WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRIS7 4ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร’บ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่’ ที่ ‘BB’และเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิต เป็น ‘Stable’ จาก ‘Negative’

ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BB” และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น ‘Stable’ หรือ’คงที่’ จาก ‘Negative’ หรือ ‘ลบ’ การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสะท้อนผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวขึ้นจากอัตราค่าโดยสารใหม่ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมโดยได้รับการอนุมัติจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี

และการฟื้นตัวของปริมาณการขนส่งที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้นในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงสถานะมั่นคงของธุรกิจเดินเรือเฟอร์รี่ของบริษัทในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและระดับหนี้สินของบริษัทที่สูงแต่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากสภาพคล่องของบริษัทที่ตึงตัว ธุรกิจของบริษัทมีขนาดเล็กและมีพื้นที่การเดินเรือที่กระจุกตัว

 

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ปริมาณการเดินทางคาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง

ปริมาณผู้โดยสารและการขนส่งยานพาหนะของบริษัทเริ่มฟื้นตัวขึ้นในปี 2565 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ลดความรุนแรงลงและภาครัฐทยอยผ่อนปรนมาตรการจำกัดการเดินทางในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เป็นผลให้ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยปรับเพิ่มขึ้นเป็น 11 ล้านคนในปี 2565 จาก 4 แสนคนในปี 2564 โดยปริมาณผู้โดยสารของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้น 68%

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 490,000 คน หรืออยู่ที่ประมาณ 55% ของช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในขณะที่ปริมาณการขนส่งยานพาหนะเพิ่มขึ้น 12% เป็น 340,000 คัน หรืออยู่ที่ประมาณ 67% ของช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 44% จากปีก่อนเป็น 390 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 หรือคิดเป็นประมาณ 71% ของช่วงปี 2562

ทริสเรทติ้ง คาดว่า ปริมาณการเดินทางผ่านทางเรือเฟอร์รี่ของบริษัทจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2566 และจะกลับไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในปี 2567 โดยคาดว่าการฟื้นตัวจะสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเกาะสมุยและเกาะพะงัน

โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยที่คาดว่า จะเพิ่มมากขึ้นและการเปิดประเทศของประเทศจีนในช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ภายใต้สมมติฐานกรณีฐาน ทริสเรทติ้งคาดว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้น 36% ในปี 2566 28% ในปี 2567 และ 5% ในปี 2568 และปริมาณการขนส่งยานพาหนะจะเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2566 25% ในปี 2567 และ 5% ในปี 2568 และยังคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ในช่วง 530-900 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2565-2568 อีกด้วย

 

คาดว่าความสามารถในการทำกำไรจะปรับตัวดีขึ้นจากอัตราค่าโดยสารที่สูงขึ้น

ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนแต่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นแม้ว่าปริมาณการขนส่งจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นก็ตาม โดยอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ (EBITDA Margin) เพิ่มขึ้นเป็น 7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 จาก 3% ในปี 2564 ซึ่งยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับระดับ 17%-20%

ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 บริษัทสามารถส่งผ่านต้นทุนเชื้อเพลิงไปยังลูกค้าผ่านการปรับราคาค่าโดยสารซึ่งการปรับราคาจะอ้างอิงตามราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ณ อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลในปี 2565 เพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับอัตราค่าโดยสารสูงสุดในตารางอัตราค่าโดยสารเดิมสำหรับเส้นทางดอนสัก-เกาะสมุย ทำให้บริษัทไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นไปยังลูกค้าได้อย่างเต็มที่

ทริสเรทติ้ง คาดว่า บริษัทจะมีความสามารถในการทำกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นจากอัตราค่าโดยสารใหม่ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 โดยในช่วงกลางปี 2565 จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้อนุมัติอัตราค่าโดยสารใหม่ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 15%-25% จากอัตราค่าโดยสารเดิมซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2551 และตารางอัตราค่าโดยสารใหม่มีกลไกในการปรับค่าโดยสารอ้างอิงตามราคาน้ำมันดีเซลเช่นเดิม

