WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

2502 STP Suranai

... นับหนึ่งไฟลิ่ง STP คาดเทรด mai ปีนี้

ระดมทุนขยายธุรกิจ รับตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารบูม

          ...นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ หรือ STP ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร พร้อมเดินหน้าเข้าเทรด mai คาดเสนอขายไอพีโอ 25.4 ล้านหุ้น ภายในปีนี้ ชูจุดเด่น ดีมานด์บรรจุภัณฑ์พุ่ง STP พร้อมเสิร์ฟลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหารคนและอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นฐานลูกค้ารายใหญ่ และการขยายไปยังฐานลูกค้ารายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Direct Food Contact ที่ชูเรื่องมาตรฐานและความปลอดภัย นับเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีการเติบโตสูง เงินที่ได้จากการระดมทุนใช้ขยายโรงงาน - ลงทุนเครื่องจักร รวมทั้ง ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

          นายสุรนัย โรจน์วงศ์จรัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ STP เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการพิมพ์บรรจุภัณฑ์กระดาษและสิ่งพิมพ์ทุกชนิด โดยมีบริการตั้งแต่การพัฒนาและออกแบบบรรจุภัณฑ์ ที่ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพสูง ด้วยการพิมพ์งานสูงสุด 12 สี และมีบริการหลังพิมพ์ต่างๆ เช่น การเคลือบยูวี การปั๊มฟอยล์ทอง การปั๊มฟอยล์เงิน การประกบลูกฟูก การไดคัท เป็นต้น ด้วยวิสัยทัศน์ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้าด้วยคุณภาพ บริการ และกระบวนการผลิตที่เป็นมาตรฐานสากล

          เพื่อขยายการเติบโตรองรับภาพรวมอุตสาหกรรมที่ขยายตัว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตอาหารคนและอาหารสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นฐานลูกค้ารายหลักของ STP มีแนวโน้มเติบโตและขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น จึงส่งผลดีต่อบริษัทฯ ให้มีคำสั่งซื้อที่ดีต่อเนื่องในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ การวางแผนขยายฐานลูกค้ารายใหม่ รองรับโลกยุคหลังโควิด บรรจุภัณฑ์จึงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญเพื่อใช้ในการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและแบรนด์ อีกทั้ง ภาพรวมตลาดบรรจุภัณฑ์มีแนวโน้มเติบโต รับตลาดอีคอมเมิร์ซ และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นต่อสินค้าอุปโภคและบริโภค

          STP จึงวางกลยุทธ์ในการขยายโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร และขยายกำลังการผลิตที่เน้นการผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์อาหารที่สามารถสัมผัสอาหารโดยตรง (Direct Food Contact) เพื่อเปิดช่องทางการขยายฐานลูกค้าใหม่ รวมทั้ง การส่งมอบสินค้าให้ตรงเวลา มุ่งเน้นรับงานลูกฟูกที่เป็นกล่องพิมพ์ออฟเซ็ทที่มีคุณสมบัติด้านความสวยงามและความแข็งแรง รวมทั้ง การเจาะตลาดลูกค้าใหม่เพื่อสนับสนุนการใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่การพัฒนาบุคลากร และเพิ่มศักยภาพความสามารถของพนักงาน มุ่งเน้นการปรับปรุงมาตรฐานการผลิตให้ได้ตามมาตรฐานสากลครบทุกขั้นตอนเพื่อสามารถรับงานผลิตสินค้ากลุ่ม Direct Food Contact ได้

          โดย STP มีวัตถุประสงค์การระดมทุน เพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนขยายโรงงาน และลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม รวมทั้ง ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและการดำเนินการอื่นใดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการ ซึ่งจะสนับสนุนให้ STP สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องตามกลยุทธ์ที่วางไว้ จากปัจจุบัน มีกำลังการผลิตรวม 10,000 ตันต่อปี ก้าวสู่ผู้ประกอบธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ชั้นนำของประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และการบริหารงานอย่างมืออาชีพ

 

EXIM One 720x90 C J

GC 720x100

 

          นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจาก STP ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ...) โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 25,400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น 25.4% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้ภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ ล่าสุด สำนักงาน ... ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในไตรมาส 2 ปี 2565

          โดยจุดเด่นของ STP คือผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนมีความน่าเชื่อถือและเชื่อมั่นจากลูกค้า ด้วยการก่อตั้งบริษัทฯ มายาวนานกว่า 50 ปี มีฐานลูกค้ารายใหญ่คือกลุ่มผู้ผลิตอาหารคนและอาหารสัตว์คิดเป็นสัดส่วนราว 94% ของรายได้ ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต และการเพิ่มโอกาสไปยังฐานลูกค้ารายใหม่ ด้วยการลงทุนเพิ่มเครื่องจักรที่ทันสมัย และการเพิ่มมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล จึงมองว่า ภายหลังการระดมทุน จะยิ่งเพิ่มความพร้อมในการขยายตลาดดังกล่าวนี้ ด้วยฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น

          ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561 - 2563) STP มีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 352.2 ล้านบาท 370.2 ล้านบาท และ 440.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 5.1% ในปี 2562 และ 19.0% ในปี 2563 โดยหลักเป็นผลมาจากลูกค้ารายใหญ่รายเดิม

          ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลบรรจุกระป๋องและอาหารทะเลแปรรูป ได้เพิ่มยอดสั่งผลิตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนกำไรสุทธิในปี 2561 - 2563 ที่ 63.2 ล้านบาท 59.0 ล้านบาท และ 95.4 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 35.4% 36.1% และ 39.9% ตามลำดับ เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดการประหยัดเนื่องจากขนาด (Economies of Scale) 

          รายได้งวด 9 เดือนแรกปี 2564 อยู่ที่ 431.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 337.0 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 97.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 69.7 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 39.7% อัตราส่วนกำไรสุทธิ 22.7%

 

A2502

 Click Donate Support Web

TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100NHA720x100

เจนเนอราลี่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!