- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Tuesday, 15 November 2022 10:47
- Hits: 900
NCH มีรายได้รวม 1,941.67 ล้านบาท กำไร 276.53 ล้าน ทั้งปีรุกเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ
NCH มีรายได้รวม 1,941.67 ล้านบาท กำไร 276.53 ล้าน ทั้งปีเปิดได้ 6 โครงการ (Backlog) 700-800 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด มั่นใจรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 2,500 ล้านบาท
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) NCH เผยว่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 สำหรับงวด 3 เดือน บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 76.97 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2564 ซึ่งมีผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 39.23 ล้านบาท บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผลการด าเนินงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 37.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 96.22
รายได้รวมบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 623.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2564 ซึ่งมีรายได้รวม 492.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131.52 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ26.72 รำยได้จำกกำรขำย บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย 609.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2564 ซึ่งมีรายได้จากการขาย 484.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.69 เนื่องจากความสามารถในการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น จากโครงการ เอ็น.ซี.ออนกรีน ฌาร์ม คลาสสิค, เอ็น.ซี.ออนกรีนปาล์มพาร์ค 2, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ลอฟท์พัทยา, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ นีโอล่า รังสิตคลอง 2 และบ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ธีโอ ปิ่นเกล้า เพชรเกษม รายได้ค่าเช่าและบริการ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้ค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้น 7.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 161.30 เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้นในส่วนของการบริการฟื้นฟูสุขภาพ ดูแลผู้สูงอายุ และธุรกิจบริการ 'NC REGEN'
สำหรับ งวด 9 เดือน บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 276.53 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือน ของปี 2564 ซึ่งมีผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 171.61 ล้านบาท บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 104.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 61.13 โดยรายได้รวม บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1,941.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากงวด 9 เดือน ของปี 2564 ซึ่งมีรายได้รวม 1,911.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.56 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 และ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เท่ากับ 3,067.41 ล้านบาท และ 2,886.20 ล้านบาท ตามลำดับ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.28 เนื่องจากบริษัทฯ มีกำไรระหว่างงวดเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจัยหนุนจากกำลังซื้อของประชาชนที่ฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น และภาครัฐบาลได้เปิดประเทศเพื่อที่จะรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ รวมไปถึงการส่งออกที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศฟื้นตัว
บริษัทยังมั่นใจว่า รายได้ในปี 2565 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 2,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 700-800 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด ขณะเดียวกัน บริษัทได้มีการควบคุมเข้มเรื่องการบริหารต้นทุนในองค์กร และการบริหารจัดการสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้บริษัทยังมีความสามารถในการทำกำไรในระดับที่ดี ขณะที่เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 5 โครงการ มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 1 โครงการ มูลค่า 1,761 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปี 2565 เปิดโครงการได้ 6 โครงการ มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้เดิม 5 โครงการ
สำหรับ ทำเลอื่นๆนอกจากโซนกรุงเทพฯตะวันตกแล้ว ยังมีกรุงเทพฯโซนเหนือ ซึ่งเป๊นทำเลหลักของบริษัทที่มีความชำนาญ และมีการเปิดโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งจะมีการขยายโครงการใหม่เพิ่มเพื่อรับความต้องการอยู่อาศัยในกรุงเทพฯโซนเหนือ พร้อมกับยังเตรียมที่ดินในโซนกรุงเทพฯตะวันออก เพื่อขยายกลุ่มลูกค้า ซึ่งในอดีตบริษัทเคยเปิดโครงการในโซนกรุงเทพฯตะวันออก ย่านศรีนครินทร์ และ เมืองเศรษฐกิจพัทยา มาแล้วกว่า 10 โครงการ
ขณะที่ในส่วนของธุรกิจด้าน Wellness ได้มีการเปิดศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ และดูแลผู้สูงอายุศิริอรุณเวลเนสเซ็นเตอร์ และศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ และดูแลผู้สูงอายุศิริอรุณแคร์ ท้งนี้ ยังจมีการเปิดศูนย์สุขภาพ NC Regen ขึ้นใหม่ อีก 2 แห่ง ประกอบด้วย Nc Regen Sport & Wellness, และ Nc Regen Sport & Golf ในทำเลศักยภาพสูงสุดโซนเหนือ บนทำเลถนน ลำลูกกา นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการเปิด NC Regen เพิ่มขึ้นในอนาคต