WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

31032 MICRO Wisarn

MICRO ชูกลยุทธ์ H2 รักษาพอร์ตลูกหนี้ดี-คุมเข้มคุณภาพสินเชื่อสกัดหนี้เสีย Q4/66 MFIN ดีเดย์ปล่อยสินเชื่อจำนำเล่มทะเบียน เสริมแกร่งรายได้

          “บมจ.ไมโครลิสซิ่ง หรือ MICRO” เผยกลยุทธ์ครึ่งปีหลังเน้นดูแลรักษาพอร์ตลูกหนี้ที่ดีไว้ รวมถึงเน้นคุณภาพสินเชื่อเป็นหลัก คุม NPL ให้อยู่ระดับต่ำกว่า 4% รักษาพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 4,700-5,000 ลบ. ล่าสุดปรับเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่เหลือ 1,800-2,000 ลบ. ประกาศข่าวดี ไตรมาส 4/66 MFIN ดีเดย์ ปล่อยสินเชื่อจำนำเล่มทะเบียน (Title Loan) เสริมแกร่งรายได้ ล่าสุดประกาศผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้รวม 232.35 ลบ. เพิ่มขึ้น 11.41% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิรวมส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท จำนวน 11.81 ลบ.

          นายวิศาลท์ บูรณสันติกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO เปิดเผยว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทฯเน้นรักษาพอร์ตลูกหนี้ที่ดีไว้ และคัดกรองลูกหนี้ที่มีคุณภาพเพื่อป้องกันการเกิดหนี้เสีย และควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 4% รวมถึงพยายามรักษาพอร์ตสินเชื่อรวมให้อยู่ที่ 4,700-5,000 ล้านบาท 

          “ในครึ่งปีหลังนี้เป็นช่วงที่ทางบริษัทพยายามมุ่งเน้นในการดูแลและรักษาเงินทุนหมุนเวียนเป็นหลัก เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวลากยาวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยธุรกิจภาคการขนส่งและภาคก่อสร้างยังคงชะลอตัวต่อ เนื่องจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะสงคราม ราคาน้ำมัน และความไม่แน่นอนทางด้านการเมือง ขณะที่ภาคการเกษตรประสบกับภาวะเอลนีโญซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อจำนวนผลผลิต ทำให้ภาพรวมของการขนส่งโดยใช้รถบรรทุกมีโอกาสปรับตัวลดลง ดังนั้น บริษัทฯจึงมีการเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองคุณภาพหนี้ของลูกค้าที่เข้ามาขอสินเชื่อพร้อมปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อใหม่ปีนี้อยู่ที่ 1,800-2,000 ล้านบาท โดยปีนี้เราจะเน้นคุณภาพของสินเชื่อเป็นหลัก จึงไม่เน้นการปล่อยสินเชื่อแบบเติบโต แต่จะพยายามดูแลฐานลูกค้าเดิมที่มีศักยภาพและมีคุณภาพหนี้ที่ดีไว้ โดยดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง รวมถึงยังไม่มีการเปิดสาขาใหม่เพิ่ม โดยขอประเมินและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรอความชัดเจนด้านนโยบายของรัฐบาลใหม่ เพื่อกำหนดทิศทางในปีหน้าต่อไป” นายวิศาลท์ กล่าว

          ปัจจุบัน MICRO ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ในปี 66 จะเน้นการควบคุมพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพ โดยในกลุ่มธุรกิจประกอบด้วย บริษัท ไมโครพลัสลิสซิ่ง จำกัด (MPLUS) ที่เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เน้นดีลเลอร์ที่คัดคุณภาพลูกหนี้ที่ดีให้กับเรา ยังขยายพอร์ตแต่จะมีการปล่อยสินเชื่อลดลงเฉลี่ยเดือนละ 40 ล้านบาท 

          ขณะที่บริษัท ไมโครอินชัวร์ โบรกเกอร์ จำกัด (MIB) ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิต วางแผนต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้กับกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อทั้งรถบรรทุกมือสอง และรถจักรยานยนต์

          รวมถึงบริษัท ไมโคร ฟิน จำกัด (MFIN) ที่ตั้งเป้าให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อที่ไม่มีทะเบียนรถเป็นประกัน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการเงินหมุนเวียนในธุรกิจ ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้เริ่มปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมให้กับลูกค้าเก่าของบริษัท (Top-up) ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2566 และคาดว่าจะเริ่มปล่อยสินเชื่อจำนำเล่มทะเบียน (Title Loan) ได้ในช่วงไตรมาส 4/2566 โดยเน้นขยายจากฐานลูกค้าเดิมของ MICRO เป็นหลัก เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางให้กับบริษัท

          อย่างไรก็ตาม ไมโครลิสซิ่ง กรุ๊ป ไม่ได้ปิดกั้นการดำเนินธุรกิจ แต่ดำเนินธุรกิจแบบระมัดระวัง โดยยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงช่องทางการให้บริการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยมุ่งหวังที่จะส่งต่อผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณค่าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด 

          สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้รวม 232.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.79 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นร้อยละ 11.41 ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นรายได้ดอกเบี้ยรับจากสัญญาเช่าซื้อจำนวน 200.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.88 ล้านบาท หรือ 19.62% ซึ่งเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อบริษัท และรายได้จากค่าบริการและค่าธรรมเนียมจากประกันรถและประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่ออยู่ที่ 29.55 ล้านบาท ลดลง 22.72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 

          โดยมีผลขาดทุนสุทธิรวมส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท จำนวน 11.81 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 18.72 ล้านบาท ลดลง 30.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 163.07 ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจและราคาน้ำมันที่กระทบต่อรายได้ของลูกค้าค่อนข้างเยอะ ส่งผลต่อคุณภาพหนี้ การตัดหนี้สูญ และการยึดรถที่สูงมากขึ้นมากกว่าปกติ ภาพรวมทั้งหมดทำให้ต้นทุนด้านเครดิตคอสต์สูงขึ้น 

 

 

A8882

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

iconmotor

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!