- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Sunday, 30 April 2023 21:48
- Hits: 2081
SCG ซีเมนต์หนีค่าไฟรัฐแพง สู่ผลิตเองพลังงานทางเลือกกว่า 50% ทำรายได้-กำไรพุ่งเกินคาด
SCG มีรายได้ 50,800 ล้านบาท กำไร 13,463 ล้านบาท
ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง SCG มีรายได้จากการขาย 50,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากไตรมาสก่อน และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและกลยุทธ์การปรับราคาขายสินค้า ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและในภูมิภาคอื่นๆ
โดยมีกำไรสำหรับงวด 13,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,972 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน SCG Logistics และมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ (Core Profit) ในไตรมาสนี้เท่ากับ 1,507 ล้านบาท ลดลง 984 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากต้นทุนวัตถุดิบรวมทั้งพลังงานที่ปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า “ผลประกอบการของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างดีขึ้น จากการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจและลดต้นทุนโดยเพิ่มสัดส่วนเชื้อเพลิงทดแทน จากร้อยละ 34 ในปีก่อน เป็นร้อยละ 38 และเพิ่มสัดส่วนพลังงานแสงอาทิตย์ จาก 177 เมกะวัตต์ในปีก่อน เป็น 179 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 1 ปี 2566 ขณะที่นวัตกรรมกรีนมีความนิยมมากขึ้น ‘ปูนงานโครงสร้าง เอสซีจี สูตรไฮบริด’ ช่วยลดโลกร้อน มีสัดส่วนการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 50
โดยในไตรมาส 1 ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตได้กว่า 80,000 ตัน หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 8 ล้านต้น ทั้งยังแข็งแรง สวยงาม ใช้ก่อสร้างแล้วในหลายโครงการตามมาตรฐานอาคารเขียว อาทิ โครงการ ONE BANGKOK และคอนโดฯ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง ขณะที่ช่วงฤดูร้อนและค่าไฟปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้’SCG Solar Roof Solutions’ เติบโตขึ้นร้อยละ 313 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
และเร่งดัน ‘SCG Air Scrubber’ นวัตกรรมเพื่ออาคารขนาดใหญ่ ช่วยประหยัดพลังงาน ได้ร้อยละ 20-30 และช่วยลดก๊าซเสีย เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ล่าสุด ลงทุนเพิ่มกับบริษัท enVerid สตาร์ทอัพชั้นนำสัญชาติอเมริกัน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและคุณภาพอากาศภายในอาคารต่างๆ ทั่วโลก”
ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 นี้ดีขึ้นจากตัวเลขรายได้ ทั้งกําไรที่เพิ่มขึ้นมาจากสองส่วนด้วยกัน ส่วนแรกสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และสถานการณ์เรื่องการก่อสร้างที่เพิ่งดีขึ้น โดยเฉพาะกรุงเทพปริมณฑลและหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆการก่อสร้างคึกคักเริ่มมีนักท่องเที่ยวเริ่มปรับปรุง โรงแรมรีสอร์ท การค้าขาย พวกร้านค้าเริ่มสั่งสินค้าเพื่อจะค้าขาย ส่งผล SCG ทําให้ยอดขายขยับดีขึ้น ประการที่สองมาจากความสามารถในการลดต้นทุนพลังงานที่สูงมากจากไตรมาส 1 อุสาหกรรมต่างๆพยายามพลังงานทางเลือกใหม่ แทนที่จะเผาด้วยถ่านหิน ซึ่งราคาแพงขึ้นมาหลายเท่า
SCG เอาไบโอแมส พลังงานชีวมวลหลายๆอย่างมาทดแทนการเผาถ่านหิน ทําให้ตัดส่วนพลังงานที่พุ่งขึ้นไปถึง 38 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ได้สองเด้ง คือ 'หนึ่งต้นทุน สองรักษ์โลก' คือสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงที่สามารถปลูกทดแทนได้ ประการแรกทําเรื่องเชื้อเพลิงพลังงาน ประการที่ 2 ทําเรื่องพลังงานไฟฟ้าแต่ก่อนซื้อมา แต่เพราะมีโซล่าฟาร์ม โซล่ารูฟทอป เฉพาะที่โรงปูนแก่งคอย มีทั้งหมด 179 เมกะวัตต์ แล้วทยอยเพิ่มขึ้นทุกๆปี เป็นสิ่งที่ทําให้ลดค่าไฟลง จาก 5 บาทกว่าๆ ลดมาเหลือประมาณ 2 บาท เป็นสิ่งที่เริ่มทํากับตัวเองก่อน ส่วนในเรื่องรักษ์โลกยังทําเต็มที่
แต่สิ่งที่ SCG ทําต่อ คือ ทําให้กับลูกค้าด้วย จนมาถึงจุดที่น่าพอใจจุดหนึ่ง คือ เปลี่ยนไปได้ 50 เปอร์เซ็นต์ในการลดการปล่อยคาร์บอนแปดหมื่นตันต่อปี เท่ากับปลูกต้นไม้แปดล้านต้นต่อปี ในการลดคาร์บอน สิ่งที่ทําให้กับลูกค้า สามารถลดต้นทุนพลังงานของเจ้าของบ้านและรักษ์โลก
เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เรียกว่า SCG Air Scrubber เป็นระบบบําบัดอากาศเสีย บำบัดกลิ่น Wet scrubber พร้อมลดการทําความเย็น ลดไฟฟ้า ลดการใช้ฟอสซิล ลดการใช้ไฟฟ้าจากจากฟอสซิล ยังฟอกอากาศ ฟอกคาร์บอนไดออกไซด์ดีต่อสุขภาพ ทําได้ 2 เด้งเหมือนกัน ทั้งหมดนี้ เป็นนวัตกรรมใหม่ๆที่ออกมาให้กับลูกค้าได้ลดค่าใช้จ่าย และให้ลูกค้าได้รักษ์โลกด้วย
