WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1ATNL8

TNL ตั้งเป้าปี 67 วางงบ 2-3 พันลบ.ขยายธุรกิจสายการเงิน มั่นใจรายได้ปี 66 ตามเป้าหมาย 2.5 พันล้านบาท

          TNL มั่นใจรายได้ปี 66 ตามเป้าหมาย 2.5 พันล้านบาท หลังจากมุ่งหน้าขยายธุรกิจใหม่และธุรกิจเดิมทั้ง 4 ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มอัตราการทำกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทในระยะยาว

          นายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารสายงานกลยุทธ์องค์กร บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) TNL เปิดเผยว่า ในปี 67 บริษัทวางงบลงทุน 2,000-3,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่มีหลักประกัน และธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ (AMC)

          สำหรับ ผลประกอบการสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2566 TNL มีรายได้รวม 2,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 501 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 422 ล้านบาท หรือ 534% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 32% เมื่อเทียบกับ 7% ใน 9 เดือนแรกของปี 2565

          ● โดยหลักๆ รายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจใหม่ในด้านธุรกิจบริการทางเงิน (Oxygen และ OAM) และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (TNLA) ที่มีอัตรากำไร (Net Profit Margin) ที่สูง

          ● หลังจากที่ทาง TNL ได้ปรับโครงสร้างบริษัท โดยได้รับการสนับสนุนที่ดีจากผู้ถือหุ้นเดิมในการเพิ่มทุน ทำให้ TNL มีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ 30 ก.ย. 2566 อยู่ที่ 10,553 ล้านบาท และมีหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่เพียง 0.21 เท่า

 

 

          ธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน

          ● TNL ดำเนินธุรกิจผ่าน บริษัท ออกซิเจน แอสเซ็ท จำกัด (หรือ Oxygen) มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกัน โดยมีกลุ่มลูกค้าขนาดกลางขึ้นไป ไม่เน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending)

          ● ในปี 2565 Oxygen มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ทีประมาณ 3,500 ล้านบาท และณ 30 ก.ย. 2566

          ● ในไตรมาส 3/66 มีรายได้ 141 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% QoQ โดยปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อ 5,193 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 45% จากวันที่ 31 ธ.ค. 65 โดย Oxygen ยังคงบริหารคุณภาพพอร์ตสินเชื่อได้ดี โดยลูกหนี้ทั้งหมดมีสถานะปกติ ไม่มีลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)

 

          ธุรกิจบริหารสินทรัพย์

          ● TNL ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ผ่าน บริษัท บริหารสินทรัพย์ ออกซิเจน จำกัด (หรือ OAM) โดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ซึ่งถือเป็นสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท.

          ● OAM มุ่งเน้น NPL ที่มีหลักประกัน (ทั้ง Retail NPLs และ Corporate NPLs) และในช่วงไตรมาสที่ 2 ของ 2566 บริษัทสามารถประมูลหนี้ NPL ที่มีหลักประกันจากสถาบันการเงินมาได้ โดยมีมูลหนี้ที่บริหารกว่า 1,600 ล้านบาท

          ในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ปี 66 OAM มีรายได้รวม 46 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้เน้นการซื้อ Corporate NPLs เป็นส่วนหลัก อย่างไรก็ตาม พอร์ตฟอลิโอจะผสมผสานกับ Retail NPLs เพื่อจะบริหารกระแสเงินสดให้เหมาะสม โดยบริษัทตั้งเป้าพอร์ตหนี้ Corporate NPLs อยู่ในระดับ 30% และ Retail NOLs อยู่ที่ 70%

 

          ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย

          ● TNL ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ประเภทที่อยู่อาศัย ผ่าน บริษัท ทีเอ็นแอน อัลไลแอนซ์ จำกัด (TNLA)

          ● โดย TNLA ร่วมลงทุนกับบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NOBLE) ผ่านบริษัทร่วมทุน (JV) ในสัดส่วน 50:50

          ● ปัจจุบัน มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอยู่ 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยก่อสร้างเสร็จ และพร้อมโอนตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

          สำหรับ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ผ่าน บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด (TNLA) ในไตรมาส 3/66 มีรายได้ 277 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 199 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยหลักมาจากการรับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดของ 2 Joint Ventures ได้แก่ บริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด และบริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแนซ์ จำกัด ให้แก่ บมจ.พราว เรียล เอสเตท (PROUD)

 

