- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Sunday, 03 July 2022 22:52
- Hits: 2245
ฟิทช์ เรทติ้งส์: การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเผชิญกับแรงต้านจากสภาวะเศรษฐกิจโลก
ฟิทช์ เรทติ้งส์-กรุงเทพฯ - 22 มิถุนายน 2565: ในงานสัมมนาของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ซึ่งจัดขึ้นผ่าน Webinar ในหัวข้อ '2022 Thailand Sovereign and Bank Outlook' นักวิเคราะห์ของฟิทช์มีความเห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่แข็งแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นและเศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้าลงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะสั้น
คุณ Jeremy Zook ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดอันดับเครดิตประเทศ ภูมิภาคเอชีย-แปซิฟิคของฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวไว้ในการบรรยายว่า จากการประมาณการคาดว่าเศรษฐกิจไทย (GDP) จะมีอัตราการเติบโตที่ 3.2% ในปี 2565 และ 4.5% ในปี 2566 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในประเทศ
ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่สูงและการชะลอตัวของอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการประมาณการของฟิทช์ อันดับเครดิตของประเทศไทยที่ BBB/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ สะท้อนถึงฐานะการเงินต่างประเทศของไทยที่ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งต่อเนื่องและมีกรอบนโยบายด้านเศรษฐกิจมหภาคที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการกับความผันผวนทางเศรษฐกิจและการภาวะเครดิตของโลกที่ตึงตัวมากขึ้น
คุณ Jeremy ยังได้กล่าวถึงเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศเวียดนาม (BB/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก) ที่คาดว่าจะมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่รวดเร็ว ซึ่งจะมีอัตราการเติบโตของ GDP ที่ 6.1% ในปี 2565 และ 6.3% ในปี 2566 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับตัวสูงขึ้นของการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศ
แต่อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์ก็ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ประเทศลาว (CCC) ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างมากจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผันผวนมาก ซึ่งส่งผลให้ขาดสภาพคล่องในด้านเงินทุนสำรองระหว่างประเทศและเป็นผลให้ค่าเงินของประเทศปรับตัวอ่อนลงอย่างมาก
คุณพาสันติ์ สิงหะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของภาคธนาคารไทยในปี 2565 น่าจะปรับตัวดีขึ้น แต่โอกาสที่ระดับการฟื้นจะดีกว่าคาดการณ์นั้นมีค่อนข้างจำกัดเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโรคระบาดโควิด-19
ฟิทช์ คาดว่า สินเชื่อด้อยคุณภาพน่าจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้จากการที่มาตรการผ่อนปรนจะทยอยหมดอายุลง อย่างไรก็ตามด้วยอัตราส่วนสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง น่าจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงจากการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มเติมในระดับที่สูง
คุณพาสันติ์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าธนาคารเวียดนามนั้นน่าจะได้ประโยชน์จากสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเอื้ออำนวยกว่า โดยสินเชื่อยังคงมีอัตราการเติบโตที่สูง ซึ่งในระยะสั้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนด้านคุณภาพสินทรัพย์และความสามารถในการทำกำไร แต่อย่างไรก็ตามการเติบโตของสินเชื่อในระดับสูงส่งผลให้ความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านเงินกองทุนยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้นธนาคารจึงมีความเปราะบางเมื่อเกิดวิกฤต
สามารถเข้าชมบันทึกการสัมมนาครั้งนี้ได้จาก www.fitchratings.com/region/thailand
ติดต่อ
วินเซนต์ มิลตัน
กรรมการผู้จัดการ
+662 108 0169
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ชั้น 17, เลขที่ 57 อาคารปาร์คเวนเชอร์ ถนนวิทยุ
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330