- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Tuesday, 28 November 2023 19:35
- Hits: 2773
PTG ลั่นยอดขายน้ำมันปี 66 โต 10-15% ออลไทม์ไฮตามนัด โค้งสุดท้ายไฮซีซั่น-ค่าการตลาดน้ำมันฟื้น ปูพรมลุยธุรกิจ Non-Oil ไม่ยั้ง มั่นใจ LPG-พันธุ์ไทยนำทัพแกร่ง
บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ตอกย้ำยอดขายน้ำมันปี 2566 โตไม่ต่ำกว่า 10-15% ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เผยไตรมาส 4 เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น-ค่าการตลาดน้ำมันฟื้นตัว ฟากหัวเรือใหญ่ ‘พิทักษ์ รัชกิจประการ’ ประกาศเดินหน้ารุก Non-Oil ตามแผน ชูธุรกิจก๊าซ LPG และกาแฟพันธุ์ไทยเป็นพระเอกช่วยเสริมการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากยอดสมาชิกบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus เพิ่มขึ้น
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) เปิดเผย ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2566 ของบริษัทฯ ว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจยอดขายน้ำมันปี 2566 จะเติบโตตามเป้าหมายที่ระดับ 10-15% เทียบกับปีก่อน หรือสูงกว่าตลาดโดยรวมที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 1% รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลาย รวมถึงการประกาศใช้นโยบายฟรีวีซ่าของภาครัฐ
อีกทั้ง บริษัทฯ ได้มีการขยายจำนวนและปรับปรุงสถานีบริการเข้าในพื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีการเข้าใช้บริการซ้ำของกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งยังคงวางเป้าการขยายสถานีบริการไว้เท่าเดิมคือ จำนวน 2,206 สถานีบริการในปี 2566
ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil ปีนี้ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว โดยวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ Non-Oil ไว้ที่ 50-60% ถือว่ายังอยู่ในระดับสูง ขณะที่สัดส่วนกำไรขั้นต้นยังคงเดิมที่ระดับ 20-30%
ในส่วนของธุรกิจก๊าซ LPG ยังคงสร้างการเติบโตจากปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ที่สูงเป็นประวัติการณ์และมียอดขายเกิน 100 ล้านลิตรถึง 8 ไตรมาสติดต่อกัน และบริษัทฯ มองว่าจะยังสามารถสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งคาดว่าเป้าหมายการเติบโตของยอดขายทั้งปีจะอยู่ที่ระดับ 30-40% เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดย LPG ยังครองส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มบริการการจำหน่ายก๊าซ LPG ผ่านสถานีบริการเป็นอันดับที่ 1 ในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา
สำหรับธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากการขยายสาขา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และการกลับมาใช้ซ้ำอย่างต่อเนื่องของสมาชิกบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus โดยปัจจุบันมีมากกว่า 20 ล้านสมาชิก และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงธุรกิจพลังงานทางเลือก เช่น จุดชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า Elex by EGAT Max ที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อครอบคลุมเส้นทางในกรุงเทพฯ และเส้นทางหลักทั่วประเทศมากขึ้น
ด้านศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs ปัจจุบันมีจำนวน 59 สาขา เพิ่มขึ้น 14 สาขา จากต้นปี 2566 โดย Autobacs ยังคงมีรายได้ที่เติบโตอย่างเป็นสาระสำคัญจากการออกแคมเปญการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าตามฤดูกาล ส่วนแผนขยายสาขายังคงมีอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะมีจำนวนสาขาครอบคลุมเป็นอันดับ 2 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ภายในสิ้นปีนี้
“บริษัทฯ คาดว่ายอดขายไตรมาส 4/2566 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจน้ำมัน และเป็นฤดูกาลของการเดินทางท่องเที่ยวและเก็บเกี่ยวผลผลิตทำให้มีปริมาณความต้องการใช้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้มีปริมาณขายน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับค่าการตลาดน้ำมันที่มีการฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดว่าทั้งปีจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7-1.8 บาทต่อลิตร จึงมั่นใจว่ายอดขายน้ำมันปีนี้จะเติบโต 10-15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ดันมาร์เก็ตแชร์ทะลุ 20% จากไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 19.2%” นายพิทักษ์กล่าว
นายพิทักษ์ กล่าวอีกว่า ในอนาคตเตรียมลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกมากขึ้น เห็นได้จากการเติบโตของผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยยอดสะสมยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนเฉพาะกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมีจำนวนกว่า 57,000 คัน (เพิ่มขึ้นกว่า 500% เทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า) บริษัทฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญในกลุ่มที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก และได้ขยายจุดชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า Elex by EGAT Max ที่ได้ร่วมกับ กฟผ.อย่างต่อเนื่องโดยคาดว่าในปีนี้จะมี 62 จุดชาร์จเพื่อครอบคลุมเส้นทางหลักทั่วประเทศ
ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะเพื่อชุมชนอำเภอบ้านพรุ จังหวัดสงขลา ซึ่งขณะนี้ได้รับสัญญาซื้อขายไฟเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในช่วงเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้าง โดยคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ในปี 2568
111137