          ประวัติบริษัท

          ● บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) (หรือ TNL) เป็นหนึ่งบริษัทในเครือสหพัฒน์ที่มีประวัติยาวนาน ก่อตั้งเมื่อ 23 มิ.ย. 2518 โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปและเครื่องหนัง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้าชั้นนำต่างๆ อาทิเช่น ARROW, Guy Laroche, DAKS, ELLE เป็นต้น ซึ่งตลอดระยะเวลา 48 ปีที่ผ่านมา TNL มีผลประกอบการที่ดีและสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอให้แก่ผู้ถือหุ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการมีธรรมาภิบาลที่ดีมาโดยตลอด

          ● ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา TNL ได้ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพื่อสร้างการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการปรับ 2 ด้าน คือ 1. โครงสร้างองค์กร และ 2. โครงสร้างธุรกิจ โดยด้านโครงสร้างองค์กร บริษัทได้ออกหุ้นเพิ่มทุนแบบ Private Placement ให้กับพันธมิตรทางกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (หรือ BTSG) จำนวน 2,884 ล้านบาท และการเพิ่มทุนแบบ Right Offering อีกจำนวน 3,052 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ถือหุ้นเดิมทุกท่าน ทำให้บริษัทมีฐานทุนรวมกว่าหมื่นล้านบาท 

          ● ในด้านการปรับโครงสร้างธุรกิจบริษัทได้เข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ เป็น New Engines มาเสริมทัพธุรกิจเดิมทำให้โครงสร้างธุรกิจของบริษัทเติบโตจากการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปและเครื่องหนังเพียงอย่างเดียว เป็นการประกอบธุรกิจใน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่

          (1) ธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญอยู่เดิม และเสริมทัพด้วยธุรกิจใหม่ที่ทางพันธมิตร BTSG ได้ contribute เข้ามาในบริษัท ได้แก่ ธุรกิจการเงิน ซึ่งประกอบไปด้วย

          (2) ธุรกิจให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่มีหลักประกัน (Asset Financing)

          และ (3) ธุรกิจการเงินประเภทธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) และนอกจากนี้ ยังมี (4) ธุรกิจการลงทุนในบริษัทร่วมทุนเพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งเชื่อว่าการเพิ่ม 3 Engines ใหม่ดังกล่าว สามารถสร้าง Synergy ภายในกลุ่มบริษัทได้ และเป็นการกระจายความเสี่ยง เราเชื่อว่าการที่บริษัทมีธุรกิจ Asset Financing

          ซึ่งมีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันหลัก และมีธุรกิจ AMC ที่เน้นสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีหลักประกัน รวมถึงการมี Engine ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ทำให้กลุ่มบริษัทมี Network และแชร์ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งและ Synergies ที่ช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับบริษัทในระยะยาว ซึ่งได้เริ่มสะท้อนให้เห็นจากผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566

          ● ปัจจุบัน TNL มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัก คือ บริษัท บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (หรือ SPI) และ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (หรือ BTSG) ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TNL ทั้งสองรายมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่ดีที่จะช่วยส่งเสริมให้ TNL เป็นองค์กรที่พร้อมเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งในธุรกิจใหม่นี้

          ● จากการที่ TNL ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากผู้ถือหุ้น ปัจจุบัน TNL มีฐานทุนกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 0.21 เท่า (ณ 30 กันยายน 2566)

          ● แม้ว่าการปรับโครงสร้างองค์กรและโครงสร้างธุรกิจจะเพิ่งเริ่มต้นขึ้น แต่ TNL มีผู้บริหารและทีมงานที่มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจใหม่ของบริษัท ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้ TNL เป็นผู้เล่นรายสำคัญในอุตสาหกรรมได้ในอนาคต

          ● นอกจากจะให้ความสำคัญกับการผลักดันธุรกิจให้เติบโตแล้ว ผู้บริหารและทีมงานยังคงตระหนักและให้ความสำคัญถึงการดำเนินงานของบริษัท โดยยึดหลักการประกอบธุรกิจที่ยั่งยืนตามหลัก ESG และมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม โดยล่าสุด TNL ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว ในการประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CGR) ของบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2566

 

          ทีมผู้บริหาร

          ● นางสาวสุธิดา จงเจนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

          ● นายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารสายงานกลยุทธ์องค์กร

          ● นายยศกร ศรีสุขสวัสดิ์ หัวหน้าคณะผู้บริหาร สายงานลงทุน

          ● นายนันทวัฒน์ สุรวัติเสถียร หัวหน้าคณะผู้บริหาร สายงานการเงิน

          ● นายสรัล ศรีวีระสกุล หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์

 

 

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

SME 720x100 66

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

QIC 720x100

TOA 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100px

gen 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!