- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Tuesday, 15 November 2022 11:35
- Hits: 1636
PTG Q3/65 รายได้ 45,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.7% EBITDA 15-20% งบลงทุน 3-4,000 ล้าน
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) PTG แจ้งตลาดหลักทรพัพย์ฯ ว่า ผลการดำเนินงานที่สำคัญของบริษัท
- - รายได้จากการขายและการบริการ ในไตรมาสที่ 3/2565 เท่ากับ 45,171 ล้านบาท (+47.7% YoY, -2.5% QoQ)
- - EBITDA ในไตรมาสที่ 3/2565 เท่ากับ 1,364 ล้านบาท (+18.1% YoY, -25.4% QoQ)
- - กำไรสุทธิ ในไตรมาสที่ 3/2565 เท่ากับ 181 ล้านบาท (+179.6% YoY, -70.2% QoQ)
รายได้จากการขายและการบริการ เท่ากับ 45,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ลดลง 2.5% จากไตรมาสก่อนหน้า 1) เป็นผลมาจากรายได้จากธุรกิจน้ำมัน เติบโตขึ้น 45.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง3.4% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 42,615 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจาก ราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการเฉลี่ยอยู่ที่ 33.32 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 26.0% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 3.3% จากไตรมาสก่อนหน้า
2) มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางเพิ่มขึ้น 15.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ลดลง 6.5% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็น 1,278 ล้านลิตร โดยการเติบโตจากปีก่อนหน้าเป็นผลมาจากภาพรวมการผ่อนคลายของมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าจากปัจจัยจากฤดูมรสุม โดยการเติบโตหลักยังคงมาจากปริมาณค้าปลีกหน้าสถานีบริการที่เติบโต 15.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 6.4% จากไตรมาสก่อนหน้าจากฤดูมรสุมดังกล่าว
ทั้งนี้ รายได้จากการขายและบริการจากธุรกิจน้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 94.3% ของรายได้จากการขายและการบริการทั้งหมดในส่วนของรายได้จากธุรกิจ Non-Oil ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดขายในไตรมาสนี้ เท่ากับ 2,556 ล้านบาท โดยเติบโต 95.5% จากปีก่อนหน้า และเติบโต 17.6% จากไตรมาสก่อน ปัจจุบันมีสาขาของธุรกิจ Non-Oil รวมทั้งสิ้น 1,405 สาขา เพิ่มขึ้น 327 สาขา หรือเติบโต 30.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 88 สาขา หรือคิดเป็นการเติบโต 6.7% จากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจ Non-Oil คิดเป็นสัดส่วน 5.7% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 4.3% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าและเพิ่มขึ้นจากในไตรมาสที่แล้วที่มีสัดส่วนอยู่ที่4.7%
สำหรับ งวด 9 เดือนแรก ปี 2565 รายได้จากการขายและการบริการ เท่ากับ 130,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็น 1) รายได้จากการขายและบริการในส่วนของธุรกิจน้ำมันที่เพิ่มขึ้น 34.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาขายน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 28.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจน้ำมันอยู่ที่ 95.0% ของรายได้จากการขายและบริการทั้งหมด
2) รายได้จากธุรกิจ Non-Oil ในส่วนของธุรกิจก๊าซ LPG ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ Max Mart ธุรกิจน้ำมันเครื่อง และธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs เป็นต้น เพิ่มขึ้น 70.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายสาขาในธุรกิจ Non-Oil และการเติมเต็มการบริการที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มีจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil ทั้งสิ้น 1,405 สาขา
ทั้งนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในไตรมาส 3/2565 ยังคงได้รับผลกระทบจากสงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ราคาสินค้าประเภทพลังงานและอาหารปรับตัวสูงขึ้น จนทำให้เกิดการดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของอัตราเงินเฟ้อ เช่นเดียวกันกับเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2565 ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ จากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคครัวเรือนระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี การบริโภคภาคเอกชนเติบโตได้ดี ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการฟื้นตัวจากการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2565 สามารถเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
เป้าหมายการดำเนินงานของปี 2565 (คงเดิม)
✓ จำนวนสาขา และ Touchpoint 3,582 สาขา
o สถานีบริการน้ำมัน 2,010 สาขา
o ธุรกิจ Non-Oil 1,572 สาขา
o สถานี LPG และ Mix 252 สาขา
o F&B, CVS และ Services 1,320 สาขา
✓ อัตราการเติบโตของปริมาณการจ าหน่ายน้ำมัน 6-10%
✓ อัตราการเติบโตของปริมาณการจ าหน่ายก๊าซ LPG 50-60%
✓ อัตราการเติบโตของยอดขาย Non-Oil 80-90%
✓ อัตราการเติบโตของ EBITDA 15-20%
✓ งบลงทุน 3,000-4,000 ล้านบาท
