- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Wednesday, 03 August 2022 17:25
- Hits: 2213
บอร์ด ORI เคาะส่ง ‘พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น’ เข้าตลาดหุ้น ตามแผน Origin Multiverse ชูวิสัยทัศน์ พัฒนาในเทคโนโลยีที่สามารถเข้ามาช่วยด้านบริการ ตอบโจทย์ความสะดวกสบายของชีวิต
“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” เผยบอร์ดอนุมัติ “พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น” บริษัทในเครือซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แก่ลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จ่อเสนอขายหุ้น IPO หวังเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ ขยายโอกาสการในการลงทุนขยายกิจการ และเดินหน้าลงทุนและพัฒนาในเทคโนโลยีที่สามารถเข้ามาช่วยด้านบริการ ตอบโจทย์ทุกความสะดวกสบายของชีวิต เผยรายได้-กำไรปี 64 โตแกร่ง
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ได้มีมติอนุมัติแผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ที่ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และการนํา PRI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (แผนการ Spin-Off) โดยได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ PRI ต่อประชาชนทั่วไปดังกล่าว ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ใน PRI ลดลง จากเดิมร้อยละ 100 เป็นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ของทุนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ภายใต้สมมติฐานว่ามีการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน) โดย PRI จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเช่นเดิมต่อไป
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า การอนุมัติแผนการ Spin-off ของ PRI ในครั้งนี้ ถือเป็นการดำเนินงานตามแผนงาน Origin Multiverse ที่มุ่งให้บริษัทต่างๆ ในเครือ มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ สามารถแยกออกไปมีเส้นทางการเติบโตในจักรวาลของตัวเอง พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ดำเนินธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แก่ลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร ครอบคลุมการให้บริการในหลากหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธุรกิจบริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2564 มีรายได้ และกำไรสุทธิอยู่ที่ 489.56 ล้านบาท และ 111.25 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 266.51 ล้านบาท และ 40.05 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ บริการภายใต้บริษัทในเครือของ PRI นับเป็นบริการที่ครอบคลุมตลาดทั้งกลุ่ม B2B และกลุ่ม B2C ตอบโจทย์ทุกจังหวะของการใช้ชีวิต มีบริการลักษณะ One-stop service ที่เข้าถึงและเข้าใจความต้องการเชิงลึก (Insight) ของผู้บริโภค บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตผ่านการระดมทุน เพิ่มโอกาสของ PRI ในการลงทุนขยายกิจการ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้กิจการเติบโต หรือขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการขยายธุรกิจในเชิงรุก เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตที่เป็นไปตามปกติของธุรกิจ (Organic Growth) และการเติบโตแบบก้าวกระโดด (Inorganic Growth) รวมถึงเดินหน้าในการลงทุนและพัฒนาในเทคโนโลยีที่สามารถเข้ามาช่วยด้านบริการ ซึ่งจะเป็นอนาคตของการบริการและการใช้ชีวิตยุคใหม่
“แผนการ Spin-Off เพื่อนำ PRI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของพรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม สำหรับต่อยอดวิสัยทัศน์ Total Life Service Solution เอื้อต่อการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง ให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคยิ่งกว่าเดิม พร้อมทั้งผลักดันผลประกอบการของบริษัท ให้มีแนวโน้มที่ดีและสร้างความมั่นคงในระยะยาว” นายพีระพงศ์ กล่าว
ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 101 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2565) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN), ดิ ออริจิ้น (The Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 154,100 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร
A8130