- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Monday, 16 August 2021 23:05
- Hits: 14506
MGT รุกสยายปีกอินโดจีน มีดีลซื้อกิจการเคมีปลายปี บุ๊กเงินซื้อกิจการ Q4 โกยยอดขายปีละ 200 ลบ.
MGT ไตรมาส 2/64 มีรายได้รวม 436.53 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4.59 ล้านบาท กางแผนสยายปีกธุรกิจในอินโดจีน ลาว กัมพูชา ชี้มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ พร้อมแย้มอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการเคมีภัณฑ์ คาดสรุปภายในปีนี้ ส่วนโครงการร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่น เริ่มบุ๊กรายได้ไตรมาส 1/65 เดินหน้าต่อยอดธุรกิจพืชสมุนไพรกัญชงหนุนโต
ดร.วิทยา อินาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGT เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายการเติบโตไปยังอินโดจีน อาทิ ลาว กัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ขยายตลาดไปยังประเทศเมียนมาเเล้ว โดยมองว่ากลุ่มประเทศดังกล่าวมีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากการที่ประเทศลาวเปรียบเสมือนเป็นแบตเตอรีของอาเซียน รวมถึงยังมีทรัพยากรธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะเรื่องแร่ธาตุ ปัจจุบันบริษัทได้ส่งทีมงานเข้าไปศึกษาพื้นที่ เพื่อนำมาต่อยอดกับธุรกิจในอนาคต
“ส่วนประเทศกัมพูชาก็ถือว่ามีความน่าสนใจมาก เนื่องด้วยมีพื้นที่ติดทะเลและมีแม่น้ำโขงผ่าน และปัจจุบันมีนักลงทุนจากประเทศจีนเข้าไปลงทุนด้านเคมีภัณฑ์ในกัมพูชาค่อนข้างมาก เพื่อรองรับระบบรถไฟความเร็วสูงจากคุณหมิง เชื่อมต่อมาที่ลาว และต่อไปในอนาคตก็ขยายไปถึงกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันทางบริษัทเอง ก็เริ่มส่งสินค้าให้กับลูกค้าในกัมพูชาบ้างแล้ว”
ดร.วิทยา กล่าวพร้อมเปิดเผยต่อว่า อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนควบรวมกิจการ (M&A) กับบริษัทที่จำหน่ายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่ใช้ ผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริมอยู่ 1 ดีล เป็นบริษัทจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ สำหรับใช้ในเครื่องสำอางและอาหารเสริม โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่ออนุมัติการลงทุนได้เร็วๆ นี้ ทั้งนี้การซื้อกิจการดังกล่าวจะช่วยเสริมฐานความแข็งแกร่งด้านการจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ และเพิ่มฐานลูกค้าออกไปในวงกว้าง นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนสำหรับต่อยอดธุรกิจจากพืชสมุนไพร หรือกัญชง อยู่ในกระบวนการดำเนินงาน แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถแจ้งรายละเอียดได้
สำหรับ ไตรมาส2/64 MGT มีรายได้รวม 436.53 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4.59 ล้านบาท ส่วนธุรกิจของบริษัทครึ่งปีหลัง ดร.วิทยา กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2564 ที่ 950 ล้านบาท สำหรับ เเนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทคาดว่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีออเดอร์ยาวไปจนถึงเดือนกันยายนแล้ว ทำให้เบื้องต้นมองว่าผลงานไตรมาส 3/2564 น่าจะออกมาดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจาก บริษัทย่อย เมกาเคม พลัส จำกัด ผู้นำเข้าเอทานอลบริสุทธิ์ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 80% เนื่องจากสินค้าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ทางด้านการลงทุนในโครงการ Expanded Graphite ที่ร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่น คาดรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสที่ 1/2565
สำหรับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 นั้น ดร.วิทยากล่าวว่า ในระลอกใหม่ช่วงต้นไตรมาส 2/2564 จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการบางรายที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท แต่สัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวถูกชดเชยจากการที่หลายประเทศเริ่มมีการผ่อนปรน มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างมีนัยยะ ส่งผลให้การส่งออกมีการฟื้นตัวโดดเด่น ทำให้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 64 บริษัทจะมีผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง
“บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการธุรกิจเคมีอาหาร เครื่องดื่ม ยา และเครื่องสำอาง ด้วยมูลค่าการลงทุนราว 200 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ โดยบริษัทมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการลงทุน และยังมีกำไรจากผลการดำเนินงานเข้ามาเพิ่มเติม จึงยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มทุนอย่างแน่นอน
ความเสี่ยงหลักๆคงเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีอยู่ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ต่างๆที่เป็นผลกระทบภายนอกได้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGT กล่าว
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