อีกทั้ง ตารางอัตราค่าโดยสารใหม่ยังครอบคลุมถึงราคาน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้นกว่าเดิมด้วย ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานกรณีฐานของทริสเรทติ้ง อัตรากำไรของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ 19%-20% ในปี 2566-2568 จากอัตราค่าโดยสารใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมและการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของปริมาณการขนส่ง และ EBITDA คาดว่าจะอยู่ที่ 150-180 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2566-2568

 

สถานะทางการตลาดที่มั่นคงในธุรกิจเดินเรือเฟอร์รี่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

บริษัทเป็นผู้ให้บริการเรือเฟอร์รี่ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีคู่แข่งจำนวนน้อยรายโดยในบริเวณท่าเรือดอนสักมีผู้ให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่เพียง 2 รายเท่านั้น ในขณะเดียวกัน อุปสรรคในการเข้าสู่ธุรกิจนี้ก็อยู่ในระดับสูงเนื่องจากผู้ให้บริการจำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตก่อน

อีกทั้ง ที่ดินเพื่อสร้างท่าเรือใหม่ก็มีราคาที่สูงมาก ปัจจุบันบริษัทมีเรือเฟอร์รี่ทั้งหมดรวม 14 ลำและบริษัทยังเป็นเจ้าของท่าเรือสากลถึง 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือดอนสักและท่าเรือเกาะสมุย การมีขนาดกองเรือที่ใหญ่และความสามารถในการควบคุมการขึ้นและลงเรือส่งผลให้บริษัทสามารถบริหารการเดินเรือได้อย่างยืดหยุ่นและมีจำนวนรอบการให้บริการที่มากกว่าคู่แข่ง

บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่จากท่าเรือดอนสักสู่เกาะพะลวยซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะสมุย เพื่อเน้นย้ำกลยุทธ์ Island Gateway โดยปัจจุบันการก่อสร้างท่าเรือบนเกาะพะลวยใกล้จะแล้วเสร็จและคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2566

 

ธุรกิจมีขนาดเล็กและมีการกระจุกตัวของพื้นที่   

ธุรกิจของบริษัทจัดว่ามีขนาดเล็กซึ่งสะท้อนจากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่จำกัดและความสามารถในการแบกรับภาระหนี้ที่ค่อนข้างต่ำ ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 700-750 ล้านบาทต่อปีและมี EBITDA ประมาณ 130-140 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและเกาะสมุยเป็นอย่างมาก ขนาดของตลาดที่เล็กและแหล่งรายได้ที่ไม่กระจายตัวส่งผลทำให้บริษัทมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านลบของสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ดำเนินธุรกิจของบริษัทและเป็นปัจจัยจำกัดโอกาสในการเติบโตในระยะยาวของบริษัทอีกด้วย อย่างไรก็ตามบริษัทพยายามเพิ่มแหล่งรายได้

โดยการเปิดเส้นใหม่ไปยังเกาะพะลวยและการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างแผ่นดินใหญ่และเกาะสมุย ซึ่งหากประสบความสำเร็จจะช่วยให้บริษัทมีฐานรายได้ที่ใหญ่ขึ้นและมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทมีความเสี่ยงในกรณีที่หากมีการขนส่งที่ใช้เวลาน้อยกว่าและต้นทุนต่ำกว่าไปยังเกาะสมุยมาทดแทนการขนส่งทางเรือเฟอร์รี่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างมากเนื่องจากบริษัทพึ่งพารายได้จากเส้นทางดอกสัก-เกาะสมุยคิดเป็นประมาณ 60% ของรายได้รวม

 

มีภาระหนี้สูงแต่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น

บริษัทมีภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้นจากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่อ่อนตัวลงในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 420 ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2565 จาก 110 ล้านบาทในปี 2562 และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ยังอยู่ในระดับสูงที่ 14 เท่า ณ เดือนกันยายน 2565

