- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Tuesday, 14 June 2022 11:54
- Hits: 4564
SSP พัฒนาพลังงานลมเวียดนามเฟส 2 หลัง COD เฟสแรก ส่งซิก Q2 โตสนั่น บุ๊กกำไรขายโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น 230 ล้าน
SSP พัฒนาพลังงานลมเวียดนามเฟส 2 หลัง COD เฟสแรก 48 เมกกะวัตต์ เข้าระบบเป็นที่เรียบร้อย Q2 โตสนั่น ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง บุ๊กกำไรขายโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น 230 ล้าน วางเป้าหมายกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัวแตะ 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น SSP เผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการขายโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ฮิดากะ ขนาด 17 MW ในประเทศญี่ปุ่น จะรับรู้กำไรเข้ามาในไตรมาส 2/65 ทันที จำนวน 230 ล้านบาท รวมถึงการรับรู้โรงไฟฟ้าทั้งหมดได้เต็มไตรมาส ส่งผลให้ผลการดำเนินงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท
บริษัทเริ่มขายไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม กำลังการติดตั้ง 48 เมกกะวัตต์ เข้าระบบเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการลงทุนผ่านบริษัทร่วมทุน Troung Thanh Tra Vinh Wind Power Joint Stock Company (TTTV) บริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ Vietnam Electricity และสัญญาก่อสร้าง (EPC Contract) กับผู้รับเหมาก่อสร้าง
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม เวียดนามในเฟส 2 ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ เพื่อต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานลม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนทำการศึกษาและเตรียมพัฒนาโครงการต่อไป
"โครงการวินด์ฟาร์มในเวียดนามสามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าได้ตามแผนที่วางไว้ และบริษัทฯอยู่ระหว่างพิจารณาพัฒนาในเฟส 2 ต่อทันที เนื่องจากมีความต้องการที่จะต่อยอดธุรกิจพลังงานลมมากขึ้น จะช่วยสนับสนุนรายได้และกำไรในอนาคตให้เติบโตอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันจะสนับสนุนให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือให้ไปสู่เป้าหมายที่ระดับ 400 เมกะวัตต์ ในปี 2567 จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 215.2 เมกะวัตต์"นายวรุตม์ กล่าว
นอกจากนี้ SSP จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังผลิต 9.9 เมกกะวัตต์ หลังจากได้ทำรายการซื้อหุ้นของ บริษัท ยูนิ พาวเวอร์ เทค จำกัด (UPT) จากกลุ่มผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 49% ทำให้ในปี 2564 บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศทะลุ 200 เมกะวัตต์ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับ แผนธุรกิจในปี 2565 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก บริษัทวางเป้าหมายกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัวแตะ 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568
นอกจากเวียดนามแล้ว ยังมองโอกาสขยายการลงทุนในอินโดนีเซีย ที่มีธุรกิจโซลาร์รูฟอยู่แล้วราว 30 เมกะวัตต์ รวมถึงมองโกเลียที่ได้เข้าไปร่วมทุน 75% ในโรงไฟฟ้าขนาด 15 เมกะวัตต์ที่จ่ายไฟฟ้าไปแล้วตั้งแต่ปี 2562 ส่วนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์เตรียมจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไตรมาส 2/67
ขณะที่ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯในไตรมาส 1/65 ที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้และกำไรสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท โดยมีรายได้รวม 861.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 360.7 ล้านบาท หรือ 72% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 294.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111.7 ล้านบาท หรือ 61% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 688.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 275.1 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน
“การที่กำไรในไตรมาส 1/65 เติบโตอย่างโดดเด่น ได้รับปัจจัยหนุนจากรับรู้รายได้ของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 1 ในประเทศญี่ปุ่น, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ และวินด์ชัยฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ในสัดส่วน 25% ซึ่งล้วนเป็นโครงการที่บริษัทประสบความสำเร็จ”