- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Sunday, 30 April 2023 21:42
- Hits: 1598
กลุ่มบริษัทซีพีเอฟ ประสบความสำเร็จในการจัดทำเงินกู้ที่สนับสนุนความยั่งยืน
กลุ่มบริษัทซีพีเอฟ โดย บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CPFTH ประสบความสำเร็จในการจัดทำเงินกู้ที่สนับสนุนความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan) วงเงินประมาณ 15,000 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และสนับสนุนกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของ CPFTH
บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CPFTH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ผู้ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารประเภทสัตว์บกแบบครบวงจรในประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีโภชนาการที่ดี มีคุณภาพและความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับสากล บนพื้นฐานการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนคำนึงถึงความสมดุลในมิติทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
นายไพศาล จิระกิจเจริญ ประธานผู้บริหารฝ่ายการเงิน ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่การจัดทำเงินกู้ Sustainability Linked Loan ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ทางการเงินในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย และสะท้อนความมุ่งมั่นของกลุ่มบริษัทซีพีเอฟที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ธุรกรรมครั้งนี้ CPFTH ได้แต่งตั้ง Mizuho Bank, Ltd. เป็นผู้จัดการเงินกู้แต่เพียงผู้เดียว (Sole Mandated Arranger) รวมถึงเป็นผู้ประสานงานด้านดัชนีชี้วัดความยั่งยืน (Sustainability Coordinators) เงินกู้ที่สนับสนุนความยั่งยืนชุดนี้วงเงินประมาณ 15,000 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี การขอเงินสนับสนุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และสนับสนุนกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของ CPFTH ควบคู่กับสังคมและสิ่งแวดล้อม
เป้าหมายในเรื่องความยั่งยืนของเงินกู้นี้ ประกอบด้วย “การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ” และ “การเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนในการดำเนินงาน” ซึ่งทั้งสองเป้าหมายย่อยนี้จะช่วยขับเคลื่อน CPFTH และ CPF สู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050
A41044