WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TAKUNIดร.กฤตพงศ์ อรชัยพันธ์ลาภ

TAKUNI โชว์แกร่งไตรมาส 3/66 กำไร 61 ล้านบาทโต 14.65% วางยุทธศาสตร์ปีหน้ารุกหนักผนึกพันธมิตรผลิต-ขายรถไฟฟ้า

ทาคูนิ กรุ๊ป โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ยังแกร่ง กวาดรายได้ 873 ล้านบาท กำไรสุทธิ 61.12 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14.65% รับอานิสงค์ธุรกิจทดสอบความปลอดภัยเติบโตดี ขณะเดียวกันรับรู้รายได้บริษัทย่อยทำธุรกิจจัดสรรทรัพยากรบุคคล ส่วนธุรกิจแก๊สปรับตัวตามนโยบายบริษัทที่วางยุทธศาสตร์ปีหน้าหันไปบุกพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการผนึกพันธมิตรผลิตและจำหน่ายรถไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ

ดร.กฤตพงศ์ อรชัยพันธ์ลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการบริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับไตรมาส 3  สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2566  บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้น 127.27 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 14.60%  ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 112.57 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต้นทุนการให้บริการด้วย

ส่งผลให้บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 61.12 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 14.65% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 53.31 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการบริการ จำนวน 873.13 ล้านบาท ลดลง  69.49 ล้านบาท คิดเป็น 7.37% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกับปีก่อนที่มีรายได้จากการบริการเป็น 946.2 ล้านบาท

“การเติบโตของรายได้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ  และบริษัทรับรู้ได้รายได้ของบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจจัดสรรทรัพยากรบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 60.2 ล้านบาท ซึ่งเราได้ลงทุนไปเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ขณะที่รายได้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนส่งทางบก และทดสอบความปลอดภัยก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นความต่อเนื่องของกลยุทธ์เชิงรุกทางการตลาด” ดร.กฤตพงศ์  กล่าว

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับแก๊ส ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายแก๊สหรือการจำหน่ายอุปกรณ์ติดตั้งระบบแก๊สปรับตัวลดลงไปตามการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทที่เปลี่ยนจากผู้ค้ามาตรา7 ไปเป็นมาตรา 10 โดยหันไปรุกธุรกิจพลังงานสะอาดมากขึ้น โดยเฉพาะการร่วมมือกับพันธมิตรในการผลิตและจัดจำหน่ายรถไฟฟ้า (EV) ทั้งรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งรถกระบะ รถยนต์พาณิชย์ รถบัส

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2566 มีรายได้จากการให้บริการ 2,843.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.90% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,790.62 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 139.93 ล้านบาท ลดลง 19.78% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 174.43  ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของรายได้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทรับรู้ได้รายได้ของบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจจัดสรรทรัพยากรบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 180.47 ล้านบาท อันเป็นธุรกิจที่บริษัทเข้าลงทุนในเดือนธันวาคม 2565 นอกจากนี้ รายได้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนส่งทางบก และทดสอบความปลอดภัยก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นความต่อเนื่องของกลยุทธ์เชิงรุกทางการตลาด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปี เท่ากับ 3.14% 55.73% และ 17.41% ตามลำดับ

สำหรับ แผนการดำเนินงานหรือยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจในอนาคต บริษัทจะมุ่งเน้นไปสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ของโลกที่กำลังมาแรง และเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลให้การสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจรถไฟฟ้า ซึ่งแผนงานในปีหน้าบริษัทจะมีการร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งในประเทศและพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อร่วมมือในการผลิตและจัดจำหน่ายรถไฟฟ้า โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจปัจจุบันซึ่งยังถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และเติบโตได้ดี ทั้งธุรกิจทดสอบความปลอดภัย และธุรกิจจัดสรรทรัพยากรบุคคล ก็ยังคงเดินหน้าขยายตัวต่อเนื่องควบคู่กันไป รวมถึงการมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจเพิ่มเติม 

 

11545

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

kbank 720x100 66

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!