- Details
- Category: บลจ.
- Published: Friday, 09 February 2018 16:11
- Hits: 1793
บลจ.กรุงศรี โชว์ฝีมือบริหารกองทุน เปิดปีประเดิมจ่ายปันผลพร้อมกัน 5 กองทุน
บลจ.กรุงศรี โชว์ฝีมือบริหารกองทุน เปิดปีประเดิมจ่ายปันผลพร้อมกัน 5 กองทุน ยืนยันมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในระยะกลางถึงยาวจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการ แม้ในระยะสั้นอาจมีแนวโน้มผันผวนจากปัจจัยภายนอกประเทศอยู่บ้าง
น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า “ในปี 2560 ที่ผ่านมากองทุนภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่นทั้งในส่วนของกองทุนต่างประเทศ กองทุนหุ้น และกองทุนตราสารหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มกองทุนหุ้นทั่วไปและกองทุน LTF ของบลจ.กรุงศรี สามารถสร้างผลตอบแทนสูงเป็นอันดับ 1 และมีหลายกองทุนที่ติดอันดับกองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุด (Top Quartile) อาทิ กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ปันผล (KFSEQ-D) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 32.67% กองทุนเปิดกรุงศรี ทุนทวี 5 (KFTW5) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 32.28% และกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 21.87% ในขณะที่ดัชนีชี้วัดอยู่ที่ 17.31% ส่งผลให้เมื่อถึงรอบพิจารณาปันผลในช่วงต้นปีนี้ หลายๆกองทุนสามารถจ่ายปันผลได้ในอัตราที่น่าพอใจ” (ข้อมูล : บลจ.กรุงศรี ณ 29 ธันวาคม 2560 / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
“บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลพร้อมกัน 5 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนหุ้น 4 กองทุน และกองทุน LTF 1 กองทุน ในส่วนของกองทุนหุ้นที่เตรียมจ่ายปันผลประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ปันผล (KFSEQ-D) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่1 กรกฎาคม 2560 – 31 ธันวาคม 2560 ในอัตราประมาณหน่วยละ2.10 บาท กองทุนเปิดกรุงศรีทุนทวี 5(KFTW5)
สำหรับ รอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่30 กันยายน 2560 - 31 ธันวาคม 2560 ในอัตราประมาณหน่วยละ0.80 บาท กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV)สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่1 ตุลาคม 2560 - 29 ธันวาคม 2560 ในอัตราประมาณหน่วยละ0.40 บาท และกองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์-ปันผล (KFTSTAR-D)
สำหรับ รอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2560 - 29 ธันวาคม 2560 ในอัตราประมาณหน่วยละ 0.40 บาท โดยทั้ง 4 กองทุนมีกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 และจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหน่วยในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ในส่วนของกองทุน LTF ที่เตรียมจ่ายเงินปันผล ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวแอ็คทีฟ SET50ปันผล (KFLTFA50-D) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560– 31 มกราคม 2561ในอัตราประมาณหน่วยละ 1.00 บาท มีกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 และจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหน่วยในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 (ข้อมูล : บลจ.กรุงศรี ณ 8 กุมภาพันธ์ 2561 / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
“บริษัทเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะกลางถึงยาว แม้ว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในระยะสั้นมีแนวโน้มผันผวนจากปัจจัยภายนอกประเทศอยู่บ้าง เช่นการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทิศทางการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และกระแสเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยในระยะกลางถึงยาวยังได้รับปัจจัยสนับสนุนต่างๆ อาทิ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2561 อีกทั้งพื้นฐานหุ้นไทยยังคงแข็งแกร่งและมีความน่าสนใจ ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ไทยยังเป็นที่น่าสนใจลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาค”น.ส.ศิริพร กล่าว
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
LTF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในหุ้น
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
…………………………………………………………………………………………………………………………..
KFSEQ-D มีนโยบายลงทุนในประเทศในหุ้นจดทะเบียนของบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูงหรือมีปัจจัย พื้นฐานดี ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงสูงระดับ 6
KFTW5 มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงสูงระดับ 6
KFSDIV มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดี ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงสูงระดับ 6
KFTSTAR-D มีนโยบายลงทุนในหุ้นจดทะเบียนของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และ/หรือมีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจ หรือมีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลที่ดี ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงสูงระดับ 6
KFLTFA50-D มีนโยบายลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 65% ของNAV โดยเน้นการลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบในการคำนวณดัชนี SET50 ความเสี่ยงระดับ 6 :เสี่ยงสูง