึ่งได้รับแรงกดดันมาจากการส่งสัญญาณด้านนโยบายการเงินและการตอบรับต่อความเสี่ยงในการสู้รบในตะวันออกกลาง-ยูเครนที่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ขณะที่เงินบาทยังคงผันผวนตามปัจจัยภายนอกหลังดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวแข็งค่าขึ้น

    ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะสามเดือนข้างหน้ายังสะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในประเทศ แต่ลดลงจากเดือนก่อน โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 56.65 จุด ลดลงจากเดือนก่อน 2.20 จุด ซึ่งสะท้อนว่ากลุ่มตัวอย่างยังเชื่อว่าราคาทองคำมีโอกาสจะปรับตัวขึ้นได้ในอนาคตแต่ระดับความมั่นใจลดลง

    สำหรับ บทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 11 ตัวอย่าง พบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่มีมุมมองราคาทองคำในช่วงเดือนกันยายนจะทรงตัว โดยมีผู้ค้า 3 รายมองทองคำปรับเพิ่มขึ้น อีก 3 รายมองราคาทองลดตัวลงระหว่างเดือน ขณะที่อีก 5 รายมองใกล้เคียงกับเดือนสิงหาคม

    ทั้งนี้ ผู้ค้ามองว่าราคาทองคำในตลาดโลกน่าจะมีกรอบราคาสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,300-1,330 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,240-1,250 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 19,600-20,200 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 18,900-19,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ

   นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยทองคำได้จัดรวบรวมการใช้นโยบายการเงินและผลกระทบพบว่าการใช้นโยบายการเงินของธนาคารสำคัญมีผลกระทบต่อราคาทองคำในมิติที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะการใช้นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีผลกระทบอย่างมากตั้งแต่การลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนปี 2550 โดยแบ่งเป็นช่วงการลดดอกเบี้ย 14 เดือนและการใช้นโยบาย QE ตลอด 5 ปี 9 เดือน โดยในช่วงเวลาดังกล่าวฐานเงินของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 7.3 ล้านล้าน เป็น 11.4 ล้านล้าน หรือเพิ่มขึ้น 55.25% ขณะที่นโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางยุโรปกลับให้ผลที่แตกออกไป โดยการใช้นโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554 และธนาคารกลางญี่ปุ่นในปี 2556 ไม่ได้ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ซึ่งน่าจะมาจากความสัมพันธ์ของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯกับราคาทองคำ

สื่อมวลชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

ภัทริกา สมคะเน 02 673 9911 ต่อ 250

สมพร เจนเขา 082-557-7343

ดัชนี เชื่อมั่นทองก.ย.ร่วง จากนโยบายการเงินตปท.-สถานการณ์ตอ.กลางคลี่คลาย-บาทผันผวน

     ศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นทองคำเดือน ก.ย.57 ปรับตัวลดลงจากเดือนสิงหาคมมาอยู่ที่ระดับ 42.61 จุด หรือลดลง 13.47 จุด สะท้อนทัศนคติในเชิงลบต่อราคาทองคำระหว่างเดือน โดยมุมมองดังกล่าวสอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ลงทุนทองคำและกลุ่มผู้ค้าทองคำ ซึ่งได้รับแรงกดดันมาจากการส่งสัญญาณด้านนโยบายการเงินและการตอบรับต่อความเสี่ยงในการสู้รบในตะวันออกกลาง-ยูเครนที่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ขณะที่เงินบาทยังคงผันผวนตามปัจจัยภายนอกหลังดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวแข็งค่าขึ้น

    ดัชนี ความเชื่อมั่นราคาทองคำปรับตัวลดลงจากเดือนสิงหาคม สวนทางตลาดทุน การใช้นโยบายการเงินควบคุมเศรษฐกิจ เนื่องจากความวิตกค่าเงินดอลลาร์แข็งหลังธนาคารกลางยุโรป(ECB) ผ่อนคลายนโยบายการเงิน และปัจจัยการสู้รบผ่อนคลายลง แต่ยังมีเรื่องค่าเงินบาทผันผวนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ด้านผู้ค้ารายใหญ่เชื่อทองทรงตัวเดือน ก.ย. โดยราคาระหว่างเดือนน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 18,900-20,200 บาทต่อบาททองคำ

    ขณะที่ปัจจัยที่มองว่าจะเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในช่วงเดือนก.ย.นี้ คือ การประชุม FOMC ในวันที่ 16-17 ก.ย.57 และการดำเนินมาตรการ QE ก็น่าจะยังคงมีการดำเนินต่อ แต่มองว่าผลกระทบดังกล่าวจะไม่มาก เมื่อเทียบกับช่วงแรกของการดำเนินนโยบาย แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้ดูภาพของการประเมินเศรษฐกิจของเฟด จากที่ผ่านมาการรายงานตัวเลขการจ้างงานออกมาดีเกินคาดการณ์ ทำให้ทิศทางของตลาดเปลี่ยนทิศทางไปอย่างชัดเจน

    "การประชุม FOMC จะมีขึ้นอีก 3 ครั้ง โดยมองว่าการยุติมาตรการ QE น่าจะมีโอกาสเห็นความชัดเจนได้ในช่วงเดือนก.ย. หรือเดือนต.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเห็นการปรับตัวลงของราคาทองคำอีกครั้งในช่วงปลายปี แต่เชื่อว่าสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะยังไม่ขึ้นในปีนี้ แต่จะเป็นปี 58 และจะส่งผลในเชิงลบอีกครั้งหนึ่งในช่วงกลางปีหน้า ขณะที่หากมีการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือนี้ ประเมินว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะขยับตัวลงมาใกล้ระดับ 1,100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์" นายกมลธัญ กล่าว

    ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะสามเดือนข้างหน้ายังสะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในประเทศ แต่ลดลงจากเดือนก่อน โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 56.65 จุด ลดลงจากเดือนก่อน 2.20 จุด ซึ่งสะท้อนว่ากลุ่มตัวอย่างยังเชื่อว่าราคาทองคำมีโอกาสจะปรับตัวขึ้นได้ในอนาคตแต่ระดับความมั่นใจลดลง

    สำหรับ ความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ(Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 11 ตัวอย่าง พบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่มีมุมมองราคาทองคำในช่วงเดือนกันยายนจะทรงตัว โดยมีผู้ค้า 3 รายมองทองคำปรับเพิ่มขึ้น อีก 3 รายมองราคาทองลดตัวลงระหว่างเดือน ขณะที่อีก 5 รายมองใกล้เคียงกับเดือนสิงหาคม

    ทั้งนี้ ผู้ค้ามองว่าราคาทองคำในตลาดโลกน่าจะมีกรอบราคาสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,300-1,330 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,240-1,250 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 19,600-20,200 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 18,900-19,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!