WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

LPHอังกูร3

LPH ผลงาน 9 เดือน บุ๊กกำไรกว่า 56 ลบ. รายได้รวมอยู่ที่ 1,606 ลบ. จ่ายปันผลระหว่างกาลครั้งที่ 2 หุ้นละ 0.03 บาท ขึ้น XD 28 พ.ย.นี้ เชื่อผลงานปีนี้โต 20-25% ลูกค้าต่างชาติ-ประกันสังคมหนุน

          LPH เผยจำนวนผู้ป่วยกลับเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้น ทั้งคนไข้ OPD และ IPD ขณะที่ เพิ่มกลุ่มผู้ป่วยประกันสังคมคาดแตะ 2 แสนรายในต้นปี 2567 ด้านผลงานปี 2566 มั่นใจรายได้โต 20-25% จากปีก่อน ขณะที่คนไข้ต่างชาติ ตะวันออกกลาง กัมพูชา สนใจเข้ารับการรักษาเพิ่ม คาดสัดส่วนรายได้ปีนี้แตะ 120-150 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 100 ล้านบาท ล่าสุดประกาศผลงานในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ บุ๊กกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 56.88 ลบ. รายได้รวมอยู่ที่ 1,606.64 ลบ. เหตุสิ้นสุดภาวะการระบาดของโรค COVID-19 ขณะที่รายได้จากการให้บริการของบริษัทย่อย AMARC รวมถึงรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพต่อเนื่องยังคงเติบโต ด้านบอร์ดตอบแทนผู้ถือหุ้น อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.03 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 28 พ.ย. 2566 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ธ.ค. 2566 นี้

          ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/66 เชื่อว่ามีการเติบโตที่ดี เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยปัจจุบันมีคนไข้ภายในประเทศกลับมาเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ทั้งคนไข้ภายนอก (OPD) และคนไข้ใน (IPD) โดยสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มผู้ป่วยจากประกันสังคม (สปส.) ราว 45% เเละกลุ่มผู้ป่วยเงินสดราว 55%

          ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติทยอยกลับมาใช้บริการมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้จากตะวันออกกลาง รวมถึงคนไข้ประเทศกัมพูชา ซึ่งสนใจเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น โดยประเมินรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติในปี 2566 ไว้ที่ 120-150 ล้านบาท จากปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 100 ล้านบาท เทียบกับฐานปกติ 80 ล้านบาทต่อปี

          “จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้สัดส่วนผู้ป่วยเงินสดเพิ่มสูงขึ้นด้วย ปัจจุบันโรงพยาบาลมีสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศรวมทั้งหมดไม่ถึง 5% โดยตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี (2566-2568) จำนวนผู้ป่วยจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นมาเป็นสัดส่วนที่ 10%” ดร.อังกูร กล่าว

          สำหรับการเติบโตในปี 2566 บริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมเติบโต 20-25% จากปีก่อน จากปัจจัยที่คาดว่าจำนวนผู้ป่วยจากต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลาง (อาหรับ) และประเทศกัมพูชา จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

          ปัจจุบันโรงพยาบาลมีฐานผู้ป่วยประกันสังคม ล่าสุดอยู่ที่กว่า 1.75 แสนราย ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 เเละบริษัทมีโควตาผู้ป่วยประกันสังคมรวมราว 2 แสนราย แนวโน้มการขยายธุรกิจย่านลาดพร้าวและใกล้เคียง รวมทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ คาดว่าจะเพิ่มผู้ประกันตนครบ 2 แสนรายในช่วงต้นปี 2567 นี้ โดยจำนวนผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้นก็จะช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคตอีกช่องทางหนึ่ง และในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเปิดศูนย์การแพทย์ประกันสังคมลาดพร้าวแห่งใหม่ ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลเดิมด้วย เพื่อรองรับฐานผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้น สามารถรับผู้ป่วยนอกวันละ 1,000-1,500 คน และเป็นศูนย์ตรวจสุขภาพประกันสังคม

          นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุน จากในช่วงที่ผ่านมา สปส. มีมติอนุมัติให้มีการปรับอัตราเหมาจ่ายรายปีขึ้นจาก 1,640 บาทต่อราย เป็น 1,808 บาทต่อราย ในการเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลตามสิทธิ์ และจะเริ่มรับรู้ผลจากเรื่องดังกล่าวเข้าเต็มไตรมาสตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2566 เป็นต้นไปด้วย

          ด้านความคืบหน้าของการลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ที่ถนนลาดพร้าว โรงพยาบาลจักษุอินเตอร์ ลาดพร้าว มูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท และโรงพยาบาลศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร มูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2568 และบริษัทมีการขยายลงทุน ศูนย์ตรวจสุขภาพนอกสถานที่ในต่างจังหวัด เช่น พระนครศรีอยุธยา และโคราช เป็นต้น

          สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 56.88 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 79.89% มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,606.64 ล้านบาท ลดลง 13.70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการสิ้นสุดภาวะการระบาดของโรค COVID-19 ในขณะที่รายได้จากการให้บริการของบริษัทย่อย AMARC รวมถึงรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพต่อเนื่องของทั้งบริษัทฯ และบริษัทย่อย ยังคงเติบโต 6.07% และ 28.86% ตามลำดับเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

          ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา ทางคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ครั้งที่ 2 ให้แก่ผู้ถือหุ้น สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 ก.ย. 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท ให้กับหุ้นสามัญของบริษัท ขึ้น XD วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 นี้

 

 

11683

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

kbank 720x100 66

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!