- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Saturday, 29 April 2023 21:29
- Hits: 1413
ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินเกิน 600 ล้านบาท ‘บ.ปริญสิริ’ ที่ระดับ ‘BBB-‘ แนวโน้ม ‘Stable’
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ‘BBB-‘ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาทและไถ่ถอนภายในเวลา 3 ปี 6 เดือนของบริษัทที่ระดับ ‘BBB-‘ ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้เป็นทุนในการดำเนินงาน
อันดับเครดิตสะท้อนถึงขนาดของธุรกิจที่ค่อนข้างเล็กของบริษัท ตลอดจนภาระหนี้ที่ปรับตัวสูงขึ้นปานกลาง และสภาพคล่องที่ตึงตัว อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีปัจจัยสนับสนุนจากผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอและความสามารถในการทำกำไรที่น่าพอใจ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความกังวลของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้ซื้อบ้านในกลุ่มรายได้ต่ำถึงปานกลางซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทอีกด้วย
ทริสเรทติ้ง คาดว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงระหว่างปี 2566-2568 จะได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นและจากอุปสงค์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 5%-7% ต่อปี โดยอยู่ที่ระดับ 2.6-3.0 พันล้านบาท
และคาดว่า กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย (EBITDA) ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 600-700 ล้านบาท โดยมีอัตรา EBITDA ต่อรายได้ (EBITDA Margin) ที่ระดับ 23%-25% ทริสเรทติ้ง ยังคาดอีกด้วยว่า อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะถึงระดับที่ประมาณ 15%
โดยเฉลี่ยซึ่งสอดคล้องกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตรายอื่นๆ ทั้งนี้ กำไรสุทธิของบริษัทคาดว่า จะอยู่ที่ระดับ 230-260 ล้านบาทหรือคิดเป็น 8%-10% ของรายได้จากการดำเนินงานรวม
ณ เดือนมีนาคม 2566 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยเหลือขายจำนวน 37 โครงการโดยมีมูลค่าเหลือขายรวมทั้งสิ้น (รวมทั้งที่ก่อสร้างแล้วและยังไม่ได้ก่อสร้าง) ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยโครงการทาวน์เฮ้าส์ในสัดส่วน 51% โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในสัดส่วน 38% และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 12% บริษัทมียอดขายรอการรับรู้รายได้อยู่ที่จำนวน 326 ล้านบาทโดยทั้งหมดนี้คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2566
ทริสเรทติ้ง มองว่า ภาระหนี้ของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการขยายโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทคาดว่าน่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 50% ในช่วงระหว่างปี 2566-2568 ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปและ EBITDA Margin ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 23%-25%
ทริสเรทติ้ง จึงคาดว่า บริษัทน่าจะสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินสุทธิต่อ EBITDA ไว้ที่ประมาณ 7-8 เท่าและอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินที่ระดับ 5%-6% เอาไว้ได้ในช่วงปีประมาณการณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 บริษัทมีหนี้สินทางการเงินรวมจำนวน 5.2 พันล้านบาท
โดยที่จำนวน 2.2 พันล้านบาทเป็นหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนซึ่งรวมถึงหนี้สินที่มีหลักประกันของบริษัทแม่และหนี้สินรวมของบริษัทย่อยต่างๆ ส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินทางการเงินรวมอยู่ที่ 42%
ทริสเรทติ้ง ประเมินว่า บริษัทจะมีสภาพคล่องที่ตึงตัวแต่อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2565 ระบุว่าบริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 12 เดือนข้างหน้าจำนวนรวม 1.6 พันล้านบาท
ทริสเรทติ้ง คาดว่า เงินลงทุนสำหรับการซื้อที่ดินและการก่อสร้างโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาทในปี 2566 และอัตราการจ่ายเงินปันผลจะอยู่ที่ 30% ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 แหล่งสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทประกอบไปด้วยเงินสดในมือจำนวน 0.3 พันล้านบาท และวงเงินสินเชื่อจากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 0.2 พันล้านบาท
ทริสเรทติ้ง คาดว่า เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณ 0.3 พันล้านบาท ในขณะเดียวกันบริษัทยังมีที่ดินที่ไม่ติดภาระเป็นหลักประกันซึ่งคิดเป็นมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่จำนวนอีก 2.2 พันล้านบาทที่สามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันสำหรับขอวงเงินสินเชื่อใหม่ได้อีกด้วยในกรณีที่จำเป็น
ตามข้อกำหนดทางการเงินที่ระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนที่ระดับไม่เกิน 2.5 เท่าและอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ระดับไม่เกิน 2 เท่านั้น ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 1.0 เท่าและ 1.2 เท่าตามลำดับ ทริสเรทติ้ง เชื่อว่า บริษัทน่าจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขทางการเงินดังกล่าวได้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินเอาไว้ได้ตามเป้าหมายของทริสเรทติ้ง โดยคาดว่า EBITDA Margin ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 23%-25%
และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนจะอยู่ที่ระดับประมาณ 50% อีกทั้ง ทริสเรทติ้ง ยังคาดว่า บริษัทจะรักษาอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินที่ระดับสูงกว่า 5% ในช่วงปีประมาณการเอาไว้ได้ด้วยเช่นกัน
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้น หากบริษัทสามารถขยายฐานรายได้และผลกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ยังคงสถานะทางการเงินที่ระดับปัจจุบันเอาไว้ได้ ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิต และ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับลดลงหากผลการดำเนินงานและ/หรือสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565 - อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565 - เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
|
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565 |
บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) (PRIN)
อันดับเครดิตองค์กร: |
BBB- |
||
อันดับเครดิตตราสารหนี้: |
|||
PRIN25DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 |
BBB- |
||
PRIN267A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 450 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 |
BBB- |
||
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี 6 เดือน |
BBB- |
||
แนวโน้มอันดับเครดิต: |
Stable |
||
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ [email protected] โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
© บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2566 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้
ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html