WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRIS7 1ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท‘บ.ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น’ที่ ‘BBB+’

      ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาทและไถ่ถอนภายใน 7 ปีของ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ที่ระดับ’BBB+’ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปชำระค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ ใช้ชำระหนี้เงินกู้เดิม ใช้ลงทุนและขยายกิจการ และ/หรือ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

    ทั้งนี้ อันดับเครดิตทั้งหมดของบริษัทยังคงอยู่ภายใต้การประกาศ’เครดิตพินิจ’ แนวโน้ม’Positive’ หรือ’บวก’ โดยปัจจุบันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่ระดับ ‘BBB+’

        อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทซึ่งเป็นบริษัทย่อยหลักของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) ดังนั้น อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทจึงเท่ากับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น (ได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ ‘BBB+’ แนวโน้มเครดิตพินิจ’Positive’) 

        ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัททรู คอร์ปอเรชั่นมีรายได้จากการดำเนินงานทั้งสิ้นจำนวน 1.02 แสนล้านบาทและมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 4.63 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ รายได้จากธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่มทรูซึ่งบริษัทเป็นผู้ดำเนินงานมีรายได้รวมอยู่ที่ 8.16 หมื่นล้านบาทซึ่งค่อนข้างคงที่จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และบริษัทมี EBITDA อยู่ที่ระดับ 2.96 หมื่นล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 4.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

        บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของการบริการแบบเติมเงินและแบบรายเดือน ในส่วนการบริการแบบรายเดือน ลูกค้าที่ใช้บริการสื่อสารไร้สายภายใต้เทคโนโลยี 5G เพิ่มขึ้นเป็น 4.5 ล้านราย และจำนวนลูกค้ารวมของบริษัทก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 33.55 ล้านราย ณ เดือนกันยายน 2565 เมื่อพิจารณาในด้านของรายได้จากการให้บริการนั้น บริษัทยังคงสถานะทางการแข่งขันในการเป็นผู้ให้บริการสื่อสารแบบไร้สายรายใหญ่อันดับสองของประเทศด้วยส่วนแบ่งตลาด 31.6% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565

        ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 อุตสาหกรรมการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนการบริการแบบเติมเงินยังคงได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปและเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (Average Revenue Per User – ARPU) ของทั้งอุตสาหกรรมลดลงแม้ว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม

        ส่งผลให้รายได้รวมของอุตสาหกรรมการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลงประมาณ 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะเดียวกัน รายได้จากการให้บริการของบริษัทก็ลดลงเล็กน้อยที่ระดับ 0.4% มาอยู่ที่ 5.96 หมื่นล้านบาท

ณ เดือนกันยายน 2565 บริษัทมีหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ประมาณ 2.71 แสนล้านบาท บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA (ซึ่งปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) อยู่ที่ระดับ 7.4 เท่า และมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินอยู่ที่ระดับ 8.6%

ในอนาคต ทริสเรทติ้ง คาดว่า หนี้สินทางการเงินของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับสูง โดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับราว ๆ 8 เท่าและอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะอยู่ที่ระดับประมาณ 8% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

 

แนวโน้มเครดิตพินิจ

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมาทริสเรทติ้งได้ออกประกาศ “เครดิตพินิจ” สำหรับอันดับเครดิตทั้งหมดของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น และของบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น โดยสืบเนื่องมาจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เมื่อการควบรวมกิจการเสร็จสิ้นลงแล้ว

ทริสเรทติ้ง คาดว่า บริษัทจะกลายมาเป็นบริษัทย่อยหลักของบริษัทใหม่ที่จะเกิดจากการควบรวมในครั้งนี้ (NEWCO) ดังนั้น อันดับเครดิตของบริษัทก็จะเท่ากับอันดับเครดิตที่จัดให้แก่ NEWCO

เครดิตพินิจแนวโน้ม ‘Positive’ หรือ ‘บวก’ สะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งที่เห็นว่าบริษัทใหม่ที่จะเกิดจากการควบรวมในครั้งนี้จะมีสถานะเครดิตที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสถานะเครดิตของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าการควบรวมจะทำให้เกิดการผสานพลังทางธุรกิจ

รวมทั้งเกิดการขยายขนาดของธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน เมื่อพิจารณาในเชิงของตัวเลขแล้ว การควบรวมกิจการจะทำให้ NEWCO ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในด้านของรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่

อีกทั้ง สถานะทางการเงินของ NEWCO ก็น่าจะแข็งแกร่งกว่าสถานะทางการเงินของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่นในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ โดยทริสเรทติ้งคาดว่าหลังจากการควบรวมแล้ว อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของ NEWCO จะอยู่ที่ระดับ 5-5.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราส่วนของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 7 เท่า

ทริสเรทติ้ง จะยกเลิกเครดิตพินิจเมื่อการควบรวมกิจการเสร็จสิ้นและได้มีการวิเคราะห์ผลกระทบจากการควบรวมกิจการที่จะมีต่ออันดับเครดิตของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น และของบริษัทอย่างถี่ถ้วนแล้ว โดยทริสเรทติ้ง จะติดตามความคืบหน้าของการควบรวมกิจการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและจะพิจารณาทบทวนอันดับเครดิตอย่างเหมาะสมต่อไป

 

หมายเหตุ ‘เครดิตพินิจ’

‘เครดิตพินิจ’ เป็นขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการทบทวนผลอันดับเครดิตของตราสารหนี้หรือองค์กรที่ทริสเรทติ้งได้ประกาศผลอันดับเครดิตไปแล้ว ในกรณีที่มีเหตุการณ์สำคัญซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของหน่วยงานแต่ข้อมูลผลกระทบยังไม่เพียงพอต่อการพิจารณาทบทวน ทริสเรทติ้งจะประกาศ ‘เครดิตพินิจ’ เพื่อแจ้งให้สาธารณชนทราบถึงผลดังกล่าว

โดยมีแนวโน้ม 3 รูปแบบ คือ’Positive’ (บวก) ‘Negative’ (ลบ) และ ‘Developing’ (ยังไม่ชัดเจน) ตามลักษณะของผลกระทบนั้นๆ ซึ่งจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงผลอันดับเครดิตแต่อย่างใด ทริสเรทติ้งจะยกเลิกเครดิตพินิจเมื่อข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์มีเพียงพอและได้พิจารณาอันดับเครดิตของบริษัทอย่างถี่ถ้วนแล้ว

 

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

 

บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC)

อันดับเครดิตองค์กร:

BBB+

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

 

TUC238A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 8,001.60 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566

BBB+

TUC23NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566

BBB+

TUC23DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,545.10 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566

BBB+

TUC241A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 11,190.40 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 

BBB+

TUC243A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,182.90 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 

BBB+

TUC245A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,789.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 

BBB+

TUC245B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,888.80 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 

BBB+

TUC245C: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,460.3 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 

BBB+

TUC246A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 

BBB+

TUC24NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 

BBB+

TUC255A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,306.10 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 

BBB+

TUC256A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 18,544.20 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 

BBB+

TUC25NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,838.20 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 

BBB+

TUC262A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,523.60 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 

BBB+

TUC265A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,653.30 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 

BBB+

TUC26DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 7,480.20 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 

BBB+

TUC275A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,376.40 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570

BBB+

TUC27NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,643.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570

BBB+

TUC295A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,575.80 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 

BBB+

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 7 ปี   

BBB+

แนวโน้มเครดิตพินิจ:

Positive

 

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com 

ติดต่อ [email protected]  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

        © บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2566 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

      ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

 

Click Donate Support Web  

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100ais 720x100 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!