WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

3060 NRF

NRF ประกาศงบปี 64 ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง รายได้พุ่ง 49.1%

เดินหน้าขยายธุรกิจเป็นแพลตฟอร์มอาหารโปรตีนจากพืชในระดับโลก

บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผล 0.041 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้น XD 28 เม.. นี้

         บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์หรือ NRF ผู้ผลิตและส่งออกอาหารและเครื่องปรุงรสชั้นนำ ประกาศผลการดำเนินงานงวดปี 64 ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายรวม 2,100 ล้านบาท เติบโต 49.1% และกำไรสุทธิ 221 ล้านบาท เติบโต 78% และกำไรสุทธิ จากการดำเนินงานปกติ 318 ล้านบาท เติบโต 26.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ฟากบอร์ด NRF เสนอจ่ายเงินปันผลอัตรา 0.041 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เม.. นี้ เดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อก้าวเป็นแพลตฟอร์มอาหารโปรตีนจากพืชในระดับโลก ผ่านการปรับโครงสร้างบริษัทฯ ลุยตลาด Plant-based พร้อมเพิ่มขีดความสามารถความเป็นผู้นำด้าน Specialty Food Manufacturer 

          นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาหารโปรตีนจากพืช อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมรับประทานและเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 664 ล้านบาท เติบโต 51.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 438 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการรับรู้รายได้จากบริษัท City Food บริษัท BOOSTED NRF Corp. และ บริษัท Indeem Group จำกัด ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถทำกำไรสุทธิ 123 ล้านบาท และกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 140 ล้านบาท เติบโต 249.4% และ 65.5% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 35 ล้านบาท และกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 85 ล้านบาท หลังรับรู้กำไรจากกการจำหน่ายเงินลงทุนบางส่วนของบริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด (GTH) ในไตรมาส 4/2564 

          ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 2,100 ล้านบาท เติบโต 49.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายรวม 1,408 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 221 ล้านบาท และกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 318 ล้านบาท เติบโต 78% และ 26.2% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 124 ล้านบาท และกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 252 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) อยู่ที่ 559 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถือเป็นผลการดำเนินงานที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง แม้ยังต้องเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยมีการบริหารจัดการที่ดีผ่านการจัดเตรียมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ทำให้ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย และปัญหาด้านการขนส่งโลจิสติกส์ทั่วโลก โดยได้ติดตามและสนับสนุนลูกค้าอย่างใกล้ชิด และมีการออกมาตรการร่วมกันในการจัดการสถานการณ์ ทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ระดับคงที่ หรือดีขึ้น ซึ่งคาดว่าปัญหาด้านการขนส่งจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565

          ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มาจากผลิตภัณฑ์อาหารไทยและอาหารท้องถิ่น และอาหาร specialty ที่มีสัดส่วนรายได้กว่า 77% โดยมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นของลูกค้าในทุกประเภทสินค้า และในทุกภูมิภาค รวมถึงการรับรู้รายได้จากบริษัท City Food และการรับรู้รายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่ธุรกิจ E-commerce มีสัดส่วนรายได้ 18% โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้จากบริษัท BOOSTED NRF Corp. ซึ่งได้ดำเนินการเข้าซื้อกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้า ทั้งหมด 3 แบรนด์ คือ Prime Labs, SOL Trading และ WellPath อีกทั้งยังมีการขยายตัวของธุรกิจ E-commerce ในประเทศ ผ่านการลงทุนในบริษัท Indeem Group จำกัด และผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ที่มีสัดส่วนรายได้ 1% มาจากการรับรู้รายได้การขายเครื่องจักร และอะไหล่ V-shape นอกจากนี้ ยังรับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนบางส่วนของบริษัท GTH และกำไรจากการขายธุรกิจน้ำเต้าหู้ รวมถึงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา เป็นต้น

 

EXIM One 720x90 C J

GC 720x100

 

          ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมา NRF ได้เร่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) โดยเดินหน้าปรับโครงสร้างบริษัทฯ ผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศสหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และฮ่องกง พร้อมลุยธุรกิจ Plant-based และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก รองรับแผนการลงทุนในอนาคต สอดรับกับทิศทางการเติบโตของตลาด Plant-based ที่ยังคงเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ และขยายตัวอย่างต่อเนื่องในทั่วโลก โดยในไตรมาส 4/2564 ได้นำ บจ.นิวทรา รีเจนเนอเรทีฟ โปรตีน (Nutra Regenerative Protein Co. Ltd : NRPT) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บจ. อินโนบิก (เอเซีย) หรือ (อินโนบิก) และ บจ. โนฟ ฟู้ดส์ ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับ แพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศอังกฤษ ในสัดส่วนการลงทุน 51% และ 49% ตามลำดับ เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท แพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศไทย : Plant & Bean (Thailand) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการด้านอาหาร โดยจะนำเทคโนโลยีสายการผลิตโปรตีนจากพืชชั้นสูงจากประเทศอังกฤษมาตั้งไว้ที่ประเทศไทย ตั้งเป้ากำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปี มีแผนจะเริ่มดำเนินการออกแบบ และก่อสร้างภายในปี 2565 เพื่อมุ่งขยายธุรกิจเป็นแพลตฟอร์มอาหารโปรตีนจากพืชในระดับโลก

          นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มขีดความสามารถความเป็นผู้นำด้าน Specialty Food Manufacturer ผ่านการจำหน่ายเงินลงทุน 25% ในบริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด (GTH) ให้กับ Australis Capital Inc (AUSA) ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการผลิตภัณฑ์กัญชงในอเมริกา เพื่อเข้ามาเป็นพันธมิตรในการเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้กับ NRF ในธุรกิจกัญชง และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันแผนกลยุทธ์ที่มุ่งมั่นจะเป็นผู้นำทางการตลาดในอุตสาหกรรมกัญชงในประเทศไทย ผ่านการมีพันธมิตรระดับโลก ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีความสามารถในการแข่งขันทั้งในภาคการส่งออกและอุปโภคบริโภคภายในประเทศ หลังจากที่อุตสาหกรรมกัญชงถูกกฎหมาย บริษัทฯ มองว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวจะมีแนวโน้มที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และความรู้ ความเชี่ยวชาญ รวมถึงนวัตกรรมของบริษัท AUSA ทั้งในการเพาะปลูกและการผลิตจะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกัญชงอีกด้วย ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/2564 บริษัทฯ ได้มีการเปิดธุรกิจ Hemp House ภายใต้การดำเนินงานของ GTH ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์คาเฟ่เชิงสุขภาพ โดยเปิดสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้า The Emquartier ด้วยจุดเด่นที่เน้นผสมผสานพืชเพื่อสุขภาพมาเป็นส่วนผสมของอาหารและเครื่องดื่มที่ให้บริการในร้าน โดยใช้ผลิตผลหลักจากกัญชง

          ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่เชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทฯ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 มีมติให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.041 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เม.. 2565 และเสนอจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้

 

A3060

 Click Donate Support Web

TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100NHA720x100

เจนเนอราลี่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!