ทริสเรทติ้ง คาดว่า อัตราส่วนภาระหนี้สินของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปี 2566-2568 จากการที่ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น โดยสมมติฐานกรณีฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีงบลงทุนรวม 340 ล้านบาทในช่วงปี 2566-2568 ซึ่งจะถูกใช้เพื่อซ่อมบำรุงเรือ ก่อสร้างท่าเทียบเรือบนเกาะพะลวย

และจัดหาเรือมือสองสำหรับให้บริการเส้นทาง ดอนสัก-เกาะพะลวย หนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วคาดว่าจะอยู่ที่ 400-500 ล้านบาทในปี 2566-2568 และคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA จะปรับตัวลดลงไปอยู่ในช่วง 3-4 เท่าในช่วงปี 2566-2568

ณ เดือนกันยายน 2565 บริษัทมีหนี้สินรวม 384 ล้านบาท โดยภาระหนี้เกือบทั้งหมดเป็นหนี้ที่มีหลักประกัน ทำให้อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 96%  ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ 50% ส่งผลให้เจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันมีความด้อยสิทธิกว่าเจ้าหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนอย่างมีนัยสำคัญเมื่อพิจารณาจากสิทธิเรียกร้องในสินทรัพย์ของบริษัท

 

สภาพคล่องตึงตัว

ทริสเรทติ้ง ประเมินว่า บริษัทมีสภาพคล่องที่ตึงตัวในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดย ณ เดือนกันยายน 2565 บริษัทมีแหล่งที่มาของสภาพคล่องประกอบด้วยเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 44 ล้านบาท และคาดว่าจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานประมาณ 120 ล้านบาทในปี 2566 รวมถึงมีวงเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 59 ล้านบาท

ในขณะที่แหล่งใช้ไปของสภาพคล่องประกอบด้วยภาระหนี้ที่จะครบกำหนดรวมประมาณ 90 ล้านบาทและการลงทุนของบริษัทจำนวน 170 ล้านบาทในปี 2566 โดยทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจำเป็นจะต้องกู้ยืมเพิ่มเติมหรือเพิ่มทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องและสนับสนุนการลงทุนตามแผนของบริษัท โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทได้อนุมัติแผนเพิ่มทุนเพื่อสนับสนุนแผนการลงทุนไปเมื่อปี 2565

 

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

  • บริษัทจะมีรายได้ 530 ล้านบาทในปี 2565 ประมาณ 760 ล้านบาทในปี 2566 และ 860-900 ล้านบาทต่อปีในปี 2567-2568
  • EBITDA Margin จะอยู่ที่ประมาณ 8% ในปี 2565 เพิ่มเป็น 19%-20% ในปี 2566-2568
  • เงินลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 340 ล้านบาทในช่วงปี 2566-2568

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ สะท้อนการคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานและสถานะการเงินของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเกาะสมุยและเกาะพะงัน และคาดว่าบริษัทจะรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเดินเรือเฟอร์รี่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีไว้ได้

 

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง และ/หรืออัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA อยู่สูงกว่า 5 เท่าเป็นเวลานาน หรือในกรณีที่สภาพคล่องของบริษัทถดถอยลงกว่าที่คาดอย่างมีนัยสำคัญ

ในขณะที่อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทมีผลการดำเนินงานงานที่แข็งแกร่งและมีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่มากขึ้น ในขณะที่รักษาอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ที่ระดับต่ำกว่า 2 เท่าได้อย่างต่อเนื่อง

 

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565           

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

 

บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) (RP)

อันดับเครดิตองค์กร:

BB

แนวโน้มอันดับเครดิต:

Stable

 

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com 

ติดต่อ [email protected]  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

    © บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2566 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง

     ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

 

Click Donate Support Web  

kasat 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100ais 720x100 

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!