WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRIS7 5ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 1.02 หมื่นล้านบาท ‘บ.ทุนธนชาต ที่ ‘A’ แนวโน้ม ‘Stable’

      ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ‘A’ พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’

      ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ภายใต้โครงการ Medium-term Note Program (MTN) ปี 2565 ในวงเงินไม่เกิน 1.02 หมื่นล้านบาท อายุไม่เกิน 10 ปีของบริษัทที่ระดับ ‘A’ ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนหนี้และขยายธุรกิจ

        อันดับเครดิตสะท้อนถึงความหลากหลายของแหล่งที่มาของผลกำไรของบริษัท ตลอดจนภาระหนี้สินทางการเงินที่อยู่ในระดับต่ำ และสถานะด้านความเสี่ยงที่อยู่ในระดับดี นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทย่อยที่สำคัญของบริษัทในธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

        ความแข็งแกร่งทางธุรกิจของบริษัทมีความมั่นคงจากการมีแหล่งที่มาของกำไรที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมถึงธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจด้านการเงินอื่นๆ อันประกอบด้วยธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกิจสินเชื่อที่มีสินทรัพย์เป็นหลักประกัน ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ธุรกิจประกัน และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เป็นต้น บริษัทมีบริษัทย่อยที่สำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท
        ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำหรับธุรกิจธนาคารพาณิชย์นั้น บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้น 23.3% ในธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ในประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทได้จัดตั้งบริษัทลูกที่บริษัทถือหุ้นทั้งหมดเพื่อดำเนินธุรกิจสินเชื่อที่มีสินทรัพย์เป็นหลักประกันจำนวน 1 แห่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 โดยใช้ชื่อว่า บริษัท ธนชาต พลัส จำกัด เพื่อให้บริการสินเชื่อแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises -- SMEs) ซึ่งมีที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน

        หนึ่งในจุดแข็งด้านเครดิตที่สำคัญของบริษัทคือระดับภาระหนี้สินทางการเงินของบริษัทที่อยู่ในระดับต่ำโดยวัดจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ระดับ 0.99 เท่าโดยเทียบกับระดับ 0.93 เท่า ณ สิ้นปี 2564

      ทริสเรทติ้ง คาดว่า บริษัทจะรักษาระดับภาระหนี้สินทางการเงินภายใต้งบการเงินรวมให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 1.50 เท่าต่อไปได้โดยอยู่ภายใต้สมมติฐานที่คาดการณ์ว่าหุ้นกู้คงค้างของบริษัททั้งหมดจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.5 หมื่นล้านบาทในช่วง 2 ปีข้างหน้าโดยนโยบายการจ่ายเงินปันผลจะยังคงเป็นอัตราแบบก้าวหน้า (Progressive Dividend Payout Policy) ต่อไป

        บริษัทมีผลการดำเนินงานที่มีเสถียรภาพโดยได้รับแรงหนุนจากโครงสร้างธุรกิจที่มีความหลากหลาย ธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัทไม่ว่าจะเป็นธุรกิจตลาดทุน ลีสซิ่ง และประกันวินาศภัยนั้นยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่ดี ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าธุรกิจเหล่านี้ยังคงรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งและการบริหารความเสี่ยงที่มีความรอบคอบ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ย (ROAA) ตามปกติของบริษัทในปี 2564 ฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 3.2% ในปี 2563 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างทั่วถึงของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่สำคัญของบริษัท

        ทริสเรทติ้ง คาดว่า อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยตามปกติของบริษัทจะอยู่ในช่วง 4.1%-4.6% ในระหว่างปี 2565-2567 ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานที่เศรษฐกิจโดยรวมจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อของธนาคารทหารไทยธนชาตและบริษัทราชธานีลิสซิ่งจะค่อย ๆ เร่งตัวขึ้นในขณะที่ต้นทุนทางด้านเครดิตจะอยู่ในแนวโน้มที่ลดลง ทริสเรทติ้งยังคาดการณ์ด้วยว่าบริษัทธนชาตประกันภัยจะมีผลการดำเนินงานทางการเงินที่ดีถึงแม้ว่าจะได้รับแรงกดดันในเรื่องต้นทุนจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศบางส่วนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าก็ตาม

        ในมุมมองของทริสเรทติ้ง เห็นว่า วัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงที่ระมัดระวังยังคงเป็นปัจจัยที่สนับสนุนสถานะความเสี่ยงที่อยู่ในระดับเพียงพอของบริษัท ที่ผ่านมาทั้งธนาคารทหารไทยธนชาตและบริษัทราชธานีลิสซิ่งต่างก็สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงด้านเครดิตที่เกิดจากผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ที่ยืดเยื้อมาได้

        ในการนี้ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทย่อยทั้งสองแห่งดังกล่าวได้ผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดของการชะลอตัวของเศรษฐกิจในปี 2563-2564 มาแล้วและมีแนวโน้มที่จะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นในปี 2565 จากการที่ภาวะเศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาโดยลำดับ

        สำหรับ บล. ธนชาตนั้น ความสามารถในการจัดการความเสี่ยงจากเงินให้กู้เพื่อซื้อหลักทรัพย์ก็สามารถพิสูจน์ได้จากการไม่มีการสูญเสียด้านเครดิตจากธุรกิจให้กู้เพื่อซื้อหลักทรัพย์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเลย ส่วนบริษัทธนชาตประกันภัยนั้นก็ยังคงใช้กลยุทธ์การเติบโตที่ระมัดระวังโดยหลีกเลี่ยงให้บริการลูกค้าในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนของบริษัทธนชาตประกันภัยอยู่ที่ระดับ 1,292% ซึ่งสูงกว่าระดับขั้นต่ำตามกฎข้อบังคับที่ 140% ซึ่งเริ่มบังคับใช้ในปี 2565

        ทริสเรทติ้ง คาดว่า บริษัทจะรักษาสถานะเงินทุนให้อยู่ในระดับที่เพียงพอได้ต่อไปในช่วง 12 เดือนข้างหน้าโดยทริสเรทติ้งพิจารณาจากค่าเฉลี่ย 5 ปีของอัตราส่วนเงินทุนที่มีเสถียรภาพ (Stable Funding Ratio -- SFR) ของบริษัทซึ่งอยู่ที่ระดับ 125%

        ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 ความต้องการเงินทุนที่มีเสถียรภาพ (Stable Funding Needs -SFN) ของบริษัทประกอบด้วยเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในสัดส่วน 61% เงินกู้ยืมในส่วนที่ไม่หมุนเวียน 34% และทรัพย์สินรอการขาย 5% ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 74% ของแหล่งเงินทุนที่มีเสถียรภาพ (Available Stable Funding) ของบริษัท และส่วนที่เหลือประกอบด้วยหุ้นกู้ระยะยาวที่มีอายุครบกำหนดหลากหลาย สำหรับในส่วนของบริษัททุน
        ธนชาตเองนั้น แหล่งเงินทุนที่เป็นเงินกู้ระยะสั้นประกอบด้วยเงินกู้ยืมระหว่างธนาคาร และในส่วนของแหล่งเงินกู้ระยะยาวนั้น บริษัทมีหุ้นกู้คงค้างอยู่ที่จำนวน 1.37 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565

        สัดส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับการชำระคืนก่อน (Priority Debt) เมื่อเทียบกับหนี้สินรวมตามงบการเงินรวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 75% ณ เดือนมีนาคม 2565 โดยสัดส่วนหนี้ดังกล่าวเมื่อเทียบกับหนี้สินรวมตามงบการเงินรวมที่อยู่ในระดับสูงเกินกว่า 50% นั้น

        โดยปกติจะทำให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันลดทอนลงจากอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท 1 ขั้นตาม ‘เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้’ ของทริสเรทติ้ง อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่าเงินจำนวนมากที่บริษัทลงทุนในธนาคารทหารไทยธนชาตทำให้โอกาสในการได้รับชำระหนี้คืนของเจ้าหนี้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทจึงได้รับการยกเว้นการปรับลดอันดับเครดิต

        ทริสเรทติ้ง ประเมินว่า สถานะสภาพคล่องของบริษัทจะอยู่ในระดับที่เพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี (ปี 2563-2567) ของอัตราส่วนความครอบคลุมของสภาพคล่อง (Liquidity Coverage Measure -- LCM) ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ยประมาณ 135% โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 แหล่งที่มาของสภาพคล่องจำนวนมากของบริษัทประกอบด้วยหลักทรัพย์รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจระยะสั้น ตราสารหนี้ภาคเอกชน และเงินกู้ยืมระหว่างธนาคารซึ่งรวมกันจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5.1 พันล้านบาท

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาภาระหนี้สินทางการเงินให้อยู่ในระดับต่ำ ตลอดจนมีการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด มีแหล่งที่มาของรายได้ที่กระจายตัว รวมถึงมีสถานะแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องที่อยู่ในเกณฑ์ดี

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

ความเป็นไปได้ในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตยังมีจำกัดในระยะใกล้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากฐานทุนของบริษัทตลอดจนสถานะแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องเสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

 

 

บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP)

อันดับเครดิตองค์กร:

A

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

TCAP22NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565

A

TCAP238A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566

A

TCAP23OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566

A

TCAP258A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 900 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568

A

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 10,200 ล้านบาท ภายใต้โครงการ Medium-Term Notes Program ปี พ.ศ. 2565

A

แนวโน้มอันดับเครดิต:

Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com  

ติดต่อ [email protected]  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

       © บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2565 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

      ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

 Click Donate Support Web  

 

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

PTG 